Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่2 พฤติกรรมการศึกษา - Coggle Diagram
หน่วยที่2 พฤติกรรมการศึกษา
พฤติกรรมการศึกษา เป็นคุณลักษณะของผู้เรียนที่เกิดจากการเรียนรู้ โดยผ่าน กิจกรรมการเรียนรู้ตาม
มุ่งหมายของหลักสูตร
ผู้สอนหรือบุคลากรที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้อง กับการจัดการศึกษาจำเป็น
รายละเอียดของจุดมุ่งหมายทางการศึกษาอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกันทุกฝ่าย
บลูม และคณะ
(Benjamin S. Bloom and Other, 1971) ได้จำแนกพฤติกรรมทางการศึกษาออกเป็น 3 ด้าน คือ
พฤติกรรมด้านจิตพิสัย (Affective Dornain)
พฤติกรรมต้าน ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)
พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
นักวัดผลทางการศึกษาซึ่งเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการวัดและประเมินผลการศึกษา จำเป็นต้องเข้าใจถึง
พฤติกรรมทางการศึกษาอย่างถ่องแท้ เพื่อจะได้นำไปเป็นแนวคิดพื้นฐานในการออกแบบเครื่องมือวัดให้ครอบคลุม
พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ในแต่ละด้าน และสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายทางการศึกษา
1.การจำแนกพฤติกรรมทางการศึกษา
นักจิตวิทยาชาวอเมริกันได้ร่วมกันศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้แล้วจัดกลุ่มพฤติกรรมได้ 3 หมวดหมู่ เรียกว่า
จุดมุ่งหมายทางการศึกษา (Education Objectives)
เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่งในการจัดกิจกรรมเพื่อการศึกษา เป็นสื่อให้นักพัฒนาหลักสูตรและครูผู้สอนมีความเข้าใจตรงกัน สามารถยึดถือเป็นแนวกำหนดจุดมุ่งหมายของการจัด การศึกษาได้อย่างสอดคล้องกันทุกระดับ
2. ด้านพฤติกรรมจิตพิสัย (Affective Domain) เป็นกลุ่มพฤติกรรมที่เกิดจาก ความรู้สึกนึกคิด หรือ
ความรู้สึกทางจิตใจ
คือกลุ่มของจุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เกี่ยวกับ ความรู้สึก ซึ่งเป็นรากฐานที่ก่อเกิดบุคลิกภาพหรือลักษณะนิสัยของบุคคล พฤติกรรมด้านนี้ จัดเป็นพฤติกรรมที่แอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ภายในต้องกำหนดสถานการณ์ให้แสดงออกยากทำให้ วัดยาก และต้องใช้เวลานาน
ขั้นรับรู้ (Receiving) เป็นขั้นแรก ที่เริ่มจากการที่บุคคลรับรู้สิ่งเร้า หรือ ปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่
กระทบประสาทสัมผัสต่างๆ จนเกิดความรู้สึกสนใจสิ่งนั้น
ขั้นตอบสนอง (Responding หลังจากที่รับรู้ในชั้นแรกแล้ว บุคคลจะมี พฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งเร้าในลักษณะที่เต็มใจ หรือไม่เต็มใจ ยินดีพอใจ หรือไม่ยินดีพอใจ ตอบสนอง โดยบางครั้งเราสามารถสังเกตกริยาอาการหรือการกระทำได้
ขั้นเห็นคุณค่า หรือ สร้างค่นิยม (Valuing หลังจากบุคคลมีพฤติกรรม ตอบสนองต่อสิ่งเร้าในลักษณะ เต็มใจ ยินดี พอใจ แล้ว ก็จะเกิดความรู้สึกในคุณค่าของสิ่ง นั้น ซึ่งมักจะต้องยึดถือกฎเกณฑ์ของกลุ่ม หรือสังคมมาใช้ในการตัดสินใจให้คุณค่า และ กลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการควบคุมทิศทางของพฤติกรรม ซึ่งเรียกว่าค่านิยม นั่นเอง
ขั้นจัดระบบคำานิยม (Organization) เมื่อบุคคลมีค่นิยมหลายๆ อย่างซึ่งเป็น ค่นิยมย่อยๆ ก็จะจัดระบบค่นิยม โดยการจัดลำดับความสำคัญของค่นิยมและ สัมพันธ์เชื่อมโยงค่านิยมที่กลายเป็นคติหรือแนวทางการประพฤติปฏิบัติ
ขั้นสร้างลักษณะนิสัยจากค่านิยม (Characterization) เป็นขั้นสุดท้าย หลังจาก ที่ค่านิยมต่างๆสามารถสัมพันธ์กันเป็นระบบแล้ว ก็จะมีพัฒนาบุคลิกภาพ หรือ ลักษณะนิสัย ของบุคคลให้เป็นรูปแบบที่ชัดเจนซึ่งอาจจะอยู่ในระดับที่ปรับลักษณะนิสัยให้สอดคล้องกับความ คาดหวังของสังคมเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนเป็นคนตีเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น เช่น การพยายาม ให้ความช่วยเหลือและมีน้ำใจต่อเพื่อน
3. ด้านพฤติกรรมทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) เป็นกลุ่มพฤติกรรมที่ เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อ
และประสาทสัมพันธ์ หรือพฤติกรรมจากการได้ลงมือปฏิบัติจริง
เป็นความสามารถของบุคคลในการใช้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายทำงาน
อย่างประสานสัมพันธ์กัน โดยจะมีขั้นตอนของการเกิดพฤติกรรมไป ตามลำดับ
การรับรู้ (Perception) เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดพฤติกรรม ด้านการรับ สัมผัสสิ่งเร้าผ่านทาง
ประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น หู ตา จมูก ลิ้น ผิวกาย
3.การตอบสนองตามแนวชี้แนะ (Guided Response) เป็นการเริ่มพัฒนาทักษะ โดยการแสดง
พฤติกรรมเลียนแบบตามผู้แนะนำหรือครู ในชั้นนี้จะเป็นขั้นลองผิตลองถูก
การปฏิบัติได้ด้วยตนเอง (Mechanism) คือการที่บุคคลสามารถปฏิบัติงานได้ ด้วยความเชื่อมั่นใน
ตนเอง มีผลสัมฤทธิ์ที่น่าพอใจ
การเตรียมความพร้อม (Set) คือการเตรียมตัวกระทำหรือการปรับตัวให้อยู่ ในสภาพพร้อมที่กระทำ ซึ่งมี 3 ด้าน คือ ด้านสมองจะเตรียมความรู้ซึ่งมีมาก่อน ต้านร่างกาย จะเตรียมเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและด้านอารมณ์จะเตรียมความรู้สึกในการให้คุณค่าต่อสิ่งที่จะปฏิบัติ
การตอบสนองที่ซับซ้อน (Complex overt Response) เป็นขั้นที่สามารถ กระทำหรือปฏิบัติงาน
ที่ขับซ้อนได้ แม้จะต้องใช้ทักษะขั้นสูงก็สามารถทำได้อย่างชำนาญ หรือได้อย่างอัตโนมัติ
การตัดแปลง (Adaptation) หลังจากที่สามารถปฏิบัติได้ย่างชำนาญแล้วเมื่อ บุคคลต้องแก้ปัญหา
บ่อยๆ ก็จะพัฒนาวิธีการเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อลดขั้นตอน ลดเวลา หรือ เพิ่มคุณภาพผลงาน
การริเริ่ม (Oigination) เป็นขั้นสูงสุดของการพัฒนาทักษะ ซึ่งบุคคลสามารถ สร้างสรรค์ผลงาน
ใหม่ ด้วยวิธีการใหม่ที่ตนคิดขึ้นมา โดยใช้สติปัญญาร่วมกับประสบการณ์ ด้านทักษะ
1. ด้านพฤติกรรมพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) เป็นกลุ่มพฤติกรรมที่เกิดจากการใช้สมองหรือ
สติปัญญา
เกิดจากพลังความสามารถทางสมอง ซึ่งไปมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
หรือสิ่งเร้าทำให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นในตัวบุคคล ประสบการณ์ต่ำงๆ มีมากมายหลากหลายมีทั้งง่ยๆ และยุ่งยาก
ความรู้เฉพาะเจาะจง (Specifics)
ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์และนิยาม
1 more item...
ความรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเฉพาะ
1 more item...
ความรู้เกี่ยวกับวิธีดำเนินการเฉพาะอย่าง (Way and Means of Dealing with Specifics)
ความรู้เกี่ยวกับระเบียบแบบแผน
1 more item...
ความรู้เกี่ยวกับลำดับขั้นและแนวโน้ม
1 more item...
ความรู้เกี่ยวกับการจำแนกประเภทและจัดกลุ่ม
1 more item...
ความรู้เกี่ยวกับเกณฑ์
1 more item...
ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ
1 more item...
ความรู้รวบยอดและนามธรรมในแต่ละเนื้อเรื่อง (Universal and Abstractions in a Field)
ความรู้เกี่ยวกับหลักวิชาและข้อสรุปอ้างอิง
(Principles and Generalizations)เป็นความรู้ในสิ่งที่เป็นสาระสำคัญ หรือหลักการซึ่งเป็นข้อสรุปของเรื่องราว นั้นๆ รวมถึง สามารถขยายสาระสำคัญของเรื่องราวนั้นๆ ไปสู่เรื่องราวอื่นที่มีสภาพการณ์ ท นองเดียวกัน เช่น สามารถบอกหลักการในการหาปริมาตรโดยการแทนที่น้ำสามารถบอก หลักการบวกลบเศษส่วนได้อย่างถูกต้อง
ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีและโครงสร้าง
(Theories and Structures) เป็นความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลักวิชาต่างๆ เข้าด้วยกัน แล้วสรุปเป็นเนื้อความ ใหญ่เรื่องเดียวกัน อันจะช่วยให้นักเรียนมีความรู้ในเนื้อหาวิชานั้นอย่างแจ่มแจ้งและเป็นระบบ
ความเข้าใจ (Comprehension)
ความเข้าใจเป็นสมรรถภาพทางสมองของบุคคล ในการจัดระเบียบความคิดแล้วแสดงออกมา และสามารถที่จะนำเสนอความรู้ความคิดที่ชัดเจนกว่าของเดิม โดยไม่จำเป็นต้องไปสัมพันธ์กับเรื่องอื่น
1 more item...
(2) การตีความ (Interpre tation) เป็นความสามารถในการสื่อความหมายโดย การอธิบาย
หรือสรุปความ ซึ่งมีลักษณะที่ลุ่มลึกกว่าการแปล เพราะการแปลจะมีลักษณะการ สื่อความหมายโดยการถอดความ
1 more item...
การนำไปใช้
(Application) การนำไปใช้เป็นความสามารถในการประยุกต์หลักกร เทคนิคแนวคิด หรือ ทฤษฎีต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่แปลกใหม่ รวมไปถึงการน ากฎเกณฑ์หรือหลัก ความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ
การวิเคราะห์ (Analysis)
การวิเคราะห์ หมายถึง ความสามารถในการแยกแยะรายละเอียดของเนื้อหา เรื่องราว เหตุการณ์ หรือข้อเท็จจริงใดๆ เพื่อจำแนกให้เห็นส่วนประกอบ สาระสำคัญ และความสัมพันธ์ของส่วนประกอบเหล่านั้น ตลอดจนสกัดให้เห็นสิ่งที่เป็นหลักการที่เป็นต้นกำเนิดทำให้ส่วนประกอบเหล่านั้นรวมกันเป็นกลุ่มก้อนหรือเป็นเรื่องราวขึ้นมาได้ การวิเคราะห์จึงมี เป้าหมายที่จะดันหาความจริงที่แฝงอยู่
3 more items...
การสังเคราะห์ (Synthesis)
ความสามารถในการผสมผสานส่วนย่อยเข้าเป็น เรื่องราวเตียวกันซึ่งจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงาน การจัดเรียบเรียง และผสมผสานให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้น ต้องดัดแปลงปรับปรุงของเก่าให้ดีขึ้น มีคุณภาพสูงขึ้น
1 more item...
1 more item...
1 more item...
การประเมินค่า (Evaluation)
การประเมินค่า หมายถึง การตัดสินเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งหนึ่งสิ่งใด ทั้งนี้อาจ เป็นการตัดสินโดยยึดถือตามปริมาณ หรือคุณภาพ แต่จะต้องมีเกณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการตัดสิน
1 more item...
(2) การตัดสินโดยใช้เกณฑ์ภายนอก (Judgments in Terms of External Criteria) เป็น
ความสามารถในการตัดสินเหตุการณ์หนึ่งโดยนำไปเทียบกับเกณฑ์ภายนอกที่เลือกมา และเป็นที่ยอมรับในสังคม
2. คุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้พัฒนาขึ้นมาใช้ แทนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2554 เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กระทรวงศึกษาธิการ, 2551 : 11) ประกอบด้วย
1. วิสัยทัศน์
ให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึก ในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพสโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง
เจตคติที่จำเป็นต่อ การศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการศึกษาตลอดชีพ โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ
2. จุดหมาย
จุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มี 5 ข้อดังนี้
2.3 มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัยและรักการออกกำลังกาย
2.4 มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพสโลก ยึดมั่นในวิถี ชีวิตและการปกครอง
2.2 มีความรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการสื่อสาร การคิดการ แก้ปัญหา
การใช้เทศโนโลยี
และมีทักษะชีวิต
2.5 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และ พัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต
สาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงานในสังคม และอยู่ร่วมกัน ในสังคมอย่างมีความสุ
2.1 มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม
หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ
3. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน
3.1 ความสามารถในการสื่อสาร
3.2 ความสามารถในการคิด
3.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
3.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1.รักชาติ ศาสน์กษัตริย์
ซื่อสัตย์สุจริต
มีวินัย
ใฝ่เรียนรู้
อยู่อย่างพอเพียง
มุ่งมั่นในการทำงาน
รักความเป็นไทย
มีจิตสาธารณะ
5. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
ภาษาไทย
2.คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สุขศึกษาและพลศึกษา
ศิลปะ
7.การงานอาชีพและเทคโนโลยี
8.ภาษาต่างประเทศ
6. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมสำหรับส่งเสริมผู้เรียน
6.1 กิจกรรมแนะแนว
6.2 กิจกรรมนักเรียน
6.3 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ต้องกำหนดขึ้น สำหรับการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา หากนำมาวิเคราะห์ขอบเขตของพฤติกรรมที่คาดหวังในแต่ละกลุ่มสาระก็จะพบว่ามีครอบคลุมทั้ง 3 ต้าน ตามแนวการจำแนกพฤติกรรมการเรียนรู้ของบลูม คือ ด้านพุทธิพิสัย ด้านจิตพิสัยและด้านทักษะพิสัย
แต่ในปัจจุบันนี้นักวิชาการด้าน การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ให้ความสำคัญพฤติกรรมทักษะกระบวนการคิดกับกระบวนการทำงานโดยจัดเป็น กลุ่มเดียวกัน จึงมีการจัดกลุ่มพฤติกรรมใหม่แต่ก็ยังจัดเป็น 3 กลุ่ม และยังยึดถือแนวทางของบลูมอยู่ ดังนี้
กลุ่มพฤติกรรมด้านความรู้ (Knowledge : K ซึ่งเป็นพฤติกรรมของสมอง ในการจำและเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราว เหตุการณ์ ศัพท์ สัญลักษณ์ เนื้หาความรู้ สูตร กฎ ทฤษฎี ขั้นตอน วิธีการ ฯลฯ ซึ่งตรงกับพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยนั่นเอง
กลุ่มพฤติกรรมด้านเจตคติ (Attitude : A) ซึ่งเป็นพฤติกรรมทางจิตใจ เช่น ความรู้สึก ความคิดเห็น
ความเชื่อ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม ฯลฯ ซึ่งตรงกับพฤติกรรม ด้านจิตพิสัยนั่นเอง
กลุ่มพฤติกรรมต้านกระบวนการเรียน (Process : P) ซึ่งเป็นพฤติกรรมใน การใช้สติปัญญาในการ
แก้ปัญหา แสวงหาความรู้ รวมถึงทักษะการปฏิบัติงานหรือกิจกรรม ซึ่งตรงกับพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
การกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้มีความสำคัญโตยตรงต่อการจัตการเรียนรู้สอง ประการ ประการหนึ่งก็คือเป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์การเวียนรู้ หรือแนวทางในการ พัฒนาผู้เรียนให้ครบทุกด้าน อีกประการหนึ่งก็คือใช้เป็นแนวทางในการวัดและประเมิน ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ทุกต้านเซนเดียวกัน โดยเริ่มตั้งแต่นำมาใช้ในการวางแผนสร้างเครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้จนถึงขั้นสุดท้ายคือการสรุปประเมินผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน