Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การก่อกำเนิดชีวิตใหม่ - Coggle Diagram
การก่อกำเนิดชีวิตใหม่
หลังการปฏิสนธิ
การแบ่งตัว (cleavage) หลังการปฏิสนธิ zygote มีการแบ่งตังแบบ meiosis ในช่วงแรกที่ไซโกตอยู่ในปีกมดลูก จะมีการแบ่งเซลล์แบบตัด(cleavage) อย่างรวดเร็ว จาก 1>2>4>8>16 เซลล์ ในระยะที่ตัวอ่อนเริ่มมี 16 เซลล์อาจเรียกว่าระยะ morular หลังจากนั้นตัวอ่อนจะแบ่งต่อไปเรื่อยๆ จนมีจำนวนประมาณ 100 เซลล์ ซึ่งเรียกว่า blastocyst ระยะนี้ตัวอ่อนจะเคลื่อนมาถึงโพรงมดลูก ซึ่งกินเวลาประมาณ5-6 วัน เมื่อ blastocyst เคลื่อนที่มาถึงโพรงมดลูก blastocyst จะเจริญเติบโตเป็น 2 ส่วนคือ inner cell mass ซึ่งเจริยไปเป็นตัวอ่อน (embryo) และทารก(fetus) และส่วที่ 2 คือ trophoblast cell จะเจริญไปเป็นรก (placenta) และเยื่อหุ้มทารก
-
การฝังตัว (implantation)
-
ฮอร์โมน progesterone จาก corpus luteum ทำให้เยื่อบุมดลูกหนาขึ้นเพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อน หลังปฏิสนธิจะเปลี่ยนชื่อจาก endotrium เป็น decidua
การฝังตัวของ blastocyst ฝังตัวลงไป โดยปกติจะฝังตัวที่ผนังของ fundus หรือ body ของมดลูกและฝังตัวไปลึกเกินชั้น decidua spongiosa เพราพเชื่อว่ามีสารจำพวก mucopolysaccharides ซึ่งต้านทานฤทธิ์น้ำย่ิยจาก troblast cell ของ blastocyst ที่ทำลายเซลล์ของ decidua spongiosa จึงทำให้การฝังตัวของ blastocyst ไม่อาจผ่านลงมาลึกกว่าส่วนผิวของชั้น decidua spongiosa ภายหลังเกิกการฝังตัวแล้วทารก เรียกชื่อใหม่ว่า chorionic vesicle
-
-
ก่อนการปฏิสนธิ
เซลล์สืบพันธุ์เพศชาย
สเปอร์มาโทจีนีซีส (spermatogenesis) เป็นกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เมื่อเพศชายเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ โดยเริ่มต้นจากเซลล์ที่เรียกว่า สเปอร์มาโทโกเนีย (spermatogonia) เจริญและพัฒนาไปเป็น สเปอร์มาโทไซต์ ขันที่หนึ่ง (primary spermatocyte) จากนั้นสเปอร์มาโทไซต์ขั้นที่หนึ่งจะเข้าสู่กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์โดยการแบ่งเซลล์แบบไมโอซีส (meiosis) เป็นระยะไมโอซีสขั้นแรก (meiosis I) ได้เซลล์ใหม่เรียกว่า สเปอร์มาโทไซต์ ขั้นที่สอง (secondary spermatocyte) จากนั้นสเปอร์มาโทไซต์ขั้นที่สอง จะแบ่งเซลล์ต่อไปในระยะ ไมโอซีส ขั้นที่สอง (meiosis II) ได้ เซลล์สเปอร์มาทิด (spermatid) ในการแบ่งเซลล์สืบพันธุ์แต่ละครั้งนั้น สเปอร์มาโทไซต์ ขั้นที่หนึ่ง 1 เซลล์ เมื่อแบ่งแล้วจะได้สเปอร์มาทิด 4 เซลล์ แต่ละซลล์จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้เซลล์สเปิร์ม ต่อไป
สเปิร์ม
ลำตัว (midpiece) ส่วนคอและลำตัว ส่วนนี้ตรงกลางมีแกนเรียกว่า แอกเซียลฟิลาเมนต์ (axial filament) ตรงคอมีเซนโทรโซม 2 อัน ถูกพันด้วยไมโทคอนเดรีย (mitochondria) แบบเกลียว และเป็นแหล่งให้พลังงานสำหรับการเคลื่อนที่ของสเปิร์ม ส่วนแกนมีเยื่อหุ้มไว้
-
หัว(head) ภายในบรรจุไว้ด้วยนิวเคลียสและปลายสุดของหัวถูกห่อหุ้มไว้ด้วย อะโครโซม (acrosome) ซึ่งบรรจุเอนไซม์สำหรับเข้าเจาะไข่ อะโครโซมนั้น ถูกเปลี่ยนมาจากกอลจิคอมแพล็กซ์ (golgi complex)
-
-
เซลล์สืบพันธุืเพศหญิง
เซลล์ไข่ (oocyte) ที่อยู่ใน ovarian follicle ที่พบในชั้น cortex ของรังไข่นั้น จะมีการเจริญไปเป็นขั้นตอนตามลำดับ
-
-
-
primary oocyte เจริญมาจาก oocyte และยังคงมีโครโมโซม 2n มาจนถึงวัยสาว จนมีฮอร์โมน FSH มากระตุ้น ให้เจริยญต่อและแบ่งตัวเสร็จใน meiosis I
-
-
-
-