Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปองค์ความรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่๑-๖ - Coggle Diagram
สรุปองค์ความรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่๑-๖
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ พฤติกรรมทางการศึกษา
พฤติกรรมทางการศึกษา เป็นคุณลักษณะของผู้เรียนที่เกิดจากการเรียนรู้ โดยผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
การจำแนกพฤติกรรมทางการศึกษา
บลูม และคณะ ร่วมกันศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ แล้วจัดพฤติกรรมได้ ๓ หมวดหมู่ เรียกว่าจุดมุ่งหมายทางการศึกษา
ด้านพฤติกรรมจิตพิสัย (Affective Domain)
ด้านพฤติกรรมทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)
ด้านพฤติกรรมพุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย
ความรู้
ความเข้าใจ
การนำไปใช้
การวิเคราะห์
การสังเคราะห์
การประเมินค่า
พฤติกรรมด้านจิตพิสัย
ขั้นเห็นคุณค่า
ขั้นจัดระบบค่านิยม
ขั้นตอบสนอง
ขั้นการสร้างลักษณะนิสัยจากค่านิยม
ขั้นรับรู้
พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
การปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง
การตอบสนองที่ซับซ้อน ปฏิบัติงานที่ซับซ้อนได้
การตอบสนองตามแนวชี้แนะ แสดงพฤติกรรมเลียนแบบตามครูแนะนำ
การดัดแปลง พัฒนาวิธีการเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดขั้นตอน ลดเวลา เพิ่มคุณภาพผลงาน
การเตรียมความพร้อม การปรับตัวให้อยู่ในสภาพที่พร้อมกระทำ
การริเริ่ม สร้างสรรค์ผลงานใหม่ ที่ตนคิดขึ้นมา ใช้สติร่วมกับประสบการณ์ด้านทักษะ
การรับรู้ ด้วยประสาทสัมผัส เช่น หู ตา จมูก ลิ้น ผิวกาย
คุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
วิสัยทัศน์ มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม
จุดหมาย
มีความรู้อันเป็นสากล มีความสามารถในการสื่อสาร
มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
มีคุณธรรม จริยธรรม
มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก
มีจิตสำนึกในการอนรักษณ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน มี ๕ ข้อ
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ
ใฝ่เรียนรู้
อยู่อย่างพอเพียง
มีวินัย
มุ่งมั่นในการทำงาน
ซื่อสัตย์สุจริต
รักความเป็นไทย
รักชาติ ศาสน์กษัตริย์
มีจิตสาธารณะ
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สุขศึกษาและพลศึกษา
วิทยาศาสตร์
ศิลปะ
คณิตศาสตร์
การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ภาษาต่างประเทศ
ภาษาไทย
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมนักเรียน
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
กิจกรรมแนะแนว
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ แนวคิด หลักการ และแนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
การวัดและประเมินผลในการเรียนการสอนว่านักเรียนมีความรู้ ทักษะ หรือคุณลักษณะเป็นไปตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้หรือไม่
ความหมายของการวัดผล การทดสอบ
และการประเมิน
การประเมินผล หมายถึง การตัดสินคุณค่าของสิ่งที่ได้ทำการวัดอย่างมีเหตุผลโดยเทียบกับเกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้
การวัดผล หมายถึง กระบวนการกำหนดตัวขหรือสัญลักษณ์ให้กับสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการวัดโดยใช้เครื่องมืออย่างใดอย่างหนึ่งมาวัด ซึ่งผลจากการวัดอาจเป็นตัวเลข หรือสัญลักษณ์
องค์ประกอบของการวัดและการประเมินผล
องค์ประกอบของการวัด ประกอบด้วย ๓ องค์ประกอบ
เครื่องมือหรือเทคนิค(เครื่องมือที่ใช้วัด)
ข้อมูลที่ได้จากการวัด
ปัญหา หรือสิ่งที่จะวัด
องค์ประกอบของการประเมิน
เกณฑ์
การตัดสินคุณค่าหรือการตัดสินใจ
ข้อมูล(ที่ได้จากการวัด)
ความสัมพันธ์ระหว่างการวัดและประเมินผลกับกระบวนการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน (Learning Experience)
การวัดและประเมินผล (Evaluation)
จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objectives)
จุดมุ่งหมายของการวัดผลทางการศึกษา
จุดมุ่งหมายของการวัดและประเมินผลทางการศึกษาไม่ได้มีเพื่อการตัดสินผู้เรียนว่าสอบได้หรือสอบตก
จัดอันดับ เพื่อจัดอันดับความสามารถของผู้เรียนในกลุ่มเดียวกัน
เปรียบเทียบทำให้ทราบพัฒนาการของผู้เรียน เพื่อให้ทราบความสามารถของตัวนักเรียนเอง (ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น)
วินิจฉัย หาจุดบกพร่องของนักเรียน เพื่อหาทางช่วยเหลือ
พยากรณ์ เพื่อนำผลไปคาดคะเนหรือทำนายอนคตของผู้เรียน
ค้นหาและพัฒนาสมรรถภาพของผู้เรียน
ประเมิน เพื่อตัดสินใจสรุปคุณภาพของการจัดการศึกษา ควรปรับปรุงหลักสูตรหรือไม่
ธรรมชาติของวัดผลการศึกษา
การวัดผลการศึกษาเป็นการวัดที่ไม่สมบูรณ์ การวัดไม่สามารถวัดได้ละเอียดครบถ้วนตามที่ต้องการ
การวัดผลการศึกษาเป็นการวัดทางอ้อม ไม่มีเครื่องมือใดที่จะสามารถวัดความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวบุคคลได้
การวัดผลการศึกษามีความคลาดเคลื่อน (Error) ความคลาดเคลื่อนอาจเกิดจากตัวผู้ถูกวัด
ลดความคลาดเคลื่อนได้โดย
วัดหลายครั้ง
ใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น การบ้าน ข้อสอบ รายงาน
การวัดผลการศึกษาเป็นการวัดในเชิงสัมพันธ์
การวัดผลการศึกษาเป็นการวัดที่ไม่มีศูนย์แท้หรือศูนย์สมบูรณ์ คะแนนเท่ากับ 0 ไม่ได้แปลว่าไม่มีความรู้
มาตราการวัด
มาตรานามบัญญัติ ใช้จำแนกความแตกต่าง (รู้ว่าต่างแต่ไม่รู้ว่าใครดีกว่าใคร)
มาตราเรียงอันดับ เป็นตัวเลขที่บอกความหมายในลักษณะ มาก-น้อย สูง-ต่ำ เก่ง-อ่อน กว่ากัน (รู้ว่าต่างแต่ไม่รู้ว่าต่างเท่าไหร่)
มาตราอันตรภาค บอกถึงปริมาณความแตกต่างได้ (รู้ว่าต่าง เรียงได้ บอกความต่างได้)
มาตราอัตราส่วน เป็นการวัดทางวิทยศาสตร์ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง
ขอบข่ายในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
หลักในการวัดผลทางการศึกษา
เลือกสิ่งที่จะวัดให้เหมาะสม
ใช้ผลจากการวัดให้คุ้มค่า
ใช้เครื่องมือการวัดที่หลากหลาย
มีความยุติธรรม
เลือกใช้วิธีการวัดที่เหมาะสม
ดำเนินการสอบที่มีคุณภาพ
กำหนดจุดประสงค์ของการวัดและประเมินให้ชัดเจน
กระบวนการวัดและประเมินผลทางการศึกษา
กำหนดจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
สร้างเครื่องมือวัดผลการเรียนรู้
กำหนดวัตถุประสงค์
ทดสอบและเก็บรวบรวมข้อมูล
จัดกระทำกับข้อมูล
ตัดสินผลการเรียน
การกำหนดวัตถุประสงค์ในการประเมิน
ประเภทของการประเมินผล
จำแนกตามระบบการวัดผล
การประเมินแบบอิงกลุ่ม
การประเมินแบบอิงเกณฑ์
จำแนกตามวัตถุประสงค์ของการประเมิน
การกำหนดสิ่งที่จะประเมิน เพื่อให้บรรลุความสำเร็จ ต้องมีการกำหนดเป้าหมายของการจัดการศึกษาที่ชัดเจน
ประโยชน์ของการประเมินผลการศึกษา
ครูได้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้เรียนเบื้องต้นก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ช่วยให้ครูกำหนดหรือปรับปรุงจุดมุ่งหมายการสอนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประเมินประสิทธิภาพการสอนของครูผู้สอน
ผู้เรียนทราบถึงระดับความสามรถของตนเอง
เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารสถานศึกษาในการบริหารจัดการโรงเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล
การจัดการเรียนการสอนแต่ละครั้ง/แต่ละแผนครูต้องการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมทางการศึกษาประเภทใด หรือต้องการให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการศึกษาประเภทใด
พฤติกรรมและลักษณะการแสดงออก
พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย
ความรู้ ความจำ
ความรู้ในวิธีดำเนินการ
ความรู้รวบยอดในเนื้อเรื่อง
พฤติกรรมด้านจิตพิสัย
ขั้นรับรู้ การทำความรู้จัก การเลือกรับสิ่งเร้าที่ต้องการ
ขั้นตอบสนอง การยินยอมและเต็มใจที่จะตอบสนอง
การเกิดค่านิยม การยอมรับในคุณค่า
เครื่องมือในการวัดพฤติกรรมทางการศึกษา
ตรวจสอบรายการ (Check List)วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย คำถามจะเป็นคำว่า ใช่/ไม่ใช่ มี/ไม่มี
กำหนดลักษณะของสิ่งที่ต้องการวัด
กำหนดพฤติกรรมที่จะวัด
เขียนข้อความเพื่อแสดงพฤติกรรม
ตรวจสอบข้อความว่าชัดเจนหรือไม่
นำไปทดลองใช้/ปรับปรุงแก้ไข
มาตราส่วนประมาณค่า
มาตราส่วนประมาณค่าแบบตัวเลข
มาตราส่วนประมาณค่าแบบใช้สัญลักษณ์หรือภาพประกอบ
มาตราส่วนประมาณค่าแบบบรรยาย
การจัดอันดับ
แบบวัดเชิงสถานการณ์ เป็นการจำลองหรือสร้างสถานการณ์เรื่องราว ให้บุคคลแสดงความรู้สึก หรือแสดงพฤกรรมด้านปัญญาที่ตนมี สนองต่อสถานการณ์
ตัวอย่าง
คำถาม ถ้ามีคนพิการมาขอทานจากท่าน ท่านพอมีเงินอยู่บ้างท่านจะทำอย่างไร
คำตอบ.....................................................................................
การสังเกต
การสังเกตโดยผู้สังเกตเข้าไปร่วมในเหตุการณ์หรือกิจกรรม
การสังเกตโดยผู้สังเกตไม่ได้เข้าไปร่วมในเหตุการณ์หรือกิจกรรม
การสัมภาษณ์ การสนทนาโต้ตอบกันอย่างมีจุดมุ่งหมาย
การสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง คือการสัมภาษณ์ที่ไม่ใช้แบบสัมภาษณ์
การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง คือการสัมภาษณ์ทที่ผู้สัมภาาณ์จะใช้แบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้นไว้แล้ว
แบบสอบถาม
เพื่อวัดสิ่งที่จะวัด
คำถามเป็นตัวกระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้ถูกวัดตอบคำถาม
การวัดภาคปฏิบัติ
วัดผลงานนักเรียนที่ได้ลงมือปฏิบัติ
วัดพฤติกรรมในสภาพจริงหรือจำลอง
ประเภทของการวัดผลงานภาคปฏิบัติ
แบ่งตามด้านที่ต้องการวัด
การวัดกระบวนการ
กาารวัดผลงาน
แบ่งตามลักษณะของสถานการณ์
ใช้สถานการณ์จริง
ใช้สถานการณ์จำลอง
แบ่งตามสิ่งเร้า
สิ่งเร้าตามธรรมชาติ
สิ่งเร้าที่จัดขึ้น
หน่วยการเรียนรู้ที ๓ การประเมินตามสภาพจริง
ผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากการฝึกทักษะกระบวนการคิดได้จากประสบการณ์จริง จากทุกสถานที่ ทุกเวลา และสามารถพัฒนาตนเองได้ตลอดชีวิตเต็มตามศักยภาพที่ตนเองมีอยู่ รวมถึงการใช้วิธีการและเณฑ์ที่หลากหลายในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
การจัดการเรียนการสอนแบบเดิม
มุ่งเน้นเนื้อหาวิชา
ใช้ข้อสอบ เป็นเครื่องมือหลักในการวัดผล
ยึดผู้สอนเป็นศูนย์กลาง
คะแนนเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จ
การจัดการเรียนการสอนแบบใหม่
ผู้เรียนได้ความรู้ใหม่ ภายใต้สถานการณ์
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ความเจริญทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
กิจกรรมการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนตามสภาพจริง เช่น เกมการศึกษา สถานการณ์จำลอง ศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ครบทั้ง ๓ ด้าน คือด้านพุทธิพิสัย ด้านจิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง เพื่อค้นหาและพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพที่มีด้วยการใช้กิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลาย
ประโยชน์ของการประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงจะทำให้ผู้เรียนได้ข้อมูลย้อนกลับที่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาตนเอง เกิดการบูรณาการการสอน และประเมินความสามารถในการลงมือปฏิบัตินำไปสู่การพัฒนาพลเมืองที่สร้างสรรค์
เครื่องมือในการประเมินตามสภาพจริง
การสังเกต
แบบสำรวจรายการ
แบบมาตราส่วนประเมินค่า
ระเบียนพฤติกรรม
การสัมภาษณ์
แบบบันทึกการสัมภาษณ์
แฟ้มสะสมผลงาน
การทดสอบ
แบบเขียนตอบ
แบบทดสอบปฏิบัติจริง
การสอบถาม
แบบสอบถาม
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลในศตวรรษที่ ๒๑
เป็นการประเมินผงเชิงคุณภาพ เน้นการปฏิบัติจริง บูรณาการวิธีการประเมินและใช้เครื่องมือวัดที่หลากหลาย สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมงานของผู้เรียน นำเทคโนโลยีมาใช้ในการวัดและประเมินผล และนำผลประโยชน์ของผลสะท้อนจากการปฏิบัติของผู้เรียนมาปรับปรุงแก้ไขงาน
แนวคิดและหลักการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เป็นการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ ในการจัดการเรียนรู้
สร้างรูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพ
เน้นที่องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียน
กรอบแนวคิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
ทักษะการเรียนรู้และนวัตรกรรม
ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
สาระวิชาหลัก
ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ
3R x 7C
3R อ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น
7C
ทักษะความเข้าใจต่างวัฒนธรรม
ทักษะด้านความร่วมมือ
ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ รู้เท่าทันสื่อ
ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตรกรรม
ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
ทักษะการอาชีพและทักษะการเรียนรู้
ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
หลักสูตรและการสอน
มาตรฐานและการประเมิน
การพัฒนาทางวิชาชีพ
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้
แนวทางการวัดและประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
การวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้รู้จุดเด่น จุดด้อย จุดที่ต้องปรับปรุงในการพัฒนา เพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับ
ประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย
ประเมินความก้าวหน้าของพัฒนาการ เกิดสมดุลเชิงคุณภาพที่สอดคล้องและพัฒนาดีขึ้น
จุดเน้นของการวัดและประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
เน้นการนำประโยชน์ของผลสะท้อนจากการปฏิบัติของผู้เรียนมาปรับปรุงแกก้ไขงาน
ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทดสอบและประเมินผล
สร้างความสมดุลในการประเมินผลเชิงคุณภาพ
สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมงาน
วิธีการวัดและประเมินทักษะในศตวรรษที่ ๒๑
การประเมินจากการปฏิบัติ ภาระงานที่ให้ผู้เรียนปฏิบติ เกณฑ์การให้คะแนน
ใช้ข้อมูลหลายอย่างในการประเมิน
เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างเรียน
ไม่เน้นผลการประเมินเฉพาะทักษะพื้นฐาน แต่ให้นักเรียนผลิตงาน
ข้อมูลประเมินสะท้อนให้เห็นกระบวนการเรียนการสอน
กำหนดปัญหาหรืองานแบบปลายเปิด
ประเมินด้านต่าง ๆ ด้วยวิธีการที่หลากหลายในสถาณการณ์ต่าง ๆ
ประเมินจากสภาพจริง
การประเมินตามสภาพจริง
การประเมินด้วยการสื่อสารส่วนบุคคล การถามตอบ การพบปะการสนทนา ตรวจแบบฝึกหัด
การประเมินด้วยแฟ้มสะสมผลงาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ แนวทางการวัดและประเมินสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทางการศึกษา
การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการศึกษา เพราะทุกคนย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกันในโอกาสทางการศึกษา เท่าเทียมในการอยู่ร่วมกันในสังคม และเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตามศักยภาพ การกำหนดแนวทางในการวัดและประเมินผล เพื่อให้เหมาะสมกับความบกพร่องของ "ผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทางการศึกษา"
เด็กที่มีความต้องการพิเศษ คือเด็กที่มีปัญหาและความต้องการพิเศษ มากกว่าเด็กปกติทั่วไป แบ่งได้ ๓ กลุ่ม
กลุ่มเด็กที่มีความสามารถพิเศษ (เด็กปัญญาเลิศ-เด็กอัจฉริยะ)
กลุ่มเด็กด้อยโอกาส
กลุ่มเด็กที่มีความบกพร่องทางการศึกษาทั้ง ๙ ประเภท
ความสำคัญของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการทุกคนต้องงได้รับโอกาสการศึกษาเท่าเทียมกัน
ได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐาน
ได้รับการศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๒ ปีอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยรัฐไม่เก็บค่าใช้จ่าย
การประกันคุณภาพหลักสูตรเหมาะสม สอดคล้องตามความต้องการ
แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program:IEP)
เพื่อทราบจุดเด่น ความสามารถและศักยภาพในปัจจุบัน
ทราบจุดด้อย คือสิ่งที่นักเรียนไม่สามารถทำได้ในสาระการเรียนรู้
ครูประเมินความรู้พื้นฐานจากสภาพจริงก่อนทำแผนจัดการศึกษา
นำข้อมูลมาวิเคราะห์
จัดทำแผนตามความความต้องการจำเป็นพิเศษของแต่ละบุคคล
การประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
การประเมินพัฒนาการและผลการเรียนรู้ของนักเรียน
การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียน
จุดมุ่งหมายของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
เพื่อประเมินพัฒนาการของผู้เรียน
เพื่อตัดสินผลการเรียน
เพื่อประเมินความรู้พื้นฐาน
หลักการวัดและประเมินผลการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม
เพื่อประเมินความสามารถ ความต้องการ ปรับปรุงพัฒนานักเรียน
สอดคล้องและตอบสนองกับความต้องการจำเป็นพิเศษ
ดำเนินการด้วยวิธีที่หลากหลาย เหมาะกับสภาพปัญหา
พิจารณาจากพัฒนาการของนักเรียน
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนตรวจสอบผลการเรียนรู้
ให้มีการเทียบโอนผลการเรียน
สถานศึกษาจัดทำเอกสาร เป็นหลักฐานการประเมิน
แนวทางการวัดและประเมิน
ประเมินการอ่าน วิเคราะห์ เขียน
ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
วัดและประเมินตามกลุ่มสาระ
เกณฑ์การวัดและประเมิน
การตัดสินผลการเรียน เวลลาเรียน คุณภาพนักเรียน มิติการประเมิน
การให้ระดับผลการเรียน ระดับประถมศึกษาให้ระบบร้อยละ ระดับมัธยมศึกษาให้เป็นตัวเลขแสดงผลการเรียน
การเลื่อนชั้น
การสอนซ่อมเสริม
การซ้ำชั้น
เกณฑ์การจบการศึกษา
การรายงานผลการเรียน
แนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผล
ปรับปรุงแผน (IEP)
จัดทำแผน (IEP)
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
กำหนดเกณฑ์และแนวทาง (IEP)
จัดการเรียนการสอน ประเมินผล
ประเมิน ปรับปรุงแผน (IEP)
ประเมินระดับความรู้พื้นฐาน ความต้องการจำเป็นพิเศษ
รายงานผลการจัดการศึกษาตามแผน(IEP)