Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 3 การประเมินตามสภาพจริง - Coggle Diagram
หน่วยที่ 3 การประเมินตามสภาพจริง
1.การจัดการเรียนการสอนแบบเดิม
การจัดการเรียนการสอนคือ “การถ่ายทอดความรู้จากผู้สอนไปสู่ผู้เรียน” ผ่านกระบวนการสอนที่มุ่งเน้นเนื้อหาวิชาเป็นหลักผู้เรียนมีหน้าที่รับฟังและจดจำในสิ่งที่บอก
กระบวนทัศน์ของการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมผู้สอนเป็นศูนย์กลางกลาง
(Teacher Center)
2.การจัดการเรียนรู้แบบใหม่
การเปลี่ยนแปลงของข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วในกระแสโลกาภิวัตน์
ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
องค์ความรู้ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการจัดการเรียนการสอน
จากผู้สอนบอกความรู้ให้แก่ผู้เรียนมาเป็นการให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้เองภายใต้สถานการณ์ที่ผู้สอนออกแบบไว้ดังนั้น
กระบวนทัศน์ใหม่ของการจัดการเรียนการสอนจึงมุ่งให้ความสำคัญต่อ “กระบวนการ เรียนรู้ของผู้เรียน” และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการคิด กระบวนการเรียนรู้ผู้เรียนและกลุ่มผู้เรียน มากกว่าเนื้อหาวิชาและผู้สอน
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง (Learning by Doing)
ตัวบ่งชี้ลักษณะการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ตัวบ่งชี้การเรียนรู้ของผู้เรียน
1.ผู้เรียนมีประสบการณ์ตรงสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและ ธรรมชาติ
2.ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจนค้นพบความถนัดและวิธีการของ ตนเอง
3.ผู้เรียนทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกลุ่ม
4.ผู้เรียนฝึกคิดอย่างหลากหลาย และสร้างสรรค์
5.ผู้เรียนสร้างจิตนาการ ตลอดจนแสดงออกอย่าง ชัดเจนมีเหตุผล
6.ผู้เรียนได้รับการเสริมแรงให้ค้นหาคำตอบ แก้ปัญหา ด้วยตนเองและร่วมด้วยช่วยกัน
7.ผู้เรียนได้ฝึกฝน รวบรวมข้อมูลและสร้างสรรค์ความรู้ ด้วยตนเอง
8.ผู้เรียนเลือกทำกิจกรรมตามความสามารถ ความ ถนัดและความสนใจของตนเองอย่างมีความสุข
9.ผู้เรียนฝึกให้ตนเองมีวินัยและรับผิดชอบในการทำงาน
10.ผู้เรียนฝึกประเมิน ปรับปรุงตนเองและยอมรับผู้อื่น ตลอดจนใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง
ตัวบ่งชี้การเรียนรู้ของครู
ผู้สอนเตรียมการสอนทั้งเนื้อหาและวิธีการ
ผู้สอนจัดสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศที่ปลุกเร้า จูงใจและ เสริมแรงให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
ผู้สอนเอาใจใส่ผู้เรียนเป็นรายบุคคล และแสดงความ เมตตาต่อผู้เรียนอย่างทั่วถึง
ผู้สอนจัดกิจกรรมและสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้แสดงออก และคิดสร้างสรรค์
ผู้สอนส่งเสริมให้ผู้เรียนฝึกคิด ฝึกท าและฝึกปรับปรุงต้น เอง
ผู้สอนส่งเสริมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกลุ่มพร้อม ทั้งสังเกตส่วนดีและปรับปรุงส่วนด้อยของผู้เรียน
ผู้สอนใช้สื่อการสอนที่ฝึกการคิด การแก้ปัญหาและการ ค้นพบความรู้
ผู้สอนใช้แหล่งความรู้ที่หลากหลายและเชื่อมโยง ประสบการณ์กับชีวิตจริง
ผู้สอนฝึกฝนกิริยามารยาทและวินัยตามวิธีวัฒนธรรม ไทย
ผู้สอนสังเกตและประเมินพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน อย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมการเรียนการสอน
นับเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งของการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น ศูนย์กลาง ซึ่งผู้สอนควรเลือกนำมาใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อหาและกลุ่มของผู้เรียน เพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ครบ ทั้ง 3 ด้าน คือ พุทธิพิสัย (Cognitive Domain) จิตพิสัย (Affective Domain) และทักษะพิสัย (Paychomotor Domain) มีตัวอย่างกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนตามสภาพจริง ดังนี้
เกมการศึกษา สถานการณ์จำลอง
กรณีตัวอย่าง บทบาทสมมุติ การแก้ปัญหา การแก้ไขสถานการณ์ โปรแกรมสำเร็จรูป ศูนย์การเรียนด้วยตนเอง ชุดการสอนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI : Computer Aided Instruction)
โครงงาน การทดลอง การถาม-ตอบ อภิปรายกลุ่มย่อย สืบสวน สอบสวน กลุ่มสืบค้นความรู้ กระบวนการกลุ่มแบบพลวัติการเรียนรู้แบบร่วมมือ ความคิดรวบยอด การแก้ปัญหา ตามแนวทางอริยสัจ 4 ศึกษา
ค้นคว้าด้วยตนเอง ทัศนศึกษานอกสถานที่ งานวิเคราะห์ภาคสนาม การน าเสนอโดยวิดีโอ และการเล่าเรื่อง เป็นต้น
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง
การวัดและประเมินผลการศึกษาจึงควรต้องดำเนินการให้ครบทั้ง 3 ด้าน ดังกล่าวแล้ว คือ ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย แต่ในสภาพส่วนใหญ่ของระบบการศึกษาของไทยนั้นมักใช้“ข้อสอบ” หรือ “แบบทดสอบ” เป็นเครื่องมือหลักในการวัดผล จึงสามารถวัดผลด้านพุทธิพิสัยได้เพียงด้านเดียว
5.1 ความหมายของการประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment)
กล่าวว่า การประเมินตามสภาพจริง หมายถึง การประเมินผลที่ใช้วิธีการ และเกณฑ์ที่หลากหลายในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ความสามารถ และคุณลักษณะต่าง ๆ ของผู้เรียน อย่างเต็มเวลาของกิจกรรมในแต่ละโปรแกรม โดยให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมหรือสร้างผลงานออกมาเพื่อแสดงตัวอย่างของความรู้และทักษะตนที่มีซึ่งกิจกรรมที่น ามาใช้ในการประเมินนั้น จะมีลักษณะเหมือนและเป็นส่วนหนึ่ง ของกิจกรรมการเรียนรู้มากกว่าเป็นการทดสอบ
จินดารัตน์ โพธิ์นอก (2561: 23) กล่าวว่า การประเมินตามสภาพจริง หมายถึง การประเมินการ เรียนรู้ของผู้เรียนจากพฤติกรรม กระบวนการท างานและผลงาน ในบริบทของการเรียนการสอนตามบริบท สังคม และชุมชนของผู้เรียน และเป็นเครื่องมือวัดสมรรถนะของผู้เรียนที่ได้เรียนรู้ซึ่งแสดงออกโดยการกระท าหรือการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่น
ชาตรี เกิดธรรม (มปป: 1) กล่าวว่า การประเมินตามสภาพจริง หมายถึง การประเมินจากการ ปฏิบัติงานหรือกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยงานหรือกิจกรรมที่มอบหมายให้ผู้ปฏิบัติ จะเป็นงานหรือสถานการณ์ ที่เป็นจริงหรือใกล้เคียงกับชีวิตจริง จึงเป็นงานที่มีสถานการณ์ซับซ้อนและเป็นองค์รวมมากกว่าการปฏิบัติงานในใน กิจกรรมการเรียนทั่วไป
5.2 คุณลักษณะของการประเมินตามสภาพจริง
Buke, Forarty และ Belgrad (อางถึงใน เฉลิมพล พันทอง, 2542) ยังได้เสนอไว้ว่า การประเมิน ตามสภาพจริงนั้น ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้คือ
(1) งานที่ปฏิบัติเป็นงานที่มีความหมาย คือ สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน
(2) เป็นการประเมินรอบด้านด้วยวิธีการที่หลากหลาย คือ ประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และ คุณลักษณะ ด้วยเครื่องมือที่สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้และกระทำหลายครั้งอย่างต่อเนื่องตลอด ระยะเวลาที่การ เรียนรู้เกิดขึ้น
(3) ผลผลิตมีคุณภาพ งานทุกงานมีเกณฑ์มาตรฐานที่ร่วมกันตั้งไว้โดยครูผู้เรียนและอาจจะมี ผู้ปกครองร่วมด้วย ผู้เรียนจะประเมินตนเองตลอดเวลาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง จนผลงานมีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด
(4) ใช้ความคิดระดับสูง กล่าวคือ ผลงานที่สร้างนั้นต้องเกิดจากการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์และ ประเมินทางเลือก ลงมือกระท า ตลอดจนต้องใช้ทักษะในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง
(5) มีปฏิสัมพันธ์ทางบวก กล่าวคือ ผู้เรียน ครูและผู้ปกครองจะต้องมีการร่วมมือกันประเมิน และ ผู้เรียนไม่มีความเครียด
(6) มีการกำหนดจำนวนงานขอบเขตและมาตรฐานอย่างชัดเจนและสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของ การเรียนรู้
(7) สะท้อนลักษณะเฉพาะตัวของผู้เรียน โดยผู้เรียนมีโอกาสแสดงความรู้สึกนึกคิด เหตุผลในการทำไม่ทำชอบหรือไม่ชอบในสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น
(8) เป็นการประเมินอย่างต่อเนื่อง ประเมินได้ทุกเวลาทุกสถานที่และเป็นการประเมินแบบไม่เป็น ทางการ เพื่อให้เห็นและทราบถึงพฤติกรรมการเรียนรู้ที่แท้จริงของผู้เรียน
(9) เป็นการบูรณาการซึ่งองค์ความรู้กล่าวคือ ผลงานที่ทำต้องใช้ทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้ในวิชา ต่าง ๆ ในลักษณะสหสาขาวิชา (Interdisciplinary)
จินดารัตน์ โพธิ์นอก (2561: 23) กล่าวว่า คุณลักษณะสำคัญของการประเมินตามสภาพจริงได้แก่
(1) การประเมินจากการปฏิบัติงานอย่างใดอย่างหนึ่งของผู้เรียน
(2) การประเมินจากการปฏิบัติงานในชีวิตประจ าวัน
(3) การประเมินโดยให้ผู้เรียนสร้างชิ้นงานหรือการประยุกต์ใช้ความรู้หรือทักษะ
(4) การประเมินโดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ
(5) การประเมินจากประจักษ์พยานหลักฐานโดยตรง
ชาตรี เกิดธรรม (มปป: 1) กล่าวว่า ลักษณะส าคัญของการวัดและการประเมินผลจากสภาพจริง คือ
(1) ใช้วิธีการประเมินกระบวนการคิดที่ซับซ้อน ความสามารถในการปฏิบัติงาน ศักยภาพของผู้เรียน มากกว่าที่จะประเมินว่าผู้เรียนสามารถจดจำความรู้อะไรได้บ้าง
(2) เป็นการประเมินความสามารถของผู้เรียน เพื่อวินิจฉัยผู้เรียนในส่วนที่ควรส่งเสริมและส่วนที่ควร แก้ไขปรับปรุง เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพตามความสามารถ
(3) เป็นการประเมินที่เปิดโอกาสให้มีผู้เรียนได้มีส่วนร่วมประเมินผลงานของทั้งตนเองและของเพื่อน ร่วมห้อง เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักตนเอง เชื่อมั่นในตนเองและสามารถพัฒนาข้อมูลได้
(4) ข้อมูลที่ประเมินได้จะต้องสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการจัดการเรียนรู้และการวางแผนการสอน ว่าสามารถตอบสนองความสามารถ ความสนใจ และความต้องการของผู้เรียนแต่ละบุคคลได้หรือไม่
(5) ประเมินความสามารถของผู้เรียนในการถ่ายโอนการเรียนรู้ไปสู่ชีวิตจริงได้
(6) ประเมินด้านต่าง ๆ ด้วยวิธีที่หลากหลายในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
5.3 ประโยชน์ของการประเมินผลตามสภาพจริง
(1) ใช้งานที่มีลักษณะปลายเปิดและสะท้อนกิจกรรมการเรียนการสอนที่แท้จริง
(2) เน้นการใช้ทักษะ ความรู้ความเข้าใจระดับสูงที่สามารถประยุกต์ใช้ข้ามวิชาได้
(4) เป็นปฏิบัติการที่เด่นชัดและแสดงให้เห็นกระบวนการแก้ปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนและ ยุ่งยากได้เป็นอย่างดี
(3) เน้นที่สาระสำคัญของลักษณะที่บ่งบอกถึงพัฒนาการทางการเรียนรู้มากกว่าเพียงแต่การดู ปริมาณของความบกพร่อง
(5) ส่งเสริมให้มีการใช้วิธีการประเมินผลที่หลากหลายและบันทึกผลการเรียนรู้ในภาพกว้างที่ ได้มาจากสถานการณ์ต่าง ๆ กัน
(7) ให้ความสำคัญและสนใจในความคิดและความสามารถของปัจเจกบุคคลมากกว่านำมา เปรียบเทียบระหว่างกัน
(8) สนองตอบความแตกต่างระหว่างบุคคลและประเภทของผู้เรียนที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี
9) ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันในระหว่างกระบวนการเรียนการสอน และกระบวนการวัด และการประเมินผลระหว่างผู้เรียน ผู้สอนและผู้ปกครอง
(10) ผู้เรียนและผู้สอน ล้วนมีบทบาทสำคัญในการประเมินผล
(11) ไม่เน้นว่าผลการศึกษาจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์สมมุติฐานที่ตั้งไว้ก่อนหน้าที่จะมีการเรียน การสอน
(13) ให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าที่ต้องการให้เกิดขึ้นมากกว่าการบันทึกจุดอ่อน
ของผู้เรียน
(6) สามารถใช้ได้กับทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม
(12) สามารถนำมาใช้เป็นวิธีการประเมินในระยะยาวได้
5.4 เครื่องมือในการประเมินตามสภาพจริง
วิธีการ-เครื่องมือ
การสังเกต ประกอบด้วย
(1) แบบส ารวจรายการ
(2) ระเบียนพฤติกรรม
(3) แบบมาตราส่วนประมาณค่า
การสัมภาษณ์ได้แก่
แบบบันทึกการสัมภาษณ์
การสอบถาม ได้แก่
แบบสอบถาม
การทดสอบ ประกอบด้วย
(1) แบบเขียนตอบ
(2) แบบทดสอบปฏิบัติจริง
แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ได้แก่
กิจกรรมที่จะวัด
วัดพฤติกรรมที่ลงมือปฏิบัติแล้วสังเกตความสามารถและ ร่องรอยของการปฏิบัติ เช่น การปฏิบัติตามคำสั่ง การทำงาน ร่วมกันอย่างมีขั้นตอน การเข้าร่วมการปฏิบัติหรือกิจกรรมที่ กำหนด
วัดกิจกรรมที่เป็นลักษณะนิสัยและความรู้สึก
สอบถามเพื่อให้ทราบถึงความรู้สึก ความคิด ความเชื่อ และ การกระทำด้านต่าง ๆ เช่น ความกล้าในการแสดงความ คิดเห็น บอกแนวความคิดที่มี อธิบายสิ่งที่มีความเชื่ออยู่ เป็น ต้น
ใช้วัดวามต้องการ ความสนใจ ที่แสดงความรู้สึกได้อย่างอิสระ
ทดสอบทักษะ ความรู้ความสามารถต่าง ๆ ที่ต้องการทราบ เช่น ความเร็วในการอ่าน รวมทั้งความเข้าใจในการอ่านและ การเขียนและการสรุปความเป็นต้น
กิจกรรมที่ไม่อาจสังเกตได้ทุกเวลาและอย่างทั่วถึง รวมทั้ง พฤติกรรมบางอย่างที่จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยเงื่อนไขและ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ซึ่งเงื่อนไขบางอย่างเกิดขึ้นไม่บ่อย นักทำให้การสังเกตในสถานการณ์จริงเป็นเรื่องยากและเสีย เวลานาน ดังนั้น การใช้แบบทดสอบจะมีความเหมาะสม มากกว่า
กิจกรรมที่ผู้เรียนทำเป็นชิ้นงานออกมา อาจเป็นรายงาน แบบ บันทึก เทปบันทึกเสียง ฯลฯ และทำการประเมินโดยตัว ผู้เรียนเอง ผู้สอนและเพื่อร่วมชั้น โดยมีลักษณะที่เน้นให้ ผู้เรียนคิดทบทวนและประเมินตนเอง
เปรียบเทียบลักษณะของการวัดและประเมินผลที่ใช้กันมาก่อนหน้านี้กับการประเมินตามสภาพจริง
การวัดและประเมินที่มีใช้อยู่โดยทั่วไป
เน้นที่พฤติกรรมเดี่ยว
หยุดการเรียนการสอนในขณะประเมิน
แยกตัวออกจากการสอนหรือวงจรการเรียน
แคบ
ใช้ตัวเลข
ขยายการใช้แบบทดสอบต่อไป
ผู้เรียนเป็นผู้รับความรู้ที่ไม่มีปฏิกิริยา
ไม่เป็นสภาพจริงของกระบวนการเรียนรู้
ครูอยู่นอกระบบประเมิน
อาศัยการวัดและประเมินจากบุคคลภายนอก
ใช้เกณฑ์ตายตัว เป็นตัวกำหนดความสำเร็จ
อาศัยวิธีคิดที่เหมือนกันกับคำตอบที่ถูกต้องเพียง คำตอบเดียว
จุดเน้นอยู่ที่การแยกทักษะต่าง ๆ ออกจากกัน
การวัดผลอยู่ในขอบเขตของแต่ละวิชา
การวัดและประเมินตามสภาพจริง
เน้นการใช้ความคิด ยุทธศาสตร์ในการเรียนรู้ที่ซับซ้อน หลายเชิง
การเรียนการสอนดำเนินไปตามปกติ
เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง โดยเป็น่วนประกอบหนึ่งในการ สอนหรือวงจรการเรียนรู้ของผู้เรียน
กว้าง
ใช้ข้อความ
ใช้วิธีการประเมินหลายชนิด
ผู้เรียนคือผู้ที่สร้างความรู้ที่โดดเด่น
เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้โดยปกติ
ครูเป็นส่วนหนึ่งของระบบประเมิน
อาศัยการวัดการประเมินผลโดยตนเอง(ผู้เรียน)เป็นสำคัญ
ใช้เกณฑ์ที่ยืดหยุ่นหลากหลาย เป็นตัวกำหนดความส าเร็จ
อาศัยวิธีคิดและคำตอบที่ต่างกันได้
จุดเน้นคือ การบูรณาการการเรียนรู้ทุกด้านเข้าด้วยกัน
ใช้กระบวนการของสหวิทยาการ