Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปองค์ความรู้หน่วยที่ 1-6 - Coggle Diagram
สรุปองค์ความรู้หน่วยที่ 1-6
บทที่ 6 แนวทางการวัดและประเมินสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทางการศึกษา
การวัดและประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 ไม่เหมาะสมกับนักเรียนที่มความต้องการพิเศษทางการศึกษาที่เรียนรวมอยู่ด้วย
ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
เด็กที่มีปัญหาและความต้องการจำเป็นพิเศษซึ่งมากกว่าเด็กปกติทั่วไป
กลุ่มเด็กที่มีความสามารถพิเศษ หรือที่รู้จักกันในนาม "เด็กปัญญาเลิศ-เด็กอัจฉริยะ"
เด็กด้อยโอกาส
กลุ่มเด็กที่มีความบกพร่องทางการศึกษาทั้ง 9 ประเภท
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กำหนดแนวทางการศึกษา เกี่ยวกับคนพิการไว้ว่่า "การจัดการศึกษาให้บุคคลมีสิทธิโอกาสเสมอภาคในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย"
ประเภทและหลักเกณฑ์ของคนพิการทางการศึกษา พ.ศ.2552
บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้
บุคคลที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ
บุคคลที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมหรืออารมณ์
บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา
บุคคลออทิสติก
บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
บุคคลพิการซ้อน
บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น
ต้องใช้วิธีที่หลากหลาย เหมาะสมกับพัฒนาการ ศักยภาพของเด็ก
แนวทางการวัดและประเมิน
แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP)
การจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)
วางแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)
ประเมินความรู้ความสามรถ ทักษะ และความพร้อมพื้นฐาน
จุดเด่น
ความสามารถและศักยภาพในปัจจุบัน
จุดด้อย
สิ่งที่นักเรียนไม่สามารถทำได้ในสาระการเรียนรู้
จุดมุ่งหมายของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
เพื่อประเมินพัฒนาการและผลการเรียนรู้ของนักเรียน
3.เพื่อตัดสินผลการเรียน ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551
เพื่อประเมินความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐานและความจำเป็นพิเศษเพื่อวางแผนการจัดการเรียนรู้
วัด/ประเมิน
IEP
วัด/ประเมิน
เกณฑ์
IEP
บทที่ 3 การประเมินตามสภาพจริง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ประเมินจากการปฏิบัติ
อยู่บนพื้นฐานของชีวิตจริง
ใช้เครื่องมือหลากหลาย
ร่วมมือกันทุกฝ่าย
สัมพันธ์กับการเรียนการสอน
ความหมาย
เป็นการประเมินจากการวัดโดยให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริงในสถานการณ์จริง
เครื่องมือในการประเมินตามสภาพจริง
การสอบถาม
แบบสอบถาม
การทดสอบ
แบบเขียนงาม
แบบทดสอบปฏิบัติจริง
การสัมภาษณ์
แบบบันทึกการสัมภาษณ์
แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
การสังเกต
แบบสำรวจรายการ
ระเบียนพฤติกรรม
แบบมาตราส่วนประมาณค่า
กิจกรรมการเรียนการสอน
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ครบทั้ง 3 ด้าน คือ พุทธพิสัย จิตพิสัย ทักษะพิสัย
ตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
สถานการณ์จำลอง
บทบาทสมมุติ
เกมการศึกษา
การจัดการเรียนการสอนแบบใหม่
มีกระบวนการวัดผลที่หลากหลาย
ใช้คะแนนร่วมกับคุณภาพ ปริมาณผลงานเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จ
เน้นกระบวนการคิด
ผู้เรียนมีทักษะในการแก้ปัญหา
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การจัดการเรียนการสอนแบบเดิม
ใช้ "ข้อสอบ" เป็นหลัก
ใช้คะแนนเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จ
เน้นเนื้อหาเป็นหลัก
ผู้เรียนไม่มีทักษะในการปฏิบัติจริง
ยึดครูเป็นศูนย์กลาง
บทที่ 1 แนวคิด หลักการ และแนวปฎิบัติในการวัด [และประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
การประเมินผล
การตัดสินคุณค่าของสิ่งที่ได้จากการวัด โดยเทียบเกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้
เกณฑ์ที่ตั้งเอง
เกณฑ์มาตรฐาน
องค์ประกอบของการประเมิน
เกณฑ์
การตัดสินคุณค่าหรือการตัดสินใจ
ข้อมูล (ที่ได้จากการวัด)
หลักการในการวัดผลการศึกษา
3.เลือกใช้เครื่องมือที่หลากหลาย
4.เลือกตัวแทนของสิ่งที่จะวัดให้เหมาะสม
2.เลือกใช้วิธีการวัดให้เหมาะสม/เครื่องมือที่มีคุณภาพ
5.ใช้ผลจากการวัดให้คุ้มค่า
1.กำหนดจุดประสงค์ให้ชัดเจนว่าต้องการวัดอะไร
6.มีความยุติธรรม
7.ดำเนินการสอบที่มีคุณภาพ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน
ต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดเอาไว้
การวัดและประเมินผล
เพื่อให้รู้ว่าบรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้หรือไม่
จุดประสงค์การเรียนรู้
กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เพื่อเป็นเป้าหมายให้กับผู้เรียน
การวัดผล
กำหนดตัวเลข หรือสัญลักษณ์ให้กับสิ่งต่าง ๆ ผลที่ได้อาจเป็นตัวเลข หรือสัญลักษณ์
องค์ประกอบของการวัด
เครื่องมือ (ที่สำคัญ)
ข้อมูลที่ได้
ปัญหาหรือสิ่งที่จะวัด
ผู้เรียนทุกคนสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นไปได้ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
จุดประสงค์
เพื่อวัดและประเมินผลในการจัดการเรียนการสอนว่านักเรียนมีความรู้ ทักษะ หรือคุณลักษณะเป็นไปตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ได้กำหนดไว้หรือไม่
การวัดผลทางการศึกษามีความคลาดเคลื่อน
วิธีความคาดเคลื่อน
วัดหลาย ๆ ครั้ง
ใช้เครื่องมือในการวัดที่หลากหลาย
จุดมุ่งหมายของการวัดผลการศึกษา
3.จัดอันดับว่าใครเก่ง ใครอ่อน ผ่าน/ไม่ผ่าน
4.เปรียบเทียบทำให้ทราบพัฒนาการของผู้เรียน
2.วินิจฉัยจุดบกพร่อง
5.พยากรณ์ คาดคะเนหรือทำนายอนาคตของผู้เรียน
1.ค้นหาและพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน
6.ประเมิน เพื่อสรุปคุณภาพของการจัดการศึกษา
บทที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล
ครูผู้สอนจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้และช่วงชั้นของผู้เรียน และยังต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมทางการศึกษา (พุทผะพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย) โดยในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนครูผู้สอนจะต้องให้ความสำคัญว่า "ในการสอนแต่ละครั้ง/แต่ละแผนครูต้องการให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการศึกษาประเภทใด หรือต้องการให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการศึกษาประเภทใด"
เครื่องมือในการวัดพฤติกรรมทางการศึกษา
การสังเกต
การสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง (ไม่เหมาะ)
การสังเกตแบบมีโครงสร้าง (เหมาะ)
วัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย (P) และจิตพิสัย (A)
การสัมภาาณ์
แบบไม่มีโครงสร้าง (ไม่เหมาะ)
ไม่จำเป็นที่ต้องใช้คำถามเหมือนกันหมด
วัดพฤติกรรมด้านพุทธพิสัย (K) จิตพิสัย (A) และทักษะพิสัย (P)
แบบมีโครงสร้าง (เหมาะ)
ข้อดี
จัหมวดหมู่ข้อมูลได้ง่าย สะดวกในการวิเคราะห์
ข้อเสีย
ไม่มีความยืดหยุ่น เพราะต้องถามตามแบบสัมภาษณ์
ใช้แบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้นมาแล้วในการสัมภาษณ์
3.การวัดเชิงสถานการณ์
ตัวอย่าง
เดินผ่านไปเฉย ๆ เพราะ.........
บอกให้ไปข้างหน้าก่อน เพราะ.....
ข้อดี
สามารถวัดพฤติกรรมผู้เรียนในระดัยสูงได้
บุคคลแสดงความรู้สึก หรือแสดงพฤติกรรมด้านสติปัญญา
ข้อเสีย
กำหนดเกณฑ์ในการให้คะแนนยาก
เป็นการจำลองหรือสร้างเหตุการณ์เรื่องราวต่าง ๆ ขึ้น
แบบสอบถาม
เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันมาก
แบบสอบถามปลายเปิด
ไม่กำหนดคำตอบ ตอบได้อย่างอิสระ
วัดพฤติกรรมด้านพุทธพิสัย (K) จิตพิสัย (A) และทักษะพิสัย (P)
แบบสอบถามปลายปิด
มีตัวเลือกคำตอบให้
มาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale)
มีหลายลักษณะ
มาตราส่วนประมาณค่าแบบตัวเลข
แบบใช้สัญลักษณ์หรือภาพประกอบ
มาตราส่วนประมาณค่าแบบบรรยาย
การจัดอันดับ
ข้อเสีย
พฤติกรรมหรือคุณลักษณะที่วัดต้องชัดเจน
วัดความถี่ มาก-น้อย ได้
ข้อดี
สามารถนำมาเปรียบเทียบเกณฑ์ที่กำหนดไว้
นำเอาระดับพฤติกรรมมาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผู้เรียน
ครูได้ระดับของผู้เรียนว่ามีมากน้อยเพียงใด
วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย (A) และทักษะพิสัย (P)
การวัดผลภาคปฏิบัติ
สอดคล้องกับการประเมินสภาพจริง
วัดพฤติกรรมทางด้านทักษะพิสัย (P) และพุทธพิสัย (K)
ตรวจสอบรายการ (Check list)
เป็นการวัดพฤติกรรมที่สนใจหรือไม่เท่านั้น
นิยมใช้กรณีที่มีลำดับขั้นตอนการปฏิบัติงาน และบันทึกผลจากการปฏิบัติ
คำถามจะเป็น ใช่/ไม่ใช่ มี/ไม่มี
ข้อดี
ง่ายต่อการใช้
ใช้ร่วมกับการสังเกตได้
วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย (A) และทักษะพิสัย (P)
ข้อเสีย
พฤติกรรมหรือคุณลักษณะของผู้เรียนที่วัดต้องชัดเจน
ผู้วัดต้องคลุกคลีกับผู้เรียนเป็นอย่างมาก
บทที่ 5 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลในศตวรรษที่ 21
คนทุกคนต้องเรียนรู้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมหาลัยและตลอดชีวิต คือ 3R x 7C
แนวทางการวัดและประเมินทักษะ
วัดและประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ประเมินเพื่อให้รู้จุดเด่น จุดที่ต้องปรับปรุง
ผู้สอนต้องใช้เครื่องมือการประเมินที่หลากหลาย
วัดและประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียน
เกิดสมดุลคุณภาพที่สอดคล้องพัฒนาดีขึ้นไปทิศทางเดียวกัน
ให้โอกาสผู้เรียนแสดงความรู้ความสามารถด้วยวิธีที่หลากหลาย
ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21
ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม
ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
สาระวิชาหลัก
ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ
จุดเน้น
นำผลสะท้อนจากการปฏิบัติของผู้เรียนมาปรับปรุงแก้ไขงาน
ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการวัดและประเมินผล
สร้างความสมดุลในการประเมินเชิงคุณภาพ
สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมผลงาน
แนวคิดหลักของการจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21
องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียน
วิธีการวัดประเมินทักษะในศตวรรษที่ 21
การปฏิบัติ
ตามสภาพจริง
การสื่อสารส่วนบุคคล
แฟ้มสะสมงาน
ต้องเป็นการวัดและประเมินผลสภาพที่แท้จริง ยึดการปฏิบัติเป็นสำคัญและสัมพันธ์กับการเรียนการสอน บูรณาวิธีการประเมินและใช้เครื่องมือที่หลากหลาย สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมผลงานของผู้เรียน นำเทคโนโลยีมาใช้ในการวัดและประเมินผล
บทที่ 2 พฤติกรรมทางการศึกษา
หลักสูตรแกรกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 (แทนหลักสูตร 2554)
4.คุณลักษณะอันพึงประสงค์
4.ใฝ่เรียนรู้
5.อยู่อย่างพอเพียง
3.มีวินัย
6.มุ่งมั่นในการทำงาน
2.ซื่อสัตย์สุจริต
7.รักความเป็นไทย
1.รักชาติ ศาสน์กษัตริย์
8.มีจิตสาธารณะ
5.มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
4.สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
5.สุขศึกษาและพลศึกษา
3.วิทยาศาสตร์
6.ศิลปะ
2.คณิตศาสตร์
7.การงานอาชีพและเทคโนโลยี
1.ภาษาไทย
8.ภาษาต่างประเทศ
3.สมรรถนะ
2.ความสามารถในการคิด
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา
1.ความสามารถในการสื่อสาร
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2.กิจกรรมนักเรียน
3.กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
1.กิจกรรมแนะแนว
2.จุดหมาย
3.มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
4.มีความรักชาติ
2.มีความรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการสื่อสาร
5.มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย
1.มีคุณธรรม
พฤติกรรมการเรียนรู้
2.กลุ่มพฤติกรรมด้านเจตคติ (Attitude : A) เป็นพฤติกรรมทางจิตใจ ซึ่งตรงกับพฤติกรรมด้านจิตพิสัย
3.กลุ่มพฤติกรรมด้านกระบวนการเรียน (Process : P) เป็นพฤติกรรมในการใช้สติปัญญาในการคิดแก้ปัญหา แสวงหาความรู้ ซึ่งตรงกับพฤติกรรมด้านจิตพิสัย
1.กลุ่มพฤติกรรมด้านเจตคติ (Knowledge : K) เป็นพฤติกรรมของสมอง ซึ่งตรงกับพฤติกรรมด้านพุทธพิสัย
1.วิสัยทัศน์
ความสำคัญการกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้
เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน
เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพการศึกษา
การจำแนกพฤติกรรมทางการศึกษา
1.พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย
เกิดจากพลังความสามารถทางสมอง
1.3 การนำไปใช้ (Application) การนำไปใช้เป็นความสามารถในการประยุกต์หลักการ
1.4 การวิเคราะห์ (Analysis) ความสามารถในการแยกแยะรายละเอียดของเนื้อหา
1.2 ความเข้าใจ (Comprehension) เป็นสมรรถภาพทางสมองของบุคคล ในการจัดระเบียบความคิดแล้วแสดงออกมา
1.5 การสังเคราะห์ (Synthesis) ความสามารถในการผสมผสานส่วนย่อยเข้าเป็นเรื่องราวเดีียวกัน
1.1 ความรู้ (Knowledge) ความสามารถในการระลึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
1.6 การประเมินค่า (Evaluation) การตัดสินเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งหนึ่งสิ่งใด
2.พฤติกรรมด้านจิตพิสัย
กลุ่มจุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เกี่ยวกับความรู้สึก
ขั้นเห็นคุณค่า หรือ สร้างค่านิยม (Valuing) รู้สึกซาบซึ้้งยินดี และมีเจตคติที่ดีต่อสิ่งนั้น
ขั้นจัดระบบค่านิยม (Organization) เห็นความแตกต่างในคุณค่า แก้ไขความขัดแย้งสร้างปรัชญาหรือเป้าหมายให้กับตนเอง
ขั้นตอบสนอง (Responding) บุคคลจะมีพฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งเร้า
ขั้นสร้างลักษณะนิสัยจากค่านิยม (Characterrization) ทำให้เกิดเป็นคุณลักษณะหนึ่งของชีวิต
ขั้นรับรู้ (Receiving) เป็นขั้นแรกที่เริ่มจากการที่บุคคลรับรู้สิ่งเร้าที่กระทบประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น ตา หู จนเกิดความรู้สึกสนใจสิ่งนั้น
3.พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
เป็นความสามารถของบุคคลในการใช้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานอย่างประสานสัมพันธ์กัน
การปฏิบัติได้ด้วยตนเอง (Mechanism) การที่บุคคลสามารถปฏิบัติงานได้ด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง
การตอบสนองที่ซับซ้อน (Complex overt Response) กระทำหรือปฏิบัติงานที่ซับซ้อนได้อย่างชำนาญหรือทำได้โดยอัตโนมัติ
การตอบสนองตามแนวชี้แนะ (Guided Response) การเริ่มพัฒนาทักษะ เลียนแบบตามผู้แนะนำหรือครู ลองผิดลองถูก
การดัดแปลง (Adaptation) พัฒนาการเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การเตรียมความพร้อม (Set) การเตรียมตัวกระทำหรือการปรับตัวให้อยู่ในสภาพพร้อมที่กระทำ
การริเริ่ม (Origination) เป็นขั้นสูงสุดของการพัฒนาทักษะ สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ด้วยวิธีการใหม่ที่ตนคิดขึ้นมา
การรับรู้ (Perception) การรับ สัมผัสสิ่งเร้าผ่านทางประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น หู ตา จมูก ลิ้น ผิวกาย