พยาธิสรีรวิทยาของ
ระบบทางเดินหายใจ

Covid - 19 Pneumonia

สรีรวิทยาของการหายใจ

อาการวิทยาระบบการหายใจ

การหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน

อาการไอ

อาการเขียวคล้ำ

อาการหายใจลำบาก

อาการเจ็บหน้าอก

Hypercapnea

Pulmonary edema

Hypoxemia

Atelectasis

โครงสร้าง

หน้าที่

ออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ไหนได้บ้าง

การขนส่งออกซิเจน

โครงสร้างของปอดมีลักษณะเอื้อต่อการทำหน้าที่ของมัน

สร้างและขจัดสารเคมีบางชนิด การกรองสิ่งแปลกปลอม

แลกเปลี่ยนก็าซ

ขจัดคาร์บอนไดออกไซด์

นำออกซิเจนเข้าสู่เลือด

Oxygen ละลายน้ำได้ไม่ดี แต่จับกับฮีโมโกลบินได้ดี

ละลายใน plasma วัดได้จากการเจาะ ABG

จับกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง วัดได้จากการจับ pulse O2 saturation

ละลายในส่วนที่เป็นของเหลว 3 %

จับกับฮึโมโกลบินที่ที่อยู่ในเม็ดเลือด 97 %

ความหมาย

กลไกลของอาการหายใจลำบาก

สาเหตุที่พบบ่อย

ความหมาย

ประเภทของอาการไอ

ไอแบบมีเสมหะ มักพบในโรคหลอดลม การติดเชื้อแบคทีเรีย

ไอแห้ง มักพบในโรคหืด ภูมิแพ้ วัณโรคปอด ผลข้างเคียงจากการทานยากลุ่ม ACE inhibitor

ไอเป็นเลือด โรคมะเร็งของหลอดลม การติดเชื้อ โดยเฉพาะวัณโรค

ความรู้สึกหายใจได้ลำบาก ต้องใช้ความพยายามในการหายใจ เกิดในขณะพักหรือระหว่างการทำกิจกรรมที่ไม่ตัองออกแรงมากนักหรือเคยทำได้

สาเหตุของอาการหายใจลำบาก

โรคหัวใจ

โรคปอด

โรคเลือดและ metabolism

เป็นกลไกลป้องกันเชื้อโรค

Sensors เช่น การได้รับสารพิษ

Effectors เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด

Central controller เช่น อุบัติเหตุเกี่ยวกับสมอง ศูนย์การหายใจถูกกระตุ้นหรือถูกกด

ความหมาย

สาเหตุ

ริมฝีปาก ลิ้นม่วง Central Cyanosis เกิดเมื่อ Arterial Desaturation

ปลายมือ ปลายเท้าม่วง Peripheral Cyanosis มีการใช้ออกซิเจนส่วนปลายมากกว่าปกติ

โรคหัวใจ โรคปอด ทำให้การจับออกซิเจนกับฮีโมโกลบินน้อยลง พบในโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

เขียวคล้ำบริเวณปลายมือ ปลายเท้า เยื่อบุผิว หนังตา ลิ้น กระพุ้งแก้ม ริมฝีปากด้านใน

อาการนิ้วปุ้ม

ความหมาย

การพร่องออกซิเจนเรื้อรัง เกิดการเจริญเติบโตผิดปกติของเนื้อเยื่อเล็บ หลอดเลือดฝอยและเนื้อเยื่อขยายตัว มักพบในหัวใจแต่กำเนิด ปอดอักเสบเรื้อรัง

ลักษณะการเจ็บหน้าอก

Cardiac : บีบรัดหน้าอกหนักๆ เหมือนกับถูกทับร้าวไปแขน

Pleura : เจ็บแปลบๆ (Sharp Pain) เจ็บสัมพันธ์กับการเจ็บหน้าอกร่วมอาการไอ

Chest wall : ปวดแสบร้อนตามแนวเส้นประสาท เช่น งูสวัด

GI Tract : ปวดท้องลิ้นปี่ กรดไหลย้อน

นิยาม

ภาวะที่ปอดไม่สามารถนำออกซิเจนเข้าสู่เลือดและไม่สามารถระบายคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดออกจากร่างกายผ่านการหายใจได้

Peioperative respiratory failure

Acute Hypercapnia respiratory failure

Acute Circulatory failure

Acute Hypoxemic respiratory failure

PaO2 จาก ABG < 60 mmHg ร่วมกับมี PaCO2 ปกติ หรือต่ำ

PaO2 > 50 mmHg

ภาวะหายใจล้มเหลวขณะผ่าตัด

ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวเฉียบพลัน ในผู้ป่วยเสียเลือด มีภาวะช็อก

คือ ภาวะที่เนื้อเยื่อในร่างกายขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นผลมาจากที่ร่างกายมีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ (Hypoxemia) จึงทำใหเลือดไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย จนทำให้ร่างกายแสดงความผิดปกติ เช่น ผิวหนังเขียวซีด เหงื่ออกมาก หายใจผิดปกติ

สาเหตุ

Hypoventilation : การหายใจช้าทำให้การระบายอากาศลดลง ส่งผลให้ PaCO2 สูง

Decrease PlO2 : เช่น การอยู่บนที่สูง

Diffusion limitations : การแพร่ผ่านผนังถุงลมเสียไป

V/Q mismatch : มีการระบายอากาศหรือการไหลเวียนเลือดที่ลดลง

Shunt : มีพยาธิสภาพที่ส่งผลให้ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซ

Hypoxemia

Hypoxia

Decrease Oxygen supply to tissues

Decrease Oxygen in blood

เป็นภาวะที่คาร์บอนไดออกไซด์ในปอดและในเลือดสูงกว่าปกติ PaCO2 > 45 mmHg

สาเหตุ

Hypoventilation : หายใจช้าไป หรือหายใจยาวไป

มีความผิดปกติที่ deadspaca เพิ่มขึ้น เช่น
โรคถุงลมโป่งพองที่รุนแรง (Severe emphysema)

มีการสร้าง CO2 มากกว่าปกติ เช่น ภาวะ sepsis

ภาวะที่ถุงลมปอดไม่สามารถขยายได้ปกติ ส่งผลให้ถุงลมปอดส่วนที่แฟบไม่สามาถแลกเปลี่ยนก๊าซได้อย่างปกติ

ภาวะที่มีความดันใน pulmonary capillary เพิ่มขึ้น นำไปสู่การรั่วของขเงเหลวไปสู่ชั้น interstitium และอาจผ่านไปสู่ถึงลมได้

Ventilator supply and demand

demand ปริมาณการหายใจที่ทำให้เกิดการระบายอากาศที่เพียงพอไม่เกิดภาวะ PaCO2 ในเลือดสูงกว่าปกติ

Supply จะมากกว่า demand

Suppply ความสามารถสูงสุดของร่างกายในการหายใจ โดยไม่เกิดการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ

อาการแสดงจากภาวะพร่องออกซิเจน : อาการทางระบบหัวใจและหลอดเลือด

Hemoglobin desaturation : Cyanosis อาการทางระบบประสาทส่วนกลาง

ปวดศีรษะ การตัดสินใจไม่ถูกต้อง กระสับกระส่าย ซึม สับสน

อาการทางระบบหายใจ “กระตุ้นศูนย์หายใจให้หายเร็วและแรงมากขึ้น

ผลที่ตามมาของการเกิดหากไม่ได้รับการแก้ไข คือ เซลล์ได้รับันตรายและอวัยวะต่างๆเกิดการล้มเหลว เช่น ความดันโลหิตต่ำ ไตวาย สมองเสียหายถาวร

กระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกทำให้ความดันเปลี่ยนแปลง หัวใจเต้นแรงขึ้น

อาการ

เชื้อที่ทำให้เกิดโรค

ระยะฟักตัว

การวินิจฉัย

การแพร่กระจาย

การรักษา

ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ

ในผู้ที่มีอาการอาจมีการติดเชื้อไวรัสหรือปอดอักเสบ

การติดต่อ : Droplets
Air borne (เฉพาะเมื่อเกิด aerosal เช่น พ่นยา )
Direct contact

เฉลี่ย 4-5 วัน (2-14 วัน)

COVID - 19

SARS - CO - V

RNA virus สามารถก่อโรคทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ส่วนใหญ่อาการน้อย มีเพียงบางสายพันธ์ที่มีความรุนแรง

MERS - CO - V

Typical bacteria

Atypical bacteria

Respiratory virus

M. Cararrhalis

S. Aureus

H. Influenza

Gram- negative bacteria

S. Pneumoniae

Microaerophilic bacteria & anaerobes

M. Pneumoniae Chlammydia pneumonia

Chlamydia psittacosis

Coxiella burnetii

Legionella app.

Human metapneumovirus

Coronaviruses

Respiratory syncytial virus

Adenoviruses

Parainfluenza viruses

Influenza A & B viruses

Human boca viruses

Rhinoviruses

การแทรกซึมของปอดใหม่
อาจเป็นเรื่องยาก : pts กับโรคปอดเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง โรคอ้วนจากการติดเชื้อในช่วงต้น ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง

≥ 3|5 ของอาการและอาการแสดงไข้ ไอ หรือมีเสมหะ หายใจลำบาก อาการเจ็บหน้าอก เยื่อหุ้มปอดอักเสบ

เริ่มมีอาการเฉียบพลัน ระยะเวลา ≤ 2 สัปดาห์

Beta - lactam group สำหรับ typical bacteria

Macrolide group / Doxycycline สำหรับ Atypical bacteria

Oseltamivir สำหรับไวรัส influenza

ใช้ระยะเวลาการให้ยาอย่างน้อย 5 วัน