Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
ระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกัน
ร่างกายมีกลไกในการต่อต้านและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
แต่ถ้าสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคสามารถเข้าสู่ภายในร่างกายได้
ก็จะเกิดการเจ็บป่วยขึ้น
แต่การที่บางคนยังมีสุขภาพแข็งแรงหรือคนที่มีอาการป่วยแต่สามารถหายป่วยได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากร่างกายของคนนั้นมีภูมิคุ้มกัน
โครงสร้างและระบบภูมิคุ้มกัน
สร้างและพัฒนาเซลล์กลุ่มลิมโฟไซต์
ได้แก่ ไขกระดูก และไทมัส
ดักจับสิ่งแปลกปลอม
ได้แก่ ม้าม ต่อมน้ำเหลือง
ทำลายสิ่งแปลกปลอม
ได้แก่ ทอนซิล และเนื้อเยื่อน้ำเหลือง
การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
ภูมิคุ้มกันรับมา (Passive immunzation)
เซรุ่มหรือซีรีม สกัดได้จากเนื้อสัตว์ เช่น ม้า
ร่างกายได้รับแอนติบอดีที่จำเพาะต่อแอนติเจนโดนตรง
แอนติบอดีสามารถเข้ากับแอนติเจนที่จำเพาะได้ทันที
แอนติบอดีสามารถอยู่ได้เป็นสัปดาห์หรือเดือน
โดยทั่วไปลูกจะได้รับแอนติบดีตั้งแต่ในครรภ์ของแม่ผ่านทางรก
ภูมิคุ้มกันก่อเอง (Active immunzation)
ส่วนประกอบของเชื้อโรค
เชื้อโรคที่ตายแล้ว
เชื้อโรคที่อ่อนกำลังลง
สารพิษของเชื้อโรคที่ทำให้หมดสภาพความเป็นพิษ
นำมาใช้ในการผลิตวัคซีน
ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถเกิดความผิดปกติได้
อาจเกิดจากการได้รับเชื้อไวรัสบางอย่างที่มีผลต่อการทำงาน
การที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคอย่างรุนแรง
ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่อของร่างกายตนเอง
เช่น โรคภูมิแพ้ โรคลูปัสหรือโรคเอสแอลอี
การต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอม
1.กลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะ
ต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่บริเวณต่างๆของร่างกาย
ต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในเนื้อเยื่อของร่ายกายแล้ว
กลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมในเนื้อเยื่อ
2) การอักเสบ ( inflammation)
หลอดเลือดฝอยขยายตัว
ฟาโกไซต์แทรกตัวออกจากหลอดเลือด
มีการซึมผ่านของน้ำเหลือง
เกิดการบวมแดง และอุณหภูมิสูงขึ้น
เกิดการอักเสบขึ้น
3)ฟาโกโทซิส
ฟาโกไซต์เข้ากินเชื้อโรคและเนื้อเยื่อที่เสียหาย
เกิดฟาโกโทซิส (phagocytosis)
เชื้อโรคถูกทำลาย + ฟาโกไซต์ที่ตาย = หนอง
มีการแบ่งเซลล์บริเวณนั้นเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
1)เชื้อโรค หลอดเลือดฝอย ฟาโกไซต์
เมื่อเกิดบาดแผล จะเกิดสัญญาณเคมี
จากเนื้อเยื่อที่เสียหายและเชื้อโรค
ดึงดูดฟาโกไซต์จากหลอดเลือดฝอยมารวมตัวกันมากขึ้น
2.กลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบจำเพาะ
ต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกายแล้ว
เกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวกลุ่มลิมโฟไซต์
1.เซลล์บี (B-cell)
คือเซลล์เม็ดเลือดขาวกลุ่มลิมโฟไซต์ สร้างและพัฒนาที่ไขกระดูก จะถูกปล่อยเข้าสู่เลือดและท่อน้ำเหลือง
ทำหน้าที่ แบ่งเซลล์พลาสมา ซึ้งจะสร้างแอนติบอดีเพื่อทำลายเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมอย่างจำเพาะ และยังพัฒนาเซลล์ที่หน้าที่จดจำ (Memory cell)
2.เซลล์ที (T-cell)
คือเซลล์เม็ดเลือดขาวกลุ่มลิมโฟไซต์สร้างขึ้นที่ไขกระดูก แต่ไปพัฒนาสมบูรณ์ท่ีไทมัส
เซลล์ที่ทำลายทำลายเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส
เซลล์ทีผู้ช่วย
การทำงานของเซลล์บีและเซลล์ทีเกี่ยวข้องกับ
แอนติเจน (Antigen)
หมายถึง โมเลกุลของสารหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
ทำให้ร่างกายต้องสร้าง
แอนติบอดี (Antibody)
เป็นกลุ่มสารของโปรตีนที่สร้างจากเซลล์พลาสมา สามารถจับกับโมเลกุลต่างๆที่เป็นสิ่งแปลกปลอมต่อร่างกายและแอนติเจนได้อย่างจำเพาะ