Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรรีวิทยาระบบเลือด Hemato Phisiology - Coggle Diagram
พยาธิสรรีวิทยาระบบเลือด Hemato Phisiology
หน้าที่ของระบบเลือด
การป้องกัน (Protection)
การป้องกันสิ่งแปลกปลอม (Protection of foreign body)เลือดป้องกันสิ่ง แปลกปลอม เชน่ เชื้อ โรคตลอดจนสารพิษทีเข้าสู่ร่างกายโดยอาศัยกลไกการทํางานของเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และแอนติบอดี
(antibodies) ที่ไหลเวยีนในกระแสเลือดลักษณะทางกายภาพของเลือด
(Physical characleristics of blood)
การป้องกันการสูญเสียเลือด (Protection of blood loss) เมื่อเกิดบาดแผลขึ้นกับร่างกายไม่ว่าจะเป็นที่ผิวหนังหรอือวัยวะภายในของร่างกายเลือดจะมีกลไกการห้ามเลือดโดยอาศัยปัจจัยในการแข็งตัวของเลือดรวมถึงเกล็ดเลือดช่วยให้เกิดการอุดปดบาดแผล
การควบคุม (Regulation)
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย (Regulation of body temperature)อุณหภูมิหรือความร้อนภายในร่างกายโดยการกระจายความร้อนและการขับเหงื่อ
การควบคุมน้ำในร่างกายย (Regulation of water balance)เลือดทําหน้าที่รักษาสมดุลของของเหลวในกระแสเลือดกับของเหลวในเนื้อเยื่อ โดยการแลกเปลี่ยนของน้ำ
ควบคุมความเป็นกรด-เบสของร่างกาย (Regulation of body pH)ขบวนการ เมแทบอลิซึมและปฏิกิรยิาทางชวีเคมีต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกาย รวมทัง& การเผาผลาญอาหารหรือผลจากการได้รับยาหรือสารเคมีต่างๆ เข้าไป จะมีผลทําให้ความเป็นกรดเบส ของร่างกายเปลี่ยนแปลงควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย (Regulation of body temperature)
องค์ประกอบของเลือด
พลาสมา (Plasma)
ส่วนทีเปนนาเลือดเปนของเหลวทีเป็นตัวกลางใหเ้ม็ดเลือดแขวนตัวลอยอยู่คิดเป็นสัดส่วน ประมาณ 55 เปอรเ์ซ็นต์ของเลือดมีลักษณะเป็นของเหลวสีเหลืองใส ซึ่งมีสารต่างๆ ละลายอยูไ่ด้แก่โปรตีนชนิดต่างๆ รวมถึงปัจจัยในการแข็งตัวของเลือดคารโบไฮเดรตไขมัน วิตามิน เกลือแรต่างๆ (อเิล็กโทรไลต์) ฮอรโ์มนและสาร อื่น ๆ
โปรตีนในพลาสมามีคุณสมบัติทางกายภาพที่สําคัญทางสรรีวิทยา
โกลบูลินซึ่งมีอยู่ในรูปของ แอลฟา (α) บีตา (β) และแกมมา (γ)
เกียวข้องกับการสร้าง แอนติบอดีฮอรโ์มน และเอน็ ไซม์ชนิดต่างๆ
อลั บูมิน และโกลบูลิน เป็นตัวสําคัญที่เกี่ยวข้องกับความดันออสโมติก(colloid osmotic pressure) ในการรกัษาสมดุลของนาในรา่ งกาย
ชนิดและปริมาณโปรตีนในพลาสมา
โกลบูลิน (α1, α2, β1, β2และ γ) 80,000-200,000 1.5
ไฟบรโินเจน 350,000-400,000 0.2-0.4
อลั บูมิน 69,000 4-6
เม็ดเลือด (Corpuscles หรือ formed elements)
• เม็ดเลือดแดง (Erythrocyte , red blood cell)
การสร้าง erythropoietin และการสร้างเม็ดเลือดแดง
ฮโีมโกลบิน (Hemoglobin,Hb)คือโปรตีนในเม็ดเลือดแดงทําหน้าทีรบัส่งแก๊ส ออกซิเจนและเปนบัฟเฟอรที่ปรบัความสมดุลของกรดและเบสแต่ละโมเลกุลของฮโีมโกลบินหน่วยยอ่ ยประกอบด้วย 1 ฮมี (heme)จับกับเปปไทด์สายยาว (polypeptide) 1 สาย ภายในมีธาตุเหล็ก (Fe) 1อะตอม ฮโีมโกลบินเมอจับกัน ออกซิเจน จะ เรียกว่า ออกซิฮโีมโกลบิน
ในเม็ดเลือดห่อหุ้มสารละลายต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ คือ ฮีโมโกลบิน
(hemoglobin) เอ็นไซม์(enzyme) อิออน (ion)
การสร้างเลือด (Hemopoiesis)
การสร้างเลือดในระยะหลังคลอด (Post-natal hemopoiesis)เปนการสรา้งเลือดหลังจากทีทารกคลอดมาแล้วยกเวน้ พวกลิมโฟไซต์ที่มีการสร้างจากอวัยวะนาเหลืองd - basebuffer) ของเลือด
1.การสรา้งเลือดของทารกในครรภ์(Embryonic or Pre-natal
hemopoiesis)
เพื่อทําหน้าทีขนถ่ายออกซิเจน และคารบ์อนไดออกไซด์ระหวา่ งปอดและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทั่ว ร่างกาย และทําหน้าทีเปนบัฟเฟอร ปรับความสมดุลของกรดและเบส (acid - base buffer) ของเลือด
ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง
Anemiaเป็นสภาวะที่เลือดมีปริมาณฮีโมโกลบินหรอืมีค่าปริมาณเม็ดเลือดแดงอัดแน่นตากว่าปกติ
จึงมักใช้ค่าทังสองนี่เป็นดัชนีจําแนกชนิดของ anemia ชนิดของ anemiaแบ่งได้หลายชนิดตามขนาดและปรมิ าณฮโีมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง
เม็ดเลือดแดงถูกสรา้งในไขกระดูก
ไขกระดูกเป็นปัจจัยสําคัญเกี่ยวข้องกับการสรา้งเลือดมีฮอรโ์มน(Erythro
poietin) ในเลือดเป็นตัวควบคุมการสรา้ง
เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 120 วัน
ถูกท าลายในม้าม ตับ และไขกระดูก
ปรมิ าณเม็ดเลือดแดงในเลือด
เม็ดเลือดขาว (Leucocyte , white blood cell)
แบ่งเม็ดเลือดขาวออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ
2.1 ชนิดมีแกรนลู หรอืมีนิวเคลียสหลายแบบ (Granulocytic or
polymorpho nuclear cell)
2.2 ชนิดไม่มีแกรนลู หรอื มีนิวเคลียสเดียว (Agranulocytic or
mononuclear cell)
คุณสมบัติ3 ประการ
1เม็ดเลือดขาวสามารถเคลื่อนทีผ่านผนังหลอดเลือดฝอยสู่เนื้อเยื่อไปยังบริเวณทีมีเชื้อโรค (Diapedesis)
3) เม็ดเลือดขาวสามารถจับกินสิ่งแปลกปลอมโดยวิธีคล้ายอะมีบา
เข้าโอบล้อมและย่อยเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมนั้น (Phagocytosis)
2) เม็ดเลือดขาวสามารถเคลื่อนเข้าไปหาเชื้อโรค
โดยการดึงดูดของสารเคมีทีถูกปล่อยจากเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย