Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การก่อกำเนิดชีวิตใหม่ - Coggle Diagram
การก่อกำเนิดชีวิตใหม่
หลังการปฏิสนธิ
After Fertilization
Cortical and zona reactions Cortical granules
plasma membrane ของ oocyte ปล่อย
Lysosomal enzyme
ออกมาทำให้
plasma membrane ของ oocyte ปล่อย Lysosomal enzyme มีคุณสมบัติป้องกันการทะลุผ่านของ Sperm ตัวอื่นเพื่อป้องกันไม่ให้
เกิดการปฏิสนธิซ้อน( Polyspermy)
Resumption of the second meiotic division
ทันทีที่มี sperm เข้ามารวม secondary oocyte จะแบ่งตัวต่อไปจนเสร็จได้เป็น second polar body uaะ definite oocyte Nucleus
Definite oocyte ร:ยะนี้เรียกว่า Female pronucleus
metabolic activation of the egg
เป็นการกระตุ้น metabolism ขง oocyteเพื่อ
เตรียมความพร้อมสำหรับการเกิดเป็น embryo
ระยะที่ 1 Pre-embryonic stage ระยะนี้
เริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิ จนถึง สัปดาห์ที่ 2
การปฏิสนธ์ ( Fertillization )
การผสมกันระหว่าง Ovum + Sperm = zygote
( 46 Chromosome )
Zygote มีการแบ่งเซลล์ ( Cleavage ) จนได้ Morula
Morula จะพัฒนาไปเป็น Blastocyst เรียกว่า Inner cell mass จะพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนและเยื่อหุ้มตัวอ่อนชั้นใน คือ Amnion
Trophoblasts จะพัฒนาไปเป็น รก และเยื่อหุ้มตัวอ่อนขึ้นนอก เรียกว่า Chorion
การฝังตัว ( Implantation ) เกิดขั้นภายใน 7 - 10 วันหลังปฏิสน
ระยะที่ 2 Embryonic stage
เริ่มตั้งแต่สั้นสุดสัปดาห์ที่ 2 - 8เริ่มพัฒมนาการทางสมอง / พัฒมนาอย่างต่อเนื่องปุ่มระยางค์เจริญมากขึ้นหัวใจเริ่มเต้นด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอมีการเจริญของปอด การไหลเวียนเลือดตับมีการสร้างเม็ดเลือดแดง
สามารถตรวจวัดคลื่นสมองได้เริ่มปรากฎต่อมเพศให้
เห็นรยางค์ชัดเจนมากขึ้นเห็นลำไส้
ระยะที่ 3 Fetal stage
เริ่มตั้งแต่สั้นสุดสัปดาห์ที่ 8 ถึง คลอด
การเจริญแยกเพศอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ 9-12มีเส้นผมบาง ๆ ปกคลุม เรียก Lanugo
สมองมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วสามารถฟังเสียงหัวใจผ่านหน้าท้องมารดาได้โนสัปดาห์ที่ 13-20พัฒนาถุงลมปอด เริ่มสร้างสาร Surfactant ในสัปดาห์ที่ 21-24ทารกพัฒมนาสมบูรณ์เมื่ออายุครรภ์ 38-40 สัปดาห์
เกิดการปฏิสนธิ
Fertilization
Sperm + Ovum = Zygote
เกิดขึ้นใน ท่อนำไข่ กลายเป็นตัวอ่อนที่จะฝังตัวในมดลูก
การบวนการปฏิสนธิ
เกิดจาการรวมตัวกันของ male and female gametes เกิดขึ้นที่ Ampulla part มีเพียง1% ของ Sperm ที่อยู่ใน Vagina เท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าไปใน Cervixได้
1: Penetration of the corona radiata
อสุจิผ่าน Corona radiation
2 : Penetration of zona pellucida
อสุจิทะลุผ่าน Zona pellucida
3 : Fusion of the oocyte and sperm cell membranes
อสุจิ 1 ตัวเจาะผ่าน Plasma membrane ของ Oocyte โดยทั้ง plasma membrane ไว้ที่ผิว
ก่อนการปฏิสนธิ
Before Fertilization
เซลล์สือบพันธุ์เพศชาย
สืบพันธุ์โดยอวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย(อัณทะ) จะผลิตอสุจิหรือสเปิร์ม
สเปิร์ม
ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
หัว (head) คอ และลำตัว (midpiece) หาง (flagellum)
โดยส่วนหัวภายในบรรจุไว้ด้วยนิวเคลียสและปลายสุดของหัวถูกห่อหุ้มไว้ด้วย อะโครโชม (acrosome)ซึ่งบรรจุเอนไซม์สำหรับเข้าเจาะไข่ โครโชมนั้นถูกเปลี่ยนมาจากกอลจิคอมแพล็กซ์ (golgi complex)ส่วนคอและลำตัว ส่วนนี้ตรงกลางมีแกนเรียกว่า เอกเชียลฟิลาเมนต์ (axial filament)ตรงคอมีเชนไทรชม 2 อัน ถูกพันด้วยไมไทคอนเตรีย (mitochondria) แบบเกลียวและเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการเคลื่อนที่ของสเปิร์มส่วนแกนมีเยื่อหุ้มไว้ ส่วนหางคือส่วนของเอกเชียลฟิลาเมนต์ที่ไม่มีเยื่อหุ้ม มีหน้าที่สำหรับการเคลื่อนที่
สเปอร์มาโทจีนีชีส (spermatogenesis)
เป็นกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เมื่อเพศชายเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์โดยเริ่มต้นจากเซลล์ที่เรียกว่า สเปอร์มาโทโกเนีย(spermatogonia) เจริญและพัฒนาไปเป็น สเปอร์มาโทไซต์ขันที่หนึ่ง
(primaryอ spermatocyte)จากนั้นสเปอร์มาโทไชต์ขั้นที่หนึ่งจะเข้าสู่กระบวนการสร้างเชลล์สิบพันธ์โดยการแบ่งเชลล์แบบไมโอซีส (meiosis)เป็นระยะไมโฮชีสขั้นแรก (meiosis I) ได้เซลล์ใหม่ เรียกว่า สเปอร์มาโทไซต์ ขั้นที่สอง (secondary spermatocyte)จากนั้นสเปอร์มาโทไชต์ขั้นที่สอง จะแบ่งเชลล์ต่อไปในระยะ ไมโอชีส ขั้นที่สอง (meiosis) ได้ เซลล์สเปอร์มาทิด(spermatid) ในการแบ่งเซลล์สืบพันธุ์แต่ละครั้งนั้น สุเปอร์มาโทไซต์ ขั้นที่หนึ่ง 1 เซลล์เมื่อแข่งแล้วจะได้สเปอร์มาทิด 4 เซลล์ แต่ละเชลล์จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้เซลล์สเปิร์ม ต่อไป
เซลล์สืบพันธุ์เพศหญิง
โดยเริ่มจากกลุ่มเชลล์ในรังไข่ที่เรียกว่า ไพรมอร์เดียลเจอร์มเชลล์ (primordial germ cell) มีการแบ่งตัวแบบ mitosisหลายครั้ง จูนได้เซลล์จำนวนมาก เรียกว่า โอโอโกเนียม(oogonium หรือ oogonia) ต่อมาเชลล์จะมีการจะลองโครโมโชม เละ DNA ขึ้นอีกเท่าตัว ขยายขนาดใหญ่ขึ้น และพร้อมทีจะแบ่งเซลล์แบบmeiosis เรียกว่าไพรมารีโอโอไซต์ (primary oocyte) หรือ โอโอไซต์ขั้นที่ 1ต่อมาจะแบ่งเซลล์แบบ meiosis 1 ได้เซกันดารีโอโอไชต์(secondary oocyte)ซึ่งมีขนาดใหญ่และพลาร์บอดีขั้นที่ 1 (first polar body) ซึ่งมีนาดเล็ก และจะมีการแบ่งเชลล์แบบmeiosis 2 (เมื่อถูกปฏิสนธิ) เซลล์ขนาดใหญ่ 1 เชลล์ เรียกว่า โอโอติด (ootid) ซึ่งจะเจริญต่อไปเป็นไข่ (gvum)ส่วนเชลล์ขนาดเล็ก 3 เชลล์ เรียกว่า เชกันดารีพลาร์บอดี (secondary polar body) ต่อมาจะสลายไป