Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การบำบัดรักษาทางจิตเวช - Coggle Diagram

- - - - บันทึก Vital signs
      - พฤติกรรมของผู้ป่วย
      - สีผิว/ลักษณะของผิวหนัง หรือสีของอวัยวะที่อยู่ปลายทางจากตำแหน่งที่ได้รับการผูกยึด
- - - - ทฤษฏีจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) เช่น Free-association, Dream interpretation, Transference
        
        จิตวิเคราะห์แบบดั้งเดิม เช่น การปลดปล่อยความรู้สึก, การวิเคราะห์แรงต้าน, การถ่ายเทความรู้สึก และการใช้กลไก การป้องกันตนเองทางจิต
        
        จิตวิเคราะห์แบบใหม่ ไม่เน้นการแปลความหมาย แต่เน้น การช่วยให้ผู้ป่วยลดแรงต่อต้านลง
      - ทฤษฎีกลุ่มมนุษยนิยม (Humanistic) เช่น Client-centered, Existentialism, Gestalt Therapy, Reality Therapy, Rational emotive Therapy
        
        การบำบัดแบบเน้นผู้รับบริการเป็นสำคัญ (Client Centered Therapy) ของ Karl Roger เน้นการดึงศักยภาพและความสามารถของบุคคลออกมาโดยผู้บำบัดสร้างสัมพันธภาพที่อบอุ่น ยอมรับ ผ่อนคลาย
        
        วิธีการบำบัดตามทฤษฎีของโรเจอร์
        
        1.ให้ความจริงใจ
        
        2.ให้การยอมรับ
        
        3.แสดงความเอื้ออาทรใส่ใจ
        
        ให้เกิดแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างของตน
        
        ให้สำรวจตนเองและเปิดเผยเรื่องราวประสบการณ์
        
        การบำบัดแบบเกสตัลท์ (Gestalt Therapy) ของ Federic S. Pearl เน้นเรื่องปัจจุบัน (Here and Now) ไม่สนใจเรื่องในอดีต การรู้จักตนเอง และการแก้ไข unfinished business
        
        การบำบัดแบบเอกซีสเทนเชียล (Existential Therapy) ของ Soren Kierkegaard มุ่งเน้นการค้นหาความหมายของชีวิต
      - ทฤษฎีกลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behaviorism) การใช้การเสริมแรง การลงโทษ และการใช้แบบอย่าง
      - ทฤษฎีปัญญานิยม
        
        แบบการให้ความจริง (Reality Therapy) เน้นให้ผู้มีปัญหาสามารถสนองตอบความต้องการพื้นฐานของชีวิตและเผชิญปัญหาได้อย่างเหมาะสม
        
        แบบการให้เหตุให้ผล (Rational Emotion Therapy) มุ่งแก้ไขความเชื่อที่ไม่สมเหตุสมผล เช่นทุกคนต้องยอมรับในความสามารถของฉัน
  - - - Didactic group การทำกลุ่มลักษณะนี้ต้องอาศัยความรู้เป็นหลัก ผู้รักษาในกลุ่ม มีหลักพึงระลึกว่า จะต้องนำเรื่องราวต่างๆ มาพูดและชี้แนะผู้ป่วย การบำบัดแบบนี้จำเป็นต้องอาศัยเชาวน์ปัญญาของผู้ป่วย เพื่อทำความเข้าใจถึงปัญหาต่างๆ ทางอารมณ์ของตน และสาเหตุการเกิดปัญหานั้นๆ จึงจะสามารถจะเข้าถึงปัญหาต่างๆ ทางอารมณ์ของผู้ป่วยได้เร็วขึ้น การรักษาแบบนี้เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชที่มีอาการดีขึ้นพอควร
      - Therapeutic social group
        วิธีการแบบนี้ทำได้โดยที่ผู้ป่วยเลือกผู้แทนของตนขึ้นมา แล้วผู้แทนเหล่านี้มีส่วนช่วยในการที่จะบริหารกิจกรรมต่างๆ ในกลุ่มนั้นๆ ผู้รักษาเป็นเพียงมีส่วนช่วยให้การปรึกษาและเลือกสมาชิกในกลุ่มให้ ความมุ่งหมายในการทำแบบนี้ก็เพื่อจะต้องกำจัดความเคยชิน และความเฉื่อยชาอันมีอยู่ในตัวผู้ป่วยก่อนเข้ามาในโรงพยาบาล ซึ่งส่วนมากไม่มีความกระตือรือร้น ไม่รู้จักตนเอง แยกตัวเอง และไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง วิธีนี้เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่ได้จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลแล้ว
      - Repreessive interaction group
        วิธีนี้ได้แก่ การพบปะสนทนากันและทำกิจกรรมร่วมในสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น การออกกำลังกายร่วมกัน การรวมกลุ่มกันร้องเพลง รวมกลุ่มกันทำงาน แบบนี้ใช้ได้ทั้งโรคจิต โรคประสาท ติดเหล้า และผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล
      - Free-interaction group
        อาจเรียกว่า group-centered คือ การพูดคุยแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างจริงใจทำให้เกิดความเข้าใจตนเองและผู้อื่น
      - Psychodrama (ละครจิตบำบัด)
        หมายถึง กลุ่มที่ ให้ผู้ป่วยแสดงละคร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ป่วยได้ระบายอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด และปัญหาออกมาในรูปของการแสดง เพื่อสะท้อนให้ผู้ป่วยที่ร่วมแสดงและมีส่วนร่วมทุกคน เข้าใจปัญหา สภาพการณ์ และพฤติกรรมของตนเองได้ดีขึ้น
      - 6.ครอบครัวบำบัด (Family Therapy)
        การทำจิตบำบัดกลุ่มที่มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ป่วย เป้าหมายมิใช่เพื่อช่วยเหลือคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่มุ่งให้เกิดความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นไปอย่างสอดคล้องกลมกลืน
    - - กฎระเบียบต่างๆ ในการเข้าร่วมจิตบำบัดกลุ่ม ทั้งที่มีลายลักษณ์อักษร/ ไม่มี
      - ระยะห่างระหว่างบุคคล การจัดโต๊ะ
      - โครงสร้างทางกายภาพของห้อง ขนาดพอเหมาะ สว่าง อากาศถ่ายเท ไม่ร้อน/ เย็นเกินไป สีอ่อน
    - - ระยะแรกเริ่ม (Beginning Phase): สมาชิกลุ่มมีความอึดอัด วิตกกังวลสูง ต้องแนะนำตัวและทำความเข้าใจวัตถุประสงค์การทำกลุ่มร่วมกัน
        
        ระยะกลาง (Middle Phase): มีความเป็น “เรา” มากขึ้น แลกเปลี่ยนความรู้สึก ประสบการณ์ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
        
        ระยะสุดท้าย (Terminating Phase): รู้สึกสูญเสีย อาลัยอาวรณ์
    - - พิจารณาตัดสินใจวางโครงสร้างกลุ่ม กำหนดรูปแบบกลุ่ม
        
        ช่วยนำให้สมาชิกกลุ่มดำเนินกิจกรรมกลุ่มไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้: หากออกนอกลู่นอกทาง ให้สมาชิกกลุ่มร่วมตัดสินใจแก้ปัญหา
        
        สร้างเสริมบรรยากาศภายในกลุ่ม: ให้มีความเป็นมิตร การยอมรับ และการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
        
        เป็นแบบอย่างที่ดี เช่น การมีภาวะผู้นำ การเปิดเผยตนเอง
    - - การมีความหวัง(Installing hope)
        
        การเห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่น (Altruism)
        
        การมีความรู้สึกร่วม (Universality)
        
        การระบายความรู้สึก (Catharsis)
        
        การเลียนแบบพฤติกรรมที่ดี (Imitative behavior)
        
        การเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน (Interpersonal learning)
        
        1 more item...
  - - - 1) จิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) ตามแนวคิดของซิกมันด์ ฟรอยด์
        
        Free-association เน้นการปล่อยให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกอิสระสบาย และผ่อนคลาย เพื่อให้ผู้ป่วยเล่าเหตุการณ์ที่เป็นปัญหา และความทุกข์ออกมา
        
        Dream interpretation เน้นการให้ผู้ป่วยเล่าความฝัน และผู้รักษาตีความจากความฝัน
        
        Transference เน้นการโอนถ่ายความรู้สึกไปยังบุคคลอื่น
      - 2) จิตบำบัดแบบ Distributive-Synthesis ตามแนวคิดของ Adof Meyer วิธีการนี้ Adof Meyer เน้นวิธีการให้ผู้ป่วยเล่าประสบการณ์ในอดีต และผู้รักษาวิเคราะห์สถานการณ์ และสาเหตุ และร่วมกันหาทางแก้ไขต่อไป
    - - จิตบำบัดแบบประคับประคอง (Supportive psychotherapy) เน้นการพูดคุยและบำบัดช่วยเหลือประคับประคองเบื้องต้น
      - จิตบำบัดเน้นการระบายปัญหา (Superficial expressive psycho-therapy) เน้นการระบายปัญหา ความทุกข์ ความคับข้องใจ
      - จิตบำบัดเน้นการกดเก็บ (Suppressive psychotherapy) เน้นการให้ข้อเสนอแนะ เพื่อลดภาวะเครียด ความวิตกกังวล และปัญหาที่ไม่ลึก
  - - - 2) การระบายความรู้สึก (Ventilation)
        
        3) การแยกแยะปัญหาให้แจ่มแจ้ง (Clarification)
        
        4) การแนะแนว/การแนะนำ (Guidance/ Advice)
        
        5) การสนับสนุน ให้กําลังใจ (Encouraging)
        
        6) การชักชวนและจูงใจ (Suggestion/ Persuation)
        
        7) การเผชิญหน้า (Confrontation )
  - - - ระยะที่ 2 เป็นระยะการโอนถ่ายความรู้สึกสู่ผู้รักษา พัฒนาการตระหนักรู้ในปัญหา การสนับสนุน ประคับประคอง การตีความ การสอน การให้กำลังใจ การจัดการกับสิ่งแวดล้อม
        
        ระยะสิ้นสุด เป็นการเตรียมสิ้นสุดสัมพันธภาพ