Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ - Coggle Diagram
แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์
องค์ประกอบของแผนที่
ชื่อแผนที่
บอกว่าแผนที่นั้นแสดงข้อมูลอะไร
เช่น แผนที่แสดงที่ตั้งและอาณาเขตของทวีปต่างๆ
ทวีปเอเชีย
ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย
ทวีปยุโรป
ทวีปแอฟริกา
ทวีปอเมริกาเหนือ
9 more items...
ที่ตั้ง
1 more item...
ลักษณะภูมิประเทศ
4 more items...
ลักษณะประชากร
1 more item...
ลักษณะสังคมและวัฒนธรรม
1 more item...
ทรัพยากรธรรมชาติ
1 more item...
ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ
6 more items...
ลักษณะเศรษฐกิจ
7 more items...
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทวีป
4 more items...
ที่ตั้ง
ทวีปยุโรปมีพื้นที่ทั้งหมดอยู่บริเวณซีกโลกเหนือค่อนไปทางขั้วโลกระหว่างละติจูด 36 องศา ถึง71องศาเหนือ และระหว่างลองจิจูด 9 องศา ตะวันตก ถึงลองจิจูด 66 องศา ตะวันออก
1 more item...
ลักษณะภูมิประเทศ
เป็นที่ราบ ที่รายชายฝั่งทะเล ที่ราบตะกอนน้ำพา
1 more item...
ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ
ภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของยุโรปจำแนกได้ ดังนี้
7 more items...
ทรัพยากรธรรมชาติ
ดิน
1 more item...
ป่าไม้และสัตว์ป่า
1 more item...
แร่
1 more item...
ลักษณะประชากร
ประชากรอาศัยอยู่อย่างหน้าแน่นบริเวณยุโรปตะวันตก
ยุโรปใต้และบางส่วนของยุโรปตะวันออก
1 more item...
ลักษณะสังและวัฒนธรมม
1. เป็นสังคมที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาการต่าง ๆ มาก
2. เป็นสังคมเมืองมากกว่าชนบท มีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยว
3. มีความผูกพันกับเครือญาติไม่มากนัก ไม่แน่นแฟ้นเหมือนสังคมไทย
4. เป็นสังคมที่มีระเบียบวินัยเคร่งครัด รักประชาธิปไตย รักความเป็นอิสระ รักเสรีภาพ ขยันขันแข็ง ในการทำงาน เน้นการช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด มีความเป็นตัวของตัวเอง
เป็นวัฒนธรรมของชาวคริสต์ แบบประชาธิปไตย เพราะประชากรส่วนใหญ่ นับถือศาสนาคริสต์ รักอิสระเสรี รักการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ลักษณะเศษฐกิจ
เกษตรกรรม
3 more items...
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทวีป
1. สภาพอากาศแปรปรวนผิดปกติ
1 more item...
2. ไฟป่า
1 more item...
3. มลพิษทางอากาศ
1 more item...
ลักษณะทั่วไปของทวีป
ทวีปออสเตรเลียและโอเซียเนีย เป็นที่ตั้งของประเทศออสเตรเลีย ประเทศนิวซีแลนด์ ทวีปออสเตรเลียได้รับสมญานามว่า ทวีปเกาะส่วนหมู่เกาะแปซิฟิกซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศอื่น ๆ ต่อเนื่องไปถึงทวีปแอนตาร์กติก เรียกว่า โอเชียเนีย หมายถึง เกาะและหมู่เกาะในภาคกลางและภาคใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งหมู่เกาะไมโครนีเซีย เมลานีเซีย โปลีนีเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะมลายู
ภูมิภาคของทวีป
ออสเตรเลีย ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ได้แก่ ปาปัวนิวกินี หมู่เกาะเซโลมอน ฟิจิ วานูอาตู คิริบาส ซามัวตะวันตก ตองกา ตูวาลู นาอูรู ไมโครนีเซีย
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทวีป
ภัยธรรมชาติและการระวังภัยในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย
ภัยธรรมชาติที่ประเทศไทยมักประสบเป็นประจำ ได้แก่ วาตภัย อุทกภัย และแผ่นดิน ถล่ม สำหรับ ทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนียโดยภาพรวมแล้ว จะประสบกับภัยธรรมชาติอันเกิดจาก ปรากฏการณ์เอลนิโญ ลานีญา ภัยแล้ง แผ่นดินไหว**
ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย
เป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ประมาณ 44 ล้าน ตร.กม.เป็นทวีปที่มีพื้นที่กว้างที่สุดของโลก ตั้งอยู่ทางซีกตะวันออกของโลก ดินแดนเกือบทั้งหมดอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ยกเว้นบางส่วนของหมู่เกาะ ในประเทศอินโดนีเซีย ทวีปเอเชียตั้งอยู่ระหว่างละติจูด1 องศา 15 ลิปดาเหนือ ถึง 77 องศา 41 ลิปดาเหนือและลองจิจูด 24 องศา 4 ลิปดาตะวันออกถึง 169 องศา 40 ลิปดาตะวันตก
ภูมิภาคของทวีปเอเชีย
1. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งออกเป็น 11 ประเทศได้แก่ ไทย มาเลเชีย สิงค์โปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเชีย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม ติมอร์ตะวันออก
2. เอเชียตะวันออก ประกอบด้วยประเทศต่างๆ 6 ประเทศและ 2 เกาะ ได้แก่
จีน ไต้หวัน มองโกเลีย เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เกาะฮ่องกง และ เกาะมาเก๊า**
3. เอเชียใต้ ประกอบด้วยประเทศต่างๆ 8 ประเทศ ได้แก่
อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน เนปาล ภูฎาน ศรีลังกา มัลดีฟส์
1 more item...
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทวีป
1.ปัญหาขยะ
2. การเพิ่มขึ้นของประชากร
3.ปัญหาการลดลงของทรัพยากรธรรมชาติ
4.ปัญหาการเกิดมลพิษ
5.ปัญหาจากการทาลายระบบนิเวศ
ขอบระวางแผนที่
ขอบเขตของพื้นที่มีตัวเลขบอกค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์
ทิศ
กำหนดให้ด้านบนขอบระวางแผนที่เป็นทิศเหนือเสมอ
ทิศเหนือจริง (True North)
เป็นแนวเส้นตรงที่ชี้ไปยังขั้วโลกเหนือจาก ณ ตำแหน่งใด ๆ บนพื้นโลกทิศเหนือจริง
จึงได้แก่ ทิศทางของเสนเมริเดียนหรือลองจิจูด สัญลักษณของทิศเหนือจริงเป็นรูปดาว
ทิศเหนือกริด (Grid North)
เป็นแนวทิศเหนือตามเส้นกริดทางดิ่งของระบบเส้นกริดในแผนที่ เส้นกริดจะไม่ชี้ไปยังทิศเหนือจริงคือ เบี่ยงเบน
ออกจากแนวทิศเหนือจริง สัญลักษณ์ของทิศเหนือกริดเป็นตัวอักษร GN หรือ Y
ทิศเหนือแม่เหล็ก (Magnetic North)
เป็นแนวที่เข็มของเข็มทิศชี้ไปในขณะที่เข็มทิศอยู่นิ่งทิศทางนี้เรียกวา ทิศเหนือแม่
เหล็ก สัญลักษณของทิศเหนือแม่เหล็กเป็นลูกศร
ทิศเหนือ N
จะเรียกว่าทิศอุดร
ทิศใต้ S
จะเรียกว่าทิศทักษิณ
ทิศตะวันออก E
จะเรียกว่า ทิศบูรพา
ทิศตะวันตก W
จะเรียกว่า ทิศปัจจิม
ทิศตะวันออกเฉีงเหนือ NE
จะเรียกว่า ทิศอีสาน
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ SW
จะเรียกว่า ทิศหรดี
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ NW
จะเรียกว่า ทิศพายัพ
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ SE
จะเรียกว่าว่า ทิศอาคเนย์
เส้นโครงแผนที่
เส้นเมริเดียนและเส้นขนานละติจูด ใช้ถ่ายถอดลักษณะทรงกลมของโลกบนพื้นราบ
เส้นโครงแผนที่คงรูป
เป็นเส้นโครงแผนที่แบบระนาบ โดยแผนที่จะคงรูปเมื่อมีพื้นที่ขนาดเล็กและสามารถวัดขนาดของพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง
เส้นโครงแผนที่คงระยะ
เป็นเส้นโครงแผนที่แบบรักษาระยะทาง กล่าวคือ สามารถวัดระยะบนแผนที่ได้เท่ากับระยะทางในภูมิประเทศจริง
เส้นโครงแผนที่คงพื้นที่
เป็นเส้นโครงแผนที่แบบคงพื้นที่ กล่าวคือแผนที่ลักษณะนี้จะเสียลักษณะของรูปร่างจริง แต่สามารถวัดพื้นที่บนแผนที่ได้ในขนาดเดียวกับพื้นที่บนผิวโลกในบริเวณที่มีรายละเอียดตรงกัน
เส้นโครงแผนที่คงทิศทาง
เป็นเส้นโครงแผนที่ที่สามารถวัดภาคของทิศ (Azimuth) บนแผนที่ได้เท่ากันกับภาคของทิศบนพื้นผิวโลก ณ ตำแหน่งเดียวกันจะมีประโยชน์ในการใช้เป็นแผนที่เส้นทางการเดินเรือ หรือเครื่องบิน หรือแผนที่ดาราศาสตร์
รูปแบบของเส้นโครงแผนที่
เส้นโครงแผนที่แบบระนาบ
เป็นเส้นโครงแผนที่ที่เกิดจากระนาบหรือแผ่นแบนราบสัมผัสกับผิวโลกแล้วมีการสมมติให้ฉายแสงออกมาจากภายในโลก ทำให้เส้นเมริเดียนและเส้นขนานไปแตะบนพื้นผิวระนาบดังกล่าวที่สัมผัสกับผิวโลก
เส้นโครงแผนที่แบบกรวย
เป็นเส้นโครงแผนที่ที่เกิดจากเงาของเส้นเมริเดียนและเส้นขนานตกลงบนกรวยที่ครอบผิวโลกอยู่ จากนั้นจึงคลี่กรวยออกเป็นแผ่นแบนราบ
เส้นโครงแผนที่แบบทรงกระบอก
เป็นเส้นโครงแผนที่จากการสมมุติให้ฉายเงาของเส้นเมริเดียนและเส้นขนานลงบนวัตถุรูปทรงกระบอกซึ่งโอบล้อมผิวโลกอยู่ในลักษณะต่างๆ
เส้นละติจูด
เป็นเส้นสมมติที่วางตามแนวนอนของโลก และยังมีเส้นที่วางตัวตามแนวนอนของโลกตามระดับความสูงกว่าหรือต่ำกว่า ซึ่งเรียกว่า เส้นขนานเส้นละติจูด (Parallels of Latitude) ซึ่งเส้นขนานของเส้นละติจูดเหล่านี้จะเป็นเส้นที่วางขนานกับเส้นละติจูดที่อยู่บริเวณตรงกลางหรือเรียกว่าเส้น อิเควเตอร์ (Equator) **
มี 5 เส้นคือ
1.วงกลมอาร์กติก คือวงกลมละติจูดที่อยู่เหนือที่สุด ในบรรดา 5 วงกลมละติจูดหลักบนแผนที่โลก พื้นในในบริเวณนี้เรียกว่าอาร์กติก ด้านเหนือสุดของวงกลม มีปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์จะอยู่เหนือของฟ้าตลอดเวลาต่อเนื่องกัน 24 ชั่วโมง อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ทำให้สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้แม้ในเวลากลางคืน ตำแหน่งอยู่ที่ 66°33′48.7″ เหนือเส้นศูนย์สูตร
2. ทรอปิกออฟแคนเซอร์ ทรอปิกเหนือ เป็นวงกลมละติจูดเหนือสุดบนโลกที่ดวงอาทิตย์ปรากฏหัวศีรษะโดยตรงเมื่อถึงจุดสูงสุด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นปีละครั้ง คือ เวลาอายันเหนือ (Northern solstice) เมื่อซีกโลกเหนือเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ถึงขนาดมากที่สุด วันที่ 15 กันยายน 2021 เส้นนี้อยู่ที่ 23°26′11.3″ (หรือ 23.43647°) เหนือเส้นศูนย์สูตร
3.เส้นศูนย์สูตรเส้นที่ลากผ่านศูนย์กลางวงกลมในแนวทิศตะวันตก-ตะวันออก และตั้งฉากกับแกนหมุนของโลก เป็นเส้นสมมุติที่เป็นเส้นวงกลมใหญ่แบ่งโลกออกเป็นสองซีกเท่า ๆ(0° เหนือ)
4. ทรอปิกออฟแคปริคอร์นหรือ ทรอปิกใต้ เป็นวงกลมละติจูดที่ประกอบด้วยจุดใต้แสงอาทิตย์ (subsolar point) ในอายันใต้ (Southern solstice) ของเดือนธันวาคม ทรอปิกออฟแคปริคอร์นเป็นละติจูดใต้สุดที่ดวงอาทิตย์สามารถปรากฏอยู่เหนือหัวพอดี ส่วนละติจูดเหนือสุดที่ดวงอาทิตย์สามารถปรากฏอยู่เหนือหัวพอดีคือทรอปิกออฟแคนเซอร์(23° 26' 22" ใต้)
5. วงกลมแอนตาร์กติก คือส่วนที่อยู่ไปทางขั้วโลกใต้มากที่สุดของ 5 วงกลมหลักของวงกลมละติจูดในแผนที่โลก พื้นที่ในบริเวณวงกลมขั้วโลกใต้นี้เป็นที่รู้จักในชื่อแอนตาร์กติก
ลองจิจูด
เส้นลองจิจูด เป็นเส้นสมมติที่วางตามแนวตั้งของโลก หรือที่เรียกว่าเส้นเมอร์ริเดียน (Meridian)พิกัดที่วางตัวอยู่บนเส้นเมอร์ริเดียนสำคัญนี้จะบอกค่าลองจิจูดเป็น 0 องศาลองจิจูด หรือที่เรียกว่าเส้นกรีนิช เป็นเส้นลองจิจูดที่มีชื่อเรียกพิเศษอีกชื่อหนึ่งว่า เส้นแบ่งเขตวันสากล
เส้นเมริเดียนแรกหรือเส้นเมริเดียน 0 องศาจะแบ่งโลกเป็น 2 ซีก คือ ซีกโลกตะวันออก(เอเชีย) และซีกโลกตะวันตก (ยุโรป) โดยมีเส้นลองจิจูดทางซีกโลกตะวันออก 180 เส้น ซีกโลกตะวันตก 180 เส้นเส้นลองจิจูดจะเป็นตัวกำหนดเวลาท้องถิ่นของบริเวณที่ลากผ่าน ( เส้นละติจูดจะบอกอากาศของบริเวณที่เส้นพาดผ่าน)
โดยห่างกัน 1 เส้น เวลาจะแตกต่างกัน 10 นาที
**เวลาสากลกำหนดจากเวลาปานกลางกรีนิช ( Greenwich Mean Time – G.M.T. )
ห่างจากเส้น G.M.T. ไปทางตะวันออก เวลาจะเร็วขึ้น 4 นาที/เส้น
ห่างจากเส้น G.M.T. ไปทางตะวันตก เวลาจะช้าลง 4นาที/เส้น**
คำอธิบายสัญลักษณ์
เครื่องมือแทนของจริงในภูมิประเทศ
เป็นรายละเอียดที่อธิบายความหมายของสัญลักษณ์ Symbol ที่ใช้แสดงในแผนที่ จะปรากฏที่มุมล่างด้านซ้ายของแผนที่
การทำแผนที่เป็นการรวบรวมข้อมูลภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่บนพื้นผิวโลก มาแสดงโดยสร้างเป็นสัญลักษณ์ในแผนที่ จึงต้องจำแนกลักษณะข้อมูลภูมิศาสตร์ที่นำมาทำแผนที่โดยแบ่งเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ Qualitative data และข้อมูลเชิงปริมาณ Quantitative data แล้วเลือกใช้สัญลักษณ์ให้เหมาะสมกับข้อมูล
ข้อมูลเชิงคุณภาพ
ที่ใช้ในการทำแผนที่ หมายถึง ข้อมูลที่ระบุลักษณะซึ่งจัดจำแนกเป็นกลุ่มได้ อยู่ในระดับการวัดนามมาตรา Nominal
ข้อมูลเชิงปริมาณ
ที่ใช้ในการทำแผนที่ หมายถึง ข้อมูลที่มีคุณสมบัติเชิงปริมาณ และเชิงเรียงลำดับ Ordinal เช่น ข้อมูลปริมาณน้ำฝน จำนวนประชากร ความหนาแน่นของประชากรต่อหน่วยพื้นที่ เป็นต้น
สัญลักษณ์ที่เป็นจุด point symbolใช้ทดแทนอาคารสิ่งก่อสร้างหรือพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น วัด โรงเรียน บ้าน ศาลา ที่ตั้งของเมือง
สัญลักษณ์ที่เป็นเส้น line symbol ใช้ทดแทนสิ่งที่มีความยาว เช่น ถนน ทางรถไฟ เส้นทางการบิน เส้นทางการเดินเรือ ท่อน้ำมัน แม่น้ำ
สัญลักษณ์ที่เป็นพื้นที่ area symbol ใช้ทดแทนพื้นที่ที่มีบริเวณกว้างขวาง เช่น ทุ่งหญ้า ป่าไม้ พื้นที่ไร่ เขตที่ราบสูง
มาตราส่วน
บอกอัตราส่วนระยะทางที่ย่อลงมาในแผนที่กับระยะทางจริงในภูมิประเทศอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างระยะทางในแผนที่กับระยะทางในภูมิประเทศจริง โดยกำหนดให้ระยะทางในแผนที่เป็น 1 หน่วย
แบ่งในทางภูมิศาสตร์ ได้แก่
แผนที่มาตราส่วนใหญ่มีขนาดมาตราส่วนใหญ่กว่า 1:75,000*
แผนที่มาตราส่วนเล็ก มีขนาดมาตราส่วนเล็กกว่า 1:1,000,000
แผนที่มาตราส่วนปานกลาง มีขนาดมาตราส่วนตั้งแต่ 1:250,000 ถึง 1:1,000,000
แผนที่มาตราส่วนใหญ่ มีขนาดมาตราส่วนใหญ่กว่า 1:250,000
แบ่งในกิจการทหาร ได้แก่
*แผนที่มาตราส่วนเล็ก มีขนาดมาตราส่วนตั้งแต่ 1:600,000
แผนที่มาตราส่วนปานกลาง มีขนาดมาตราส่วนใหญ่กว่า 1:600,000 แต่เล็กกว่า 1:75,000
เส้นเริเดียน
ตำแหน่งบนเส้นเรียกว่าลองจิจูดหรือเส้นแวงเป็นเส้นสมมติที่ลากเชื่อขั่วโลกเหนือและขั้วโลกใต้เป็นครึ่งวงกลมโดยผ่านค่ามุมลองจิจูดเดียวกัน พิกัดคือ ละติจูด 15 องศาเหนือ ลองจิจูด 105 องศาตะวันออก
เส้นขนานละติจูด
ตำแหน่งบนเส้นเรียกว่าละติจูดเป็นเส้นสมมติที่ลากขนานกับเส้นศูนย์สูตรไปทางทิศเหนือ 90 องศา และทิศใต้ 90 องศาโดยลากผ่านค่าของมุมละจิจูดเดียวกันไปรอบโลก พิกัดคือ ละติจูด 30 องศาใต้ ลองจิจูด 135องศาตะวันออก
ประเภทและชนิดของแผนที่
แผนที่ลายเส้น (Line maps) รายละเอียดที่ปรากฏบนแผนที่ลายเส้นอาจเป็น เส้นตรง เส้นโค้งหรือท่อนเส้นใดๆ ก็ได้
แผนที่รูปถ่าย (Photomap) เป็นแผนที่ที่ทำจากรูปถ่ายทางอากาศของสภาพภูมิประเทศทั้งหมดหรือบางส่วน เพื่อนำมาใช้แทนแผนที่ หรือเพิ่มเติมแผนที่ให้สมบูรณ์ในแผนที่รูปถ่าย มีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นกริด รายละเอียดข้อมูลชายขอบระวางแผนที่ เส้นชั้นความสูง ชื่อภูมิศาสตร์ แนวแบ่งเขต และข้อมูลอื่นๆ
แผนที่ผสม (Annotated maps) รายละเอียดที่ปรากฏจะผสมระหว่างรายละเอียดที่ได้จากการถ่ายภาพภูมิประเทศกับรายละเอียดที่วาดหรือเขียนขึ้น
แผนที่ทั่วไป เป็นแผนที่ที่แสดงลักษณะโดยทั่วไปได้แก่แผนที่แสดงลักษณะภูมิภาคต่างๆ โดยจะแสดงด้วยสี เพื่อให้เห็นความแตกต่างของลักษณะภูมิประเทศ
แผนที่อ้างอิง เป็นแผนที่ที่ใช้เป็นหลักในการทำแผนที่ชนิดอื่น ๆ แผนที่อ้างอิงที่สำคัญ ได้แก่ แผนที่ภูมิประเทศ คือ แผนที่ที่ใช้แสดงลักษณะภูมิประเทศบนพื้นผิวโลก เช่น ที่ราบ ที่ราบสูง เนินเขา แม่น้ำ เกาะ ถนน เมือง และแผนที่ชุด คือ แผนที่หลายเเผ่นที่มีมาตราส่วนและรูปแบบเป็นอย่างเดียวกัน และครอบคลุมพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะ
แผนที่เฉพาะเรื่อง เป็นแผนที่ที่แสดงลักษณะเฉพาะตามจุดมุ่งหมาย เช่น แผนที่ แสดงป่าไม้ แผนที่แสดงเส้นทางคมนาคม แผนที่แสดงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
แผนที่รัฐกิจ (political map) คือแผนที่แสดงอาณาเขตทางการปกครอง เช่น เขตจังหวัดหรือประเทศ แผนที่ชนิดนี้จะต้องแสดงอาณาเขตติดต่อกับดินเเดนของประเทศหรือรัฐอื่น พร้อมทั้งแสดงที่ตั้ง ชื่อเมืองหลวง เมืองท่า หรือเมืองสำคัญอื่น
แผนที่ภูมิอากาศ (climatic map) เป็นแผนที่สำหรับแสดงข้อมูลด้านภูมิอากาศโดยเฉพาะ เช่น
แผนที่เขตภูมิอากาศของโลก แผนที่ปริมาณฝนเฉลี่ยของประเทศไทย แผนที่ปริมาณฝนเฉลี่ยของโลก
แผนที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลก
แผนที่ธรณีวิทยา (geologic map) เป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นเพื่อเเสดงอายุ ประเภท และการ
กระจายตัวของหินเปลือกโลก การตกตะกอนทับถมของสารต่าง ๆที่ผิวโลกรวมทั้งแสดงรอยเลื่อนที่
ปรากฎบนผิวโลก และลักษณะทางธรณีวิทยาอื่นๆ
แผนที่การถือครองที่ดิน (cadastral map) เป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นเพื่อเเสดงอาณาเขตที่ดินใน
พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น ในเขตตำบล อำเภอ หรือจังหวัด โดยแบ่งออกเป็นแปลงๆ และแต่ละเเปลงต่างก็ แสดงสิทธิการครอบครองโดยการเเสดงการเป็นเจ้าของ
แผนที่แสดงพืชพรรณธรรมชาติ (natural vegetation map) เป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นเพื่อ
เเสดงประเภทของพืชพรรณธรรมชาติและการกระจายตัวของพืชพรรณชนิดนั้น ๆ ที่ปรากฎบนโลก ภูมิภาค
หรือประเทศต่างๆ
แผนที่ท่องเที่ยว (tourist map) เป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นเพื่อแนะนำสถานที่นั้น โดยแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งและสถานที่ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวโดยแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งและสถานที่ที่จำเป็นและเกี่ยวข้อง สำหรับการท่องเที่ยว เช่น เส้นทางการคมนาคมทั้งทางบก เรือ อากาศ ทีพัก ร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ชายหาด น้ำตก เกาะ แก่ง ภูเขา อุทยาน เป็นต้น
วลาดิเมียร์ เคิปเปน (Wladimir Koppen) นักภูมิศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้แบ่งเขตภูมิอากาศของโลกได้ 6 ประเภทใหญ่ ๆ โดยพิจารณาจากบริมาณน้ำฝน อุณหภูมิของอากาศ และพืชพรรณธรรมชาติ สรุปได้ ดังนี้
ภูมิอากาศแบบชื้น เขตร้อน (ใช้สัญลักษณ์ A)
ภูมิอากาศแบบแห้งแล้ง (ใช้สัญลักษณ์ B)
ภูมิอากาศแบบชื้น เขตอบอุ่น (ใช้สัญลักษณ์ C)
ภูมิอากาศแบบชื้น เขตหนาว (ใช้สัญลักษณ์ D)
1 more item...
ลูกโลก
ลูกโลกแบ่งได้เป็น 2 แบบ
1. ลูกโลกที่แสดงส่วนที่เป็นพื้นผิวโลก
แสดงส่วนที่เป็นพื้นน้ำ ได้แก่ ทะเลและมหาสมุทร แสดงส่วนที่เป็นพื้นดิน ได้แก่ เกาะ ทวีป ประเทศ
2. ลูกโลกที่แสดงโครงสร้างภายในเปลือกโลก
เป็นวัสดุสามมิติประเภทหุ่นจำลองแบบย่อส่วน โดยย่อส่วนหรือลดขนาดของโลก อาศัยมาตราส่วนกำหนดขนาด และระยะทางที่ใกล้เคียงข้อเท็จจริงมากที่สุด
สัญลักษณ์ที่ใช้ในแผนที่และลูกโลก
เครื่องหมายแสดงทิศ
ทางรถยนตร์
ทางรถไฟ
เส้นแบ่งอาณาเขต
แม่น้ำ
จังหวัด
อำเภอ
ประเภทของลูกโลก
ลูกโลกสัณฐาน
แสดงลักษณะภูมิประเทศ
ความสูงต่ำของผิวโลก
ลูกโลกรัฐกิจ
แสดงเขตการปกครอง
ของประเทศต่างๆ
องค์ประกอบของลูกโลก
แผนที่
เส้นเมริเดียนและเส้นขนาน
มาตราส่วน
แกนขั้วโลก
ประเภทเครื่องมือ
เครื่องวัดระยะ
เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับวัดระยะทางคดเคี้ยวไปมา และทำให้ค่าความคาดเคลื่อนน้อย ลักษณะของเครื่องมือประกอบด้วยลูกกลิ้งที่ปลายติดกับล้อที่เป็นหน้าปัดแสดงระยะทาง บนหน้าปัดมีเข็มเล็กๆคล้ายเข็มนาฬิกา เข็มจัวิ่งไปตามระยะที่ลูกกลิ้งหมุนไปมีด้ามสำหรับจับ
เทอร์โมมิเตอร์
เป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิอากาศ ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปมีดังนี้
1) เทอร์โมมิเตอร์ธรรมดา (ordinary thermometer) ที่ใช้กันเสมอในการตรวจวัดอุณหภูมิประจำวัน คือ เทอร์โมมิเตอร์ธรรมดาชนิดปรอทบรรจุอยู่ในหลอดแก้ว สามารถวัดอุณหภูมิได้อยู่ระหว่าง -20 ถึง 50 องศาเซลเซียส
2) เทอร์โมมิเตอร์สูงสุด (maximum thermometer) คือเทอร์โมมิเตอร์ชนิดปรอทบรรจุอยู่ในหลอดแก้วเช่นเดียวกับเทอร์มิเตอร์ ธรรมดา แต่แตกต่างกันตรงที่ว่า บริเวณลำเทอร์โมมิเตอร์เหนือกระเปาะบรรจุปรอทขึ้นมา เล็กน้อยจะเป็นคอคอดป้องกันปรอทที่ขยายตัวแล้วไหลกลับลงกระเปาะ ใช้วัดอุณหภูมิสูงสุด
3) เทอร์โมมิเตอร์ต่ำสุด (minimum thermometer) คือเทอร์โมมิเตอร์ชนิดเอทิลแอลกอฮอล์บรรจุในหลอดแก้ว มีก้านชี้รูปดัมบ์เบลล์ ยาวประมาณ 2 เซนติเมตรบรรจุอยู่ ใช้วัดอุณหภูมิต่ำสุด
4) เทอร์โมมิเตอร์แบบซิกซ์ (six's thermometer) ลักษณะเป็นหลอดแก้วรูปตัวยู ภายในบรรจุปรอทและแอลกอฮอล์ มีก้านชี้โลหะรูปดัมบ์เบลล์อหยู่ในหลอดข้างละ 1 อัน หลอดทางซ้ายบอกอุณหภูมิต่ำสุด หลอดทางขวาบอกอุณหภูมิสูงสุด อ่านอุณภูมิจากขอบล่าง
5.เทอร์โมกราฟ (thermograph) เป็น เครื่องมือบันทึกอุณหภูมิแบบต่อเนื่อง ที่นิยมใช้มีอยู่ 2 แบบ คือ เทอร์โมกราฟแบบโลหะประกบ ปกติจะนำไปรวมกับไฮโกรกราฟเป็นเครื่องเดียวกันเรียกว่า เทอร์โมไฮโกรกราฟ ส่วนอีกแบบหนึ่งเรียกว่า เทอร์โมกราฟชนิดปรอทบรรจุในแท่งเหล็ก เครื่องมือชนิดนี้สามารถวัดอุณหภูมิของดินได้ด้วย
เข็มทิศ
เข็มทิศ คือเครื่องมือสำหรับใช้หาทิศทาง มีเข็มแม่เหล็กที่แกว่งไกวได้อิสระในแนวนอนทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ ตามแรงดึงดูดของแม่เหล็กโลก และที่หน้าปัดมีส่วนแบ่งสำหรับหาทิศทางโดยรอบ เข็มทิศจึงมีปลายชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ (อักษร N หรือ น) เมื่อทราบทิศเหนือแล้วก็ย่อมหาทิศอื่นได้โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านขวามือเป็นทิศตะวันออก ด้านซ้ายมือเป็นทิศตะวันตก ด้านหลังเป็นทิศใต้ การบอกทิศทางในแผนที่โดยทั่วไป คือการบอกเป็นทิศที่สำคัญ 4 ทิศ คือทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก หรืออาจจะบอกละเอียดเป็น 8,16 หรือ 32 ทิศก็ได้
ประเภทให้ข้อมูล
รูปถ่ายทางอากาศ
ภาพของภูมิประเทศที่ได้จากการถ่ายรูปทางอากาศด้วยวิธีนำกล้องถ่ายรูปติดกับอากาศยานที่บินไปเหนือภูมิประเทศที่จะทำการถ่ายรูป แล้วทำการถ่ายรูปตามตำแหน่งทิศทางและความสูงของการบินที่ได้วางแผนไว้ก่อนแล้ว หลังจากนั้นนำฟิล์มไปล้างและอัดภาพ ก็จะได้รูปที่มีรายละเอียดภูมิประเทศในบริเวณที่ต้องการถ่ายปรากฏอยู่ ภาพถ่ายทางอากาศแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ภาพถ่ายแนวดิ่งและภาพถ่ายแนวเอียง
การศึกษาข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ สามารถทำได้ 2 วิธี คือ ศึกษาด้วยตาเปล่าและศึกษาด้วยกล้องสามมิติ
ภาพจากดาวเทียม
วัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นเลียนแบบดาวบริวารของดาวเคราะห์ เพื่อให้โคจรรอบโลกมีอุปกรณ์สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอวกาศและถ่ายทอดข้อมูลนั้นมายังโลก ดาวเทียมที่โคจรรอบโลกใช้เป็นอุปกรณ์โทรคมนาคมด้วย
ชนิดของดาวเทียม
1. ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา เป็นดาวเทียมที่บันทึกข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาดาวเทียมบางดวงจะโคจรรอบโลกในอัตราเร็วเท่ากับการหมุนของโลกและอยู่ในแนวตะวันออกตะวันตกเสมอ เช่น ดาวเทียม GMS ดาวเทียม GOES เป็นต้น ซึ่งจะมีการบันทึกข้อมูลภูมิอากาศเกือบตลอดเวลา จึงเป็นประโยชน์มากในการพยากรณ์อากาศและการเตือนภัย
2. ดาวเทียมสมุทรศาสตร์ เป็นดาวเทียมที่บันทึกข้อมูลสมุทรศาสตร์ เช่น ดาวเทียม SEASAT จะบันทึกข้อมูลด้านสมุทรศาสตร์ และดาวเทียม MOS (Marine Observation Satellite) นอกจากจะใช้ในการสำรวจด้านสมุทรศาสตร์แล้ว ยังนำมาใช้ในการสำรวจด้านสมุทรศาสตร์แล้ว ยังนำมาใช้ในการสำรวจบนแผ่นดินแต่ไม่เป็นที่นิยมมากนัก เป็นต้น
3. ดาวเทียมสำรวจแผ่นดิน เป็นดาวเทียมที่บันทึกข้อมูลของผิวโลก จึงมีการนำมาใช้ประโยชน์มากมาย เช่น ดาวเทียมธีออส THEOS ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทย ส่วนดาวเทียม LANDSAT ของสหรัฐอเมริกา ดาวเทียม SPOT ของประเทศฝรั่งเศส ดาวเทียม ERS ของกลุ่มประเทศยุโรป ดาวเทียม RANDARSAT ของประเทศแคนาดา เป็นต้น
4. ดาวเทียมสื่อสาร เป็นดาวเทียมเพื่อการติดต่อสื่อสารและโทรคมนาคม เช่น การรับส่งสัญญาณโทรศัพท์ โทรสาร ข่าวสาร ภาพโทรทัศน์ รายการวิทยุ ข้อมูลข่าวสาร คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ดาวเทียมสื่อสารเป็นดาวเทียมค้างฟ้าที่อยู่คงที่บนฟ้าของประเทศใดประเทศหนึ่งตลอดเวลา โดยหลายประเทศจะมีดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศของตนเอง เช่น ประเทศไทยมีดาวเทียมไทยคม ประเทศญี่ปุ่นมีดาวเทียมซากุระ ประเทศฝรั่งเศสมีดาวเทียมยูริสหรัฐอเมริกามีดาวเทียมเวสดาร์ แคนาดามีดาวเทียมแอนิค เป็นต้น
5. ดาวเทียมเพื่อกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก เป็นดาวเทียมที่ใช้ในการสำรวจหาตำแหน่งของวัตถุบนพื้นโลก ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น เป็นเครื่องมือนำร่องยานพาหนะต่างๆ จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง การกำหนดตำแหน่งเพื่อวางแผนก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค การหาตำแหน่งของสถานที่ที่ต้องการเดินทางไปโดยใช้ระยะทางที่สั้นที่สุด เป็นต้น
1 more item...
ประเภทจัดเก็บและเรียกใช้
การรับรู้ระยะไกล (RS)
ระบบสำรวจบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับพื้นผิวโลกด้วยเครื่องรับรู้ (Sensors) ซึ่งติดไปกับยานดาวเทียมหรือเครื่องบิน เครื่องรับรู้ตรวจจับคลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่สะท้อนจากวัตถุบนผิวโลก หรือตรวจจับคลื่นที่ส่งไปและสะท้อนกลับมา หลังจากนั้นมีการแปลงข้อมูลเชิงตัวเลขซึ่งนำไปใช้แสดงเป็นภาพและทำแผนที่
ระบบการทำงานของการรับรู้จากระยะไกล การบันทึกข้อมูลหรือรูปภาพด้วยเครื่องบินเรียกว่า รูปถ่ายทางอากาศ ส่วนดาวเทียมจะเรียกว่า ภาพจากดาวเทียม ซึ่งมีระบบการทำงาน ดังนี้
1.ระบบการทำงานของรูปถ่ายทางอากาศ การถ่ายรูปทางอากาศจะต้องมีการวางแผนการบินและมาตราส่วนของแผนที่ล่วงหน้า
2. ระบบการทำงานของภาพจากดาวเทียม การบันทึกข้อมูลของดาวเทียม
ประโยชน์ของการรับรู้จากระยะไกล
การพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อพยากรณ์ปริมาณและการกระจายของฝนในแต่ละวัน
สำรวจการใช้ประโยชน์ที่ดิน ใช้ประโยชน์ในการทำแผนที่การใช้ประโยชน์จากที่ดินและการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี เช่น พื้นที่ป่าไม้ถูกตัดทำลาย แหล่งน้ำที่เกิดขึ้นใหม่
การสำรวจทรัพยากรดิน ข้อมูลจากดาวเทียมและรูปถ่ายทางอากาศเป็นอุปกรณ์สำคัญในการสำรวจและจำแนกดิน ทำให้ทราบถึงชนิด การแพร่กระจาย และความอุดมสมบูรณ์ของดิน
การสำรวจด้านธรณีวิทยา และธรณีสัณฐานวิทยา เนื่องจากข้อมูลดาวเทียมครอบคลุมพื้นที่กว้าง มีรายละเอียดภาคพื้นดินสูงและยังมีหลายช่วงคลื่นแสง จึงเป็นประโยชน์อย่างมากที่ใช้ในการสำรวจและทำแผนที่ธรณีวิทยา ธรณีสัณฐานวิทยา แหล่งแร่ แหล่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ
การเตือนภัยจากธรรมชาติ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อย ได้แก่ อุทกภัยแผ่นดินถล่ม ภัยแล้งวาตภัย ไฟป่า ภัยทางทะเล ภัยธรรมชาติต่างๆ
ระบบกำหนดตำแหน่งพื้นโลก (GPS)
ระบบกำหนดตำแหน่งพื้นโลก (GPS)
หลักการทำงานของระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก การทำงานของระบบกำหนตำแหน่งบนพื้นโลกต้องอาศัยสัญญาณจากดาวเทียมกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก ซึ่งโคจรอยู่รอบโลกประมาณ 24 ดวง แบ่งออกเป็น 6 วงโคจร วงโคจรละ 4 ดวง และยังมีดาวเทียมสำรองไว้หลายดวง ดาวเทียมแต่ละดวงจะอยู่สูงจากผิวโลกประมาณ 20,200 กิโลเมตร และจะโคจรรอบโลกภายใน 11 ชั่วโมง 50 นาที และมีสถานีควบคุมภาคพื้นดินทำหน้าที่คอยตรวจสอบการโคจรของดาวเทียมแต่ละดวง โดยการสื่อสารผ่านคลื่นวิทยุที่มีความเร็วคลื่นประมาณ 186,000 ไมล์ต่อวินาที
หรือ จีพีเอส (GPS) หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้กำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก โดยอาศัยดาวเทียม สถานีภาคพื้นดิน และเครื่องรับจีพีเอส โดยเครื่องรับจีพีเอสจะรับสัญญาณมาคำนวณหาระยะเสมือนจริงแต่ละระยะ และจะใช้ข้อมูลดังกล่าวจากดาวเทียมอย่างน้อย 4 ดวง มาคำนวณหาตำบลที่เครื่องรับ พร้อมทั้งแสดงให้ผู้ใช้ทราบบนจอแอลซีดีของเครื่องเป็นค่าละติจูด ลองจิจูด และค่าพิกัดยูทีเอ็ม รวมทั้งค่าของระดับความสูงจากระดับทะเลปานกลางด้วย
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)
GIS คือกระบวนการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้กำหนดข้อมูลและสารสนเทศ ที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่ เช่น ที่อยู่ บ้านเลขที่ สัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนที่ ตำแหน่ง เส้นรุ้ง เส้นแวง ข้อมูลและแผนที่ใน GIS เป็นระบบข้อมูลสารสนเทศที่อยู่ในรูปของตารางข้อมูล และฐานข้อมูลที่มีส่วนสัมพันธ์กับข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Data) ซึ่งรูปแบบและความสัมพันธ์ของข้อมูลเชิงพื้นที่ทั้งหลาย จะสามารถนำมาวิเคราะห์ด้วย GIS และทำให้สื่อความหมายในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับเวลาได้ เช่น การแพร่ขยายของโรคระบาด การเคลื่อนย้าย ถิ่นฐาน การบุกรุกทำลาย การเปลี่ยนแปลงของการใช้พื้นที่ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้ เมื่อปรากฏบนแผนที่ทำให้สามารถแปลและสื่อความหมาย ใช้งานได้ง่าย
องค์ประกอบของ GIS
1. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
คือ เครื่องคอมพิวเตอร์รวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เช่น Digitizer, Scanner, Plotter, Printer หรืออื่น ๆ
เพื่อใช้ในการนําเข้าข้อมูล ประมวลผล แสดงผล และผลิตผลลัพธ์ของการทํางาน
2. โปรแกรม
คือชุดของคําสั่งสําเร็จรูป เช่น โปรแกรม Arc/Info, MapInfo ฯลฯ ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่น การทํางานและ
เครื่องมือที่จําเป็นต่าง ๆ สําหรับนําเข้าและปรับแต่งข้อมูล, จัดการระบบฐานข้อมูล, เรียกค้น, วิเคราะห์และ
จําลองภาพ
3. ข้อมูล
คือข้อมูลต่าง ๆ ที่จะใช้ในระบบ GIS และถกจู ัดเก็บในรูปแบบของฐานข้อมูลโดยได้รับการดูแล จากระบบ
จัดการฐานข้อมูลหรือ DBMS ข้อมูลจะเป็นองค์ประกอบที่สําคัญรองลงมาจากบุคลากร
4. บุคลากร
คือ ผู้ปฏิบัติงานซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เช่น ผู้นําเข้าข้อมูล ช่างเทคนิค ผู้ดูแลระบบ
ฐานข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญสําหรับวิเคราะห์ข้อมูล ผู้บริหารซึ่งต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ บุคลากรจะเปน็
องค์ประกอบที่สําคัญทสี่ ุดในระบบ GIS เนื่องจากถ้าขาดบุคลากร ข้อมลทู ี่มีอยู่มากมายมหาศาลนั้น กจะเป็น
เพียงขยะไม่มีคุณค่าใดเลยเพราะไม่ได้ถูกนําไปใช้งาน อาจจะกล่าวได้ว่า ถ้าขาดบุคลากรก็จะไม่มีระบบ GIS
5. วิธีการหรือขั้นตอนการทํางาน
คือวิธีการที่องค์กรนั้น ๆ นําเอาระบบ GIS ไปใช้งานโดยแต่ละ ระบบแต่ละองค์กรย่อมีความแตกต่างกันออกไป
ฉะนั้นผู้ปฏิบัติงานต้องเลือกวิธีการในการจัดการกับปัญหาที่เหมาะสมทสี่ ดสุ ําหรับของหน่วยงานนั้น ๆ เอง