Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 1 แนวคิดหลักการและแนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้…
หน่วยที่ 1 แนวคิดหลักการและแนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
ความหมายของการวัดผล การทดสอบและการประเมินผล
การวัดผลทางการศึกษา หมายถึง กระบวนการในการหาปริมาณความสามารถเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนโดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสม
การทดสอบ (Test) หมายถึงเป็นเทคนิคที่ใช้การวัดผลทางการศึกษาประเภทหนึ่งโดยเครื่องมือในการวัดผลคือ“ แบบทดสอบ”
การประเมินผล หมายถึง การตัดสินคุณค่าของสิ่งที่ได้ทำการวัดอย่างมีเหตุผลโดยเทียบกับเกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้
องค์ประกอบของการวัดและการประเมินผล
2.1 องค์ประกอบของการวัด กล่าวว่า องค์ประกอบของการวัดประกอบด้วย 3 องค์ประกอบคือปัญหาหรือสิ่งที่จะวัดเครื่องมือวัดหรือเทคนิคที่จะใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเครื่องมือที่ใช้วัด) และข้อมูลที่ได้จากการวัด
2.2 องค์ประกอบของการประเมิน กล่าวว่า องค์ประกอบของการประเมินประกอบด้วย 3 องค์ประกอบคือข้อมูลที่ได้จากการวัดเกณฑ์และการตัดสินคุณค่าหรือการตัดสินใจข้อสังเกตในข้อมูลที่ได้จากการวัดเดียวกัน แต่หากใช้เกณฑ์ที่แตกต่างกันอาจจะทำให้ตัดสินใจได้แตกต่างกันได้เรื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างการวัดและประเมินผลกับกระบวนการเรียนการสอน
คือให้ผู้เรียนบรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดเอาไว้ครูมีหน้าที่ในการให้ความรู้แก่ผู้เรียนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ดังนั้นในการจัดการกิจกรรมการเรียนการสอนใด ๆ จะมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objectives) กิจกรรมการเรียนการสอน (Learning Experience) การวัดและประเมินผล (Evaluation)
สรุป ได้ว่าการประเมินแบบ Assessment หมายถึงกระบวนการในการรวบรวมข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับผู้เรียนอย่างเป็นระบบเพื่อสะท้อนให้เห็นความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียนทั้งจุดเด่นควรส่งเสริมและจุดด้อยที่ต้องปรับปรุงแก้ไขการประเมิน
4.จุดมุ่งหมายของการวัดผลการศึกษา
4.1 ค้นหาและพัฒนาสมรรถภาพของผู้เรียนเป็นการวัดและประเมินผลการศึกษาเพื่อพิจารณาว่านักเรียนไม่เข้าใจเรื่องใดนักเรียนมีความรู้มากน้อยแค่ไหนแล้วพยายามอบรมสั่งสอนนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้และมีความเจริญงอกงามตามศักยภาพของนักเรียน
4.2 วินิจฉัย (Diagnosis) เป็นการวัดและประเมินผลการศึกษาเพื่อค้นหาจุดบกพร่องของนักเรียนที่มีปัญหาว่ายังไม่เกิดการเรียนรู้ในจุดใดเพื่อหาทางช่วยเหลือนักเรียนและสอนซ่อมเสริมนักเรียนได้
4.3 จัดอันดับหรือตำแหน่ง (Placement) การวัดและประเมินผลการศึกษาเพื่อจัดอันดับความสามารถของผู้เรียนในกลุ่มเดียวกันว่าใครเก่งใครอ่อนผ่าน-ไม่ผ่านเป็นต้น
4.4 เปรียบเทียบหรือทำให้ทราบพัฒนาการของผู้เรียน (Assessment) เป็นการวัดและประเมินผลการศึกษาเพื่อการเปรียบเทียบเพื่อให้ทราบความสามารถของตัวนักเรียนเอง (ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่นว่ามีความเจริญงอกงามขึ้นเพียงใดเช่นการทดสอบก่อนเรียนทดสอบหลังเรียนเป็นต้น
4.5 พยากรณ์ (Prediction) เป็นการวัดและประเมินผลการศึกษาเพื่อนำผลไปคาดคะเนหรือทำนายอนาคตของผู้เรียนเช่นแบบทดสอบความถนัดแบบทดสอบวัดเชาว์ปัญญา
4.6 ประเมิน (Evaluation) เป็นการวัดและประเมินผลการศึกษาเพื่อตัดสินใจสรุปคุณภาพของการจัดการจัดการศึกษาควรปรับปรุงหลักสูตรหรือไม่ ฯลฯ
ธรรมชาติของวัดผลการศึกษา
5.1 การวัดผลการศึกษาเป็นการวัดที่ไม่สมบูรณ์ (Incomplete) กล่าวคือการวัดผลการศึกษาไม่สามารถวัดได้ละเอียดครบถ้วนตามที่ต้องการเพราะเป็นการวัดในสิ่งที่เป็นนามธรรมไม่สามารถทราบปริมาณหรือขอบเขตที่แน่นอนได้
5.2 การวัดผลการศึกษาเป็นการวัดทางอ้อม (Indirect) การวัดผลการศึกษาไม่สามารถวัดได้โดยตรงเนื่องจากข้อ จำกัด ในด้านของเครื่องมือที่ใช้ในการวัด
5.3 การวัดผลการศึกษามีความคลาดเคลื่อน (Error) สืบเนื่องจากข้อ 5.2 เมื่อการวัดผลการศึกษาไม่สามารถวัดได้โดยตรงดังนั้นโอกาสที่จะเกิดความคลาดเคลื่อนในการวัดจึงมีเพราะพฤติกรรมของมนุษย์มีความซับซ้อนไม่สามารถจับต้องได้ซึ่งความคลาดเคลื่อนนั้นอาจจะเกิดจากตัวผู้ถูกวัดเอง
6.มาตราการวัด
6.1 มาตรานามบัญญัติ (Nominal scale) เป็นระดับการวัดที่ต่ำที่สุดเป็นระดับที่ใช้จำแนกความแตกต่างของสิ่งที่ต้องการวัดออกเป็นกลุ่มๆโดยใช้ตัวเลขเช่นเพศสถานภาพเป็นต้น
6.2 มาตราเรียงอันดับ (Ordinal Scale) เป็นระดับที่สูงกว่านามบัญญัติเป็นการกำหนดตัวเลขเพื่อชี้ถึงลำดับตัวเลขในมาตราการวัดระดับนี้เป็นตัวเลขที่บอกความหมายในลักษณะมาก-น้อยสูง-ต่ำเก่ง-อ่อนกว่ากัน
6.3 มาตราอันตรภาค (Interval Scale) เป็นระดับที่สูงกว่าสองมาตราที่กล่าวมามีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นอีก 2 ประการคือมีศูนย์สมมติ (ศูนย์มีความหมายไม่แท้) และมีหน่วยของการวัดที่เท่ากันกล่าวคือสามารถบ่งบอกถึงปริมาณความแตกต่างได้เช่นอุณหภูมิ 0 องศากับ 10 องศามีความหนาวแตกต่างกันอยู่ 10 ช่วงเท่า ๆ กัน
6.4 มาตราอัตราส่วน (Ratio Scale) เป็นระดับที่สูงที่สุดมีความสมบูรณ์มากกว่าอัตราภาคเนื่องจากมีศูนย์แท้การวัดในระดับนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการวัดทางวิทยาศาสตร์เช่นน้ำหนักส่วนสูงจำนวนเชื้อแบททีเรียจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นต้นการวัดทางการศึกษาไม่อยู่ในระดับนี้
ขอบข่ายในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
7.1 หลักการในการวัดผลการศึกษาประกอบด้วย
(1) กำหนดจุดประสงค์ของการวัดและประเมินผลให้ชัดเจนว่าต้องการวัดอะไร
2) เลือกใช้วิธีการวัดให้เหมาะสม / เครื่องมือที่มีคุณภาพ
(3) เลือกใช้วิธีการวัด / เครื่องมือที่หลากหลาย
(4) เลือกตัวแทนของสิ่งที่จะวัดให้เหมาะสม
(5) ใช้ผลจากการวัดให้คุ้มค่าการวัดผลไม่ได้มุ่งให้ครูตัดสินใจว่านักเรียนเก่ง-อ่อนใครผ่าน-ตกจุดประสงค์สำคัญคือ“ ค้นหาและพัฒนาผู้เรียน”
(6) มีความยุติธรรม
7) ดำเนินการสอบที่มีคุณภาพ
8.การกำหนดวัตถุประสงค์ในการประเมินและสิ่งที่จะเมิน
8.1 ประเภทของการประเมินผล
(2) จำแนกตามระบบการวัดผล
(2.1) การประเมินแบบอิงกลุ่ม (norm-referenced evaluation) เป็นการตัดสินคุณลักษณะหรือพฤติกรรมโดยเปรียบเทียบกับผู้เรียนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันที่สอบในข้อสอบแบบเดียวกันมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำแนกหรือจัดลำดับบุคคลในกลุ่มนั้น ๆ
(2.2) การประเมินแบบอิงเกณฑ์ (criterion-referenced evaluation) เป็นการตัดสินคุณลักษณะหรือพฤติกรรมโดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้โดยอาจเป็นเกณฑ์มาตรฐานหรือเป็นเกณฑ์ที่ผู้ประเมินกำหนดขึ้น
(1) จำแนกตามวัตถุประสงค์ของการประเมิน
(1.1) การประเมินผลก่อนเรียน (Pre-evaluation) เป็นการประเมินเพื่อตรวจสอบความรู้พื้นฐานและทักษะของผู้เรียนว่ามีความรู้เพียงพอที่จะเรียนต่อในรายวิชาใหม่หรือเนื้อหาใหม่ได้หรือไม่
(1.2) การประเมินผลระหว่างเรียนหรือการประเมินความก้าวหน้า (Formative evaluation) เป็นการประเมินเพื่อตรวจสอบว่าผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการเรียนที่กำหนดไว้หรือไม่
1.3) การประเมินสรุป (Summative evaluation) เป็นการประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนรู้และเพื่อตรวจสอบว่าผู้เรียนมีความรู้ทั้งสิ้นเท่าไร
8.2 การกำหนดสิ่งที่จะประเมิน
ปัจจัยที่จะต้องพิจารณาต่อมาคือการกำหนดสิ่งที่จะต้องประเมินหรือพฤติกรรมที่ต้องการจะประเมินในการจัดการศึกษาเพื่อให้บรรลุความสำเร็จนั้นจำเป็นจะต้องมีการกำหนดเป้าหมายของการจัดการศึกษาที่ชัดเจน
การประโยชน์ของการประเมินผลการศึกษา
ครูได้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้เรียนเบื้องต้นก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทำให้ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามความสามารถของแต่ละบุคคล
ช่วยให้ครูกำหนดหรือปรับปรุงจุดมุ่งหมายของการสอนให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจุดมุ่งหมายบางข้ออาจยากเกินไปผู้เรียนไม่สามารถบรรลุได้ครูก็อาจจะปรับให้ง่ายขึ้น
ประเมินประสิทธิภาพการสอนของครูผู้สอนเอง
ผู้เรียนทราบถึงระดับความสามารถของตนเองมีแรงจูงใจในการเรียนมากขึ้น
เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารสถานศึกษาในการบริหารจัดการโรงเรียน