Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Ventricular Septal Defect (VSD) - Coggle Diagram
Ventricular Septal Defect (VSD)
พยาธิสภาพ :<3:
แบ่ง VSD ตามตำแหน่งของรูรั่วได้ 4 ชนิด
Type I, outlet หรือ supracrystal VSD มีรูรั่วของผนังกั้นหัวใจห้องล่างใกล้บริเวณ aorta หรือ pulmonary artery (PA)
Type II หรือ perimembranous VSD มีรูรั่วอยู่ใต้ลิ้นหัวใจ aortic เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ประมาณร้อยละ 80
Type III, inlet VSD หรือ canal VSD มีรูรั่วอยู่ใต้ลิ้นหัวใจ tricuspid ด้านใน
Type IV หรือ muscular VSD มีรูรั่วที่ trabeculae ถ้ามีรูรั่วหลายรู มีชื่อเรียก “Swiss cheess” VSD
พยาธิสรีวิทยา
การมีรูรั่วที่ผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องล่างซ้าย (Ventricular septal defect : VSD)
เกิดภาวะหัวใจซีกซ้ายวายและมีความดันเลือดใน Pulmonary artery สูงขึ้น
อาการรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องล่างอาการรูรั่ว
รูรั่วขนาดเล็ก มักพบว่ามีการเจริญเติบโตอย่างเด็กทั่วไป ส่วนมากไม่มีอาการ จะทราบโดยการตรวจร่างกายทั่วไป หรือตรวจพบโดยบังเอิญเท่านั้น
รูรั่วขนาดกลาง ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย ตัวเล็กและมักมีการติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย
รูรั่วขนาดใหญ่ ผู้ป่วยจะมีอาการมากตั้งแต่แรกเกิด คือ หายใจเร็วและแรง ดูดนมลำบาก รับประทานได้น้อย เมื่ออายุประมาณ 1 - 2 เดือน มักมีการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจบ่อย เช่น เป็นหวัด ปอดบวม ซีด เหงื่อออกบริเวณศีรษะและลำตัวเสมอ แม้ว่าอากาศจะเย็นก็ตาม น้ำหนักตัวขึ้นช้า เลี้ยงไม่โต และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วยภาวะหัวใจวายและปอดอักเสบต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
แนวทางการดูแลรักษา
การใช้ยาควบคุมอาการ เช่น หัวใจวาย ได้แก่ ยาเพิ่มการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ยาขับปัสสาวะ ยาขยายหลอดเลือด หรือยาที่ควบคุมจังหวะหัวใจเต้นผิดปกติ หรือยาที่ช่วยชลอการปิดของหลอดเลือดแดง
การผ่าตัดรักษา หรือบรรเทาอาการ ปัจจุบันสามารถทำได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิด ขึ้นกับความผิดปกติและความรุนแรงที่ตรวจพบ บางชนิดสามารถรักษาให้หายได้ เช่น การปิดรูรั่วที่ผนังหัวใจ การผูกหลอดเลือด การสลับที่ของหลอดเลือด การขยาย/เปลี่ยนหลอดเลือด/ลิ้นหัวใจ และอื่นๆ อัตราเสี่ยงในการทำผ่าตัดขึ้นกับชนิดของการทำ และสถานภาพผู้ป่วย
การรักษาอื่นๆ ซึ่งมีความสำคัญพอๆกับ 4 วิธี
4.1 การควบคุมชนิดของอาหาร จะทำในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหัวใจวายเท่านั้น ซึ่งต้องจำกัดอาหารรสเค็ม ส่วนในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ไม่ต้องจำกัดชนิดของอาหาร
4.2 การออกกำลัง เช่นเดียวกับการจำกัดอาหาร จะจำกัดการออกกำลังที่หักโหมเฉพาะในรายที่มีอาการ ให้เล่นได้เหมือนเด็กปกติ แต่ไม่สมควรให้ผู้ป่วยเป็นนักกีฬา
4.3 การดูแลสุขภาพในช่องปากและฟัน เนื่องจากฟันผุ จะมีโอกาสให้เชื้อแบคทีเรีย หลุดลอยเข้ากระแสเลือดไปยังรอยโรคที่มีอยู่ เกิดการอักเสบภายในหัวใจและหลอดเลือด
4.4 การนัดตรวจติดตามเป็นระยะๆ เพื่อตรวจติดตามผลและดูภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดปิดรูรั่วผนังกั้นหัวใจห้องล่าง
เป็นการผ่าตัดเปิดหัวใจ ซึ่งมีการใช้เครื่องปอดหัวใจเทียมในการผ่าตัด
การผ่าตัดปิดรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องล่างจะใช้วัสดุในการปิดรูรั่ว
การผ่าตัดหัวใจ จะผ่าตัดโดยตัดผ่านกระดูกหน้าอกเข้าไป แผลยาวประมาณ 1 คืบ ระยะเวลาในการผ่าตัด ประมาณ 2– 3 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลาการผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับความดูแลจากทีมแพทย์ วิสัญญี และพยาบาลเป็นอย่างดี
เตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
ผู้ป่วยจะได้รับการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ สวนอุจจาระ และต้องงดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืนวันก่อนผ่าตัด
เช้าวันผ่าตัด ผู้ป่วยควรทำความสะอาดร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ และไม่ควรทาแป้งบริเวณลำตัว
ที่ห้องผ่าตัด
ู้ป่วยจะพบเจ้าหน้าที่สวมชุดห้องผ่าตัด สวมหมวก และผ้าปิดปากปิดจมูก
อากาศภายในห้องผ่าตัดจะเย็น ผู้ป่วยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้
ผู้ป่วยจะได้รับการวัดความดันโลหิต วัดออกซิเจนในเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยในระยะการผ่าตัด
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลที่ไอซียู โดยจะคาท่อช่วยหายใจ คาสายสวนปัสสาวะ และท่อระบายเลือดจากทรวงอก
ควรพลิกตะแคงตัว เพื่อให้สารคัดหลั่งระบายได้ดี และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้กลับสู่สภาพปกติให้เร็วขึ้น
หลังผ่าตัดผู้ป่วยอาจจะรู้สึกเจ็บหน้าอกแบบลึกๆ หน่วงๆ ตื้อๆ ซึ่งบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด