Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง (AcquiredHeart Disease) : โรคหัวใจรูมาติก…
โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง (AcquiredHeart Disease) : โรคหัวใจรูมาติก (Rheumatic Heart Disease)
การพยาบาล
ดูแลให้ได้รับยา Penicilin v. และสังเกตผลข้างเคียงของยา
วัด v/s ทุก 4 ชั่วโมง
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาการอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เช่น ไข่เค็ม ปลาเค็ม เกลือ
ทำ tepid sponge เมื่อผู้ป่วยมีไข้สูง > 38.5 องศาเซลเซียส
ดุแลจัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนกระตุ้นเด็ก เพื่อให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ เช่น การเบ่งถ่ายอุจจาระ การเล่นกีฬาแข่งขัน หรือทำให้ตื่นเต้นเร้าใจ
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ผลการตรวจเชื้อเพาะจากคอ ติดตามWbC, ASO titer
สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะติดเชื้อ เช่น มีไข้ ถ่ายเหลว อาเจียน ไอ เจ็บหน้าอก น้ำมูกไหล
ติดตามฟังเสียง murmur
ดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดของปากและฟันสม่ำเสมอ
ระมัดระวังไม่ให้ผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติม ถ้ามีอาการเจ็บคอ หวัด ไอ ควรปิดปากเวลาไอจาม
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษากรณีมี carditis และหัวใจโตมาก ไม่มี heart failure ให้ Aspirin 75-120 mg/kg/day และ Prednisolone 2 mg/kg/day สังเกตผลข้างเคียงและติดตามอาการหลังให้ยา
สาเหตุ
เป็นกลุ่มอาการของการอักเสบที่เกิดขึ้นตามหลังจากการติดเชื้อที่คอ หรือต่อมทอนซิลจากเชื้อโรค
Beta hemolytic streptococcus group A ซึ่งเข้าทางปากและลำคอเด็กลักษณะพิเศษของโรคนี้คือเมื่อเคยเป็น
แล้วมักจะเป็นซ้ำอีกแม้ว่าเชื้อโรคนี้จะมีผลต่อส่วนของข้อแต่อวัยวะที่สำคัญที่สุดในโรคนี้คือ หัวใจ ซึ่งจะ
มีความพิการอย่างถาวรและเป็นต้นเหตุให้เสียชีวิตได้
การรักษา
ให้ยาสำหรับลดการอักเสบ ได้แก่Salicylate และ Steroid ให้กรณีมี Carditis และหัวใจโตมาก
ไม่มี heart failure คือ ให้ Aspirin 75-120 มก./กก./วัน และ Prednisolone 2 มก./กก./วัน
-กรณีมี Carditis โดยที่หัวใจไม่โต ให้ Aspirin ขนาดเดิม นาน 4-6 สัปดาห์
-ข้ออักเสบอย่างเดียวให้ Aspirin นาน 1-3 สัปดาห์
ให้นอนพัก 2-6 สัปดาห์/เคลื่อนไหวไปมาในห้อง เดินบริเวณใกล้ ช่วยเหลือในการทำกิจกรรมทุกอยา่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย
ใหยากำจัดเชื้อโรค Betahemolytic streptococcus
ถ้ามี Chorea ให้ Phenobarbital, Diazepam
-ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวาย ให้ digitalis ร่วมกับยาขับปัสสาวะเพื่อช่วยในการขยายหลอดเลือด
อาการ
ลักษณะสำคัญของผู้ป่วยมักจะมาดว้ยอาการปวดข้อ หรือข้ออักเสบบางรายอาจมีอาการเหนื่อยง่าย
และหัวใจเต้นเร็ว ส่วนใหญ่เคยเป็นไข้หรือเจ็บคอที่ไม่ได้รับการรักษา หรือซื้อยามากินเอง
อาการแสดงทางผิวหนัง มี 2ลักษณะ
Erythema marginatum : เป็นผื่นแดงไม่คันขอบผื่นจะหยักและสีแดงชัดเจนมักพบ
บริเวณแขน ขา ลำตัว เป็นๆ หายๆ (อาการเกิดชั่วคราวคล้ายลมพิษ)
2 Subcutaneous nodule : เป็นก้อนรีๆ ใต้ผิวหนังจับให้เคลื่อนไหวได้มักจะเป็นใกล้ๆข้อ เป็นปุ่มๆ ติดกับเอ็นและกระดูก
Polyarthritis
การอักเสบของข้อ โดยมักจะมีอาการมากกว่า 1ข้อ มักเป็นข้อใหญ่ๆ
เช่น เข่าศอก ข้อเท้า อาจเป็นทีละข้อแล้วเปลี่ยนไปข้ออื่น (migration)หรือเป็นพร้อมกันหลายข้อตรวจพบลักษณะการอักเสบ คือ ปวด บวม แดง ร้อน ส่วนใหญ่มักเป็นกับข้อใหญ่ๆ
ของแขนและขา(เดินไม่สะดวก ปวด ข้อบวม) เมื่อถ่ายx-ray จะเห็นการบวมของ soft tissuesถา้ไม่ได้รับการรักษา อาการที่ข้อจะเป็นอยู่ข้อละ1 –5 วัน แล้วค่อยๆ ดีขึ้นเองโดยไม่มีความผิดปกติหลงเหลืออยู่
Chorea
เป็นความผิดปกติในการเคลื่อนไหวร่วมกับมีอารมณ์แปรปรวน มีการเคลื่อนไหว
ของกล้ามเนื้อโดยเจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจร่วมกับมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้พูดไม่ชัด เขียนหนงัสือไม่ค่อยเป็นตัว มีความแปรปรวนทางอารมณ์ติดกระดุมเสื้อไม่ได้ถ้าผู้ป่วยมี Choreaเป็นข้อบ่งชี้ว่าจะเกิดโรคหัวใจรูมาติคตามมา
อาการทางmajor criteria ได้แก่
หัวใจโต
หัวใจวายเช่น ไอ เจ็บ หน้าอก หอบเหนื่อย ตับโต บวม
พบเสียง murmur ที่ apex จากภาวะ mitral valve ตีบหรือรั่ว
อาการทาง minor criteria ไดแ้ก่
Previous Rheumatic fever or RHD (Rheumatic heart disease)
increase ESR, C-Reactive protein และ leukocytosis
Arthalgia : มีการปวดตามข้อโดยตรวจไม่พบอาการอักเสบ คือ ปวด บวม แดงและร้อนมักจะเป็นตามข้อใหญ่ๆ และปวดมากกวา่ 2ข้อขึ้นไป
Prolonged P-R interval
Fever (ไข้) : มักจะเป็นแบบไข้ต่ำ
*การวินิจฉยัว่า เป็นไข้รูมาติค ต้องพบว่า มี2 major criteria ขึ้นไปหรือพบ 1 major ร่วมกับ 2 minor criteria
ความหมาย
เป็นความผิดปกติของลิ้นหัวใจซึ่งเกิดจากกระบวนการอักเสบของ กล้ามเนื้อ เยื่อหุ้มและหัวใจจากเป็นไข้รูมาติค (Rheumatic fever)นำมาก่อนภาวะการอักเสบนี้จะส่งผลให้เกิดการเสียหน้าที่ของลิ้นหัวใจไปในระยะหลัง คือโรคลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว(regurgitation) ตีบ (stenosis) หรือ Aortic regurgitation
ซึ่งต่อมาอาจทำให้เกิดหัวใจวายและลิ้นหัวใจผิดปกติอย่างถาวร
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกาย : พบอาการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพาะเชื้อจากคอ ตรวจหา Beta hemolytic streptococcus group A
Antistreptolysin O (ASO) ในเลือดมากกว่า 320 Todd unit
ESR (Erythrocyte Sedimentation rate) เพิ่มขึ้น
C-reactive protein ให้ผลบวก
ภาพรังสีทรวงอก (chest x-ray) : พบเงาหัวใจโตกว่าปกติปอดบวมน้ำ มีน้ำ ในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ เยื่อหุ้มปอด
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) : P-R interval ยาวกว่า ปกติT-wave ผิดปกติ
การซักประวัติ
คลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (echocardiogram) : ช่วยวินิจฉัยการมีน้ำในเยื่อหุ้มหัวใจการรั่ว/ตีบของลิ้นหัวใจ
พยาธิสถาพ
กลไกของการเกิดโรคเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน (Immunopathology)
ทำให้มีการทำลายของกล้ามเนื้อหัวใจโดยเฉพาะที่ผนังของ left ventricle, mitral valve, aortic valve และเยื่อหุ้มหัวใจ การอักเสบจะเป็นแบบ exudative inflammation เกิด granulomatus tissue และ fibrosis การอักเสบซ้ำๆ จะทำให้ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่วได้
นางสาวเมธาพร ขวัญทอง 621001070