Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อาหารและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Food and Rheumatoid Arthritis), image,…
อาหารและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
(Food and Rheumatoid Arthritis)
รูปแบบของอาหาร
อาหารเมดิเตอร์เรเนียน
อาหารชนิดนี้มีสัดส่วนของผลไม้ผักพืชตระกูลถั่วธัญพืชปลาและน้ำมันมะกอกสูงมีแอลกอฮอล์ประมาณปานกลางแต่มีเนื้อสัตว์น้อย จากการศึกษาพบว่าไม่มีอาหารชนิดใดมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของโลกอย่างมีวินัยสำคัญยกเว้นแอลกอฮอล์ซึ่งลดความเสี่ยงในการเกิด
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้
Prudent diet
มีสัดส่วนการบริโภคผักผลไม้ถั่วธัญพืชสัตว์ปีกและปลาสูงจากการศึกษาพบว่าบริโภคอาหาร พรูเดย์ ในสัดส่วนที่มากมีความเสี่ยงต่อโรคอักเสบรูมาตอยด์น้อยกว่าผู้ที่บริโภคอาหารพรูเดนท์ในสัดส่วนที่น้อยแต่ในขณะเดียวกันชาวตะวันตกมีสัดส่วนการบริโภคเนื้อแดงเนื้อสัตว์ในรูปแบรูปธัญพืชที่ป่านการขัดสี มันฝรั่งทอด ขนมหวานและผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค
สารอาหาร
ซิลิเนียม
เป็นสารอาหารที่มากในปลา บริโภคปริมาณที่เหมาะสมจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันและกระบวนการหายอักเสบเรื้อรังจากการศึกษาพบว่า ยังไม่พบความสัมพันธ์โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์กับ
ระดับซีรัมซีลิเนียมในระดับต่ำ
วิตามินดี
ทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนที่จะรักษาสมดุลของเเคลเซียมแล้วยังมีคุณสมบัติที่สามารถกระบวนการอักเสบได้ จากการศึกษาพบว่าการบริโภควิตามินดีปริมาณมากมีความเสี่ยงน้อยกว่าบริโภควิตามินดีปริมาณน้อยยังไม่มีผลกระทบต่อความเสี่ยงของโรคโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
กรดไขมันโอเมกา-3
เป็นกรดไขมันที่พบในปลาและอาหารทะเล ปลาที่มีไขมันสูง จะมีกรด
ไข้มันโอเมกา-3 สูง กว่าปลาที่มี ไขมันต่ำ ปลาที่มีไขมันสูง เช่น
ปลาเเซลมอน ปลาแมคเคลเรล เป็นต้น ควรบริโภคประมาณ 1.5-3 กรัมต่อวัน จากการศึกษา พบว่าบริโภคปริมาณมากกว่า 0.21 กรัม/วันลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้อยละ 35 และถ้าบริโภคมากกว่า 10 ปี จะลดความเสี่ยงได้ร้อยละ 52
โปรตีน
พบว่ามีความเสี่ยงของโรคข้ออักเสบเพิ่มขึ้นปริมาณ 3 เท่า บริโภคโปรตีนมากกว่า 75.3กรัม/วัน เมื่อมาเทียบกับผู้ที่บริโภคโปรตีนน้อยกว่า 62.4 กรัม/วัน จากการศึกษากลับไม่พบความสัมพันธ์ใดๆ ของชิดโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์และพืช
ธาตุเหล็ก
ทางระบาดวิทยายังไม่พบความสัมพนธ์ระหว่างการบริโภคธาตุเหล็กกับความเสี่ยงของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
สารต้านอนุมูลอิสระ
ได้เเก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดีและสารแคโรทีนอยด์ จากการศึกษาพบว่ายังมีความขัดเเย้งกันมาก
ชนิดของอาหาร
เนื้อสัตว์
เป็นแหล่งอาหารสำคัญของโปรตีน และสารอาหารที่จำเป็นรวมทั้งเหล็ก สังกะสีและวิตามินบี 12 จากการศึกษาพบว่า การบริโภคเนื้อเเดงปริมาณมากกว่า 58 กรัม/วันพบความเสี่ยงโรคข้ออักเสบมากขึ้นประมาณ 2 เท่า
ปลา
สามารถป้องกันโรคเรื้อรังหลายโรค จากการศึกษาปลากับ
โรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์ พบว่าการรับประทานปลา 1-3 หน่อยบริโภคหรือประมาณ 9ออนซ์/สัปดาห์สามารถลดความเสี่ยงของโรคได้ เมื่อเปรียบเทีบยจากการไม่รับประทานปลา
นม
มีเเคลเซียม แมกนีเซีม วิตามิน และโปรตีนเวย์ในปริมาณสูง จากการศึกษาทางระบาดวิทยา ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดเจนแต่การศึกษาของ รัฐไอโววาพบว่ามีความเสี่ยงของโรคข้ออับเสบเพิ่มขึ้นในผู้ที่บริโภคนมมากกว่า 260กรัม/วัน
ผักและผลไม้
ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังหลายโรค การบริโภคผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจึงอาจจะช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้
น้ำมันมะกอก
พบว่าเป็นประโยชน์ ต่อสุขภาพมากมาย จากการศึกษาทางระบาดวิทยายังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดเจน
ธัญพืชไม่ขัดสีและตระกูลถั่ว
สามารถลดการ อักเสบโดยการลด CRP เเต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบความสัมพันธ์ของการบริโภคธัญพืชเส้นใยสูงกับความเสี่ยงของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
การเเฟ ,ชา,แอลกอฮอล์
พบว่าการดื่มการเเฟมากกว่า 4แก้ว/วัน เพิ่มความเสี่ยงของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2เท่า และชา มีคุณสมบัติต้านการอักเสบแต่ยังไม่พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ แอลกอฮอล์พบว่าการดื่มปริมาณน้อยถึงปานกลางสามารถลดความเสี่ยงได้
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
อาการ
จะมีข้ออักเสบจำนวนหลายข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ข้อมือและข้อนิ้วมือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้อตลอดเวลาและมีอาการข้อฝืดขัด และยังมีอาการในระบบอื่นที่อาจพบได้ เช่น ไข้ต่ำๆ อาการอ่อนเพลีย ปุ่มรูมาตอยด์ อาการปากแห้งตาแห้ง เป็นต้น
สาเหตุ
จากการศึกษาพบว่ามีปัจจัยหลายประการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ กรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อมไม่ดี อุบัติเหตุ หรือได้รับความกระทบกระเทือนจากสาเหตุอื่นๆ โรคปริทันต์อักเสบและจากอาหาร เป็นต้น
การปรับเปลี่ยนอาหาร
รูปแบบการบริโภคอาหาร
พบว่ามีเพียงการอดอาหาร 7-10 วันแล้วตามด้วยอาหารมังสวิรัติกับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนเท่านั้นที่สามารถลดความปวดจากโรคได้
การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดการคลอดติดในช่วงเช้าจำนวนข้อที่ปวดและการให้ยาที่ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบไม่ใช้สเตียรอยด์
แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ประเภท
นางสาวศศิวิมล สุดโต เลขที่70 622801076