Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคข้อเข่าเสื่อม, ไขข้อสงสัย-คลายกังวล-โรคข้อเข่าเสื่อม-9601, Screenshot…
โรคข้อเข่าเสื่อม
-
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ใช้ยาโดยลดการกดที่ข้อเข่า การใช้ประคบร้อน ในขณะเดียวกันผู้มีอาการเจ็บเข่า ปวดเข่าจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่ง ยืน เดิน ควรลดน้ำหนักตัว ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หรืออาจจะใช้ไม้เท้าช่วยเดินเพื่อลดแรงกดในช่วงที่พยายามลดอาการเจ็บเข่า ปวดเข่า
-
-
ยาทาเฉพาะที่ประเภทยาแก้ปวดและต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ใช้ทานวดซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความร้อนเฉพาะที่
ยาต้านการอักเสบแบบไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDs)ในรูปของยากินและยาฉีดจะช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ดีควรใช้ยาอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ได้รับยาสเตียรอยด์ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดหรือผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือมีปัญหาหอบหืดตับไตหัวใจและสังเกตผลข้างเคียงของยาที่พบได้เช่นไม่สบายท้องท้องอืดปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนถ่ายอุจจาระสีดำผื่นคันพิษต่อตับไตยากลุ่มนี้อาจทำให้บวมและความดันโลหิตสูงขึ้นไม่ควรใช้ยาติดต่อเป็นเวลานาน
ยาคลายกล้ามเนื้อการอักเสบทำให้กล้ามเนื้อโดยรอบเกร็งตึงได้การใช้ยาคลายกล้ามเนื้อจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
-
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการผ่าตัดข้อเข่า เปลี่ยนข้อเข่า ข้อเข่าเทียมปัจจุบันการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการผ่าตัดเป็นที่นิยมมาก เพราะเห็นผลการรักษาไว และทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติโดยไม่เจ็บเข่าทรมานอีก ซึ่งหลังจากผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมแล้ว ผู้ป่วยจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่างเพื่อให้ข้อเข่าเทียมใช้งานได้ดีและมีอายุการใช้งานนานมากขึ้น เช่น เลี่ยงท่านั่ง เดินที่ใช้ข้อเข่านานๆ ลดน้ำหนักตัว เลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกดทับหรือการกระโดดแรงๆ ฯลฯ
-
กลไกการเกิดข้อเข่าเสื่อม
ข่าของคนเราเป็นข้อที่ใหญ่และต้องทำงานมากทำให้เกิดโรคที่เข่าได้ง่ายโรคข้อเข่าเสื่อมหมายถึง การที่กระดูกอ่อนของข้อมีการเสื่อมสภาพทำให้กระดูกอ่อนไม่สามารถเป็นเบาะรองรับน้ำหนัก และมีการสูญเสียคุณสมบัติของ น้ำ หล่อเลี้ยงเข่า เมื่อมีการเคลื่อนไหวของเข่าก็จะเกิดการเสียดสีและเกิดการสึกหรอของกระดูก อ่อน ผิวของกระดูกอ่อนจะแข็งผิวไม่เรียบ เมื่อเคลื่อนไหวข้อเข่าก็จะเกิดเสียงดังในข้อเกิดอาการเจ็บปวด หาก ข้อเข่าที่เสื่อมมีการอักเสบก็จะมีการสร้างน้ำข้อเข่าเพิ่มทำให้เกิดอาการ บวม ตึงและปวดของข้อเข่า เมื่อมีการเสื่อมของข้อเข่ามากขึ้นข้อเข่าก็จะมีอาการโก่งงอทำให้เกิดอาการ ปวดเข่าทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว และขนาดของข้อเข่าก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ในที่สุดผู้ป่วยต้องใช้เท่าช่วยเดินหรือบางคนจะเดินน้อยลงทำให้กล้ามเนื้อ ต้นขาลีบลงข้อจะติดเหมือนมีสนิมเกาะเหยียดขาได้ไม่สุด
อาการที่สำคัญ
อาการปวดเข่า เป็นอาการที่สำคัญเริ่มแรกจะปวดเมื่อยตึงทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเข่า หรือบริเวณน่อง เมื่อเป็นมากขึ้นจะปวดบริเวณเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหว ลุกนั่งหรือเดินขึ้นบันไดไม่คล่องเหมือนเดิม
-
-
-
-
-
-
-
-
ต้นเหตุ “เข่าเสื่อม”
ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวข้อตามกาลเวลา เกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายจากการเปลี่ยนแปลงภายในข้อ และร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมกระดูกอ่อนผิวข้อได้ทันกับการที่ถูกทำลายไป เมื่อกระดูกอ่อนผิวข้อมีเลือดมาเลี้ยงน้อย ส่งผลให้เซลล์กระดูกอ่อนได้รับสารอาหาร และออกซิเจนไม่เพียงพอ ไม่สามารถสังเคราะห์สารต่างๆที่จำเป็นไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ ส่งผลให้ข้อที่เสื่อมไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ทำให้มีอาการเจ็บปวดในการใช้ชีวิตประจำวัด โดยไม่ได้เป็นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะสาเหตุของการเสื่อมของข้อเข่ามีหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้
-
3.น้ำหนัก น้ำหนักตัวที่มากเกินไป น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มแรงกระทำกับข้อเข่ามากขึ้นด้วย รวมทั้งเซลล์ไขมันที่มีมากเกินไปจะส่งผลทำให้เซลล์กระดูกอ่อน และเซลล์กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น
4.การใช้งานเข่า การทำกิจกรรม หรือกิจวัตรประจำวันที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามากยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เช่น การวิ่งมาราธอน การเดินขึ้น-ลงบันได
-
- อุบัติเหตุ การได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ บริเวณข้อ หรือเส้นเอ็น หรือการบาดเจ็บเรื้อรังจากการออกกำลังกาย
-
-
-
-
-
-
วิธีป้องกันและการปฏิบัติ
-
-
ลดการใช้งานข้อนั้นในท่าที่ผิดจากธรรมชาติ เช่น การนั่งยองๆ การนั่งพับเพียบ คุกเข่าและการนั่งขัดสมาธินานเกินไป เป็นต้น
ขณะที่มีอาการปวด ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อให้การรักษาภาวะอักเสบของข้อ แล้วเริ่มทำกายภาพบำบัดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
อาการปวดเริ่มแรกสามารถบรรเทาด้วยยาแก้ปวดพาราเซตามอล, การใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบจะช่วยลดการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ ขณะที่มีอาการปวดอยู่ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันได หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินมาก ถ้าเดินควรใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัวเวลาเดินและใส่สนับเข่าเพื่อช่วยให้ข้อเข่ากระชับ
ควรหลีกเลี่ยงการนั่งกับพื้น เช่น การนั่งพับเพียบ คุกเข่า ขัดสมาธิและนั่งยองๆ ควรนั่งเก้าอี้ห้อยขา หรือนั่งเหยียดขาตรง อย่านั่งนานๆ ควรเปลี่ยนอริยาบถบ่อยๆ และควรใช้โถส้วมแบบนั่งแทนแบบนั่งยองๆ
-
-
-
-
-
วิธีการรักษาด้วยตนเอง
ปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงต่อการเกิดข้อเข่าเสื่อมเช่น การยกของหนัก การนั่งพับเพียบ นั่งยองๆ การนั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ การ ใช ้ ส้วมชนิดนั่งยองๆ การนอนกับพื้นเป็นประจำเพราะขณะลุกขึ้นหรือลงนอนจะเกิดอันตรายกับเข่า หลีกเลี่ยง การขึ้นบันได บ่อยๆ ควรจะนั่งบนเก้าอี้ไม่ควรนั่งบนพื้น
-
การออกกำลังกายและการบริหารกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะการบริหารกล้ามเนื้อต้นขาจะทำให ้กล้ามเนื้อแข็งแรง จะช่วยลดแรง ที่ กระทำต่อเข่า วิธีการบริหารสามารถทำได้โดย นั่งบนเก้าอี้เหยียดขาเกร็งไว้ 10 วินาที่แล้วจึงงอเข่า ทำซ้ำหลายครั้ง นอกจากนั้นการเดินเร็ว หรือการว่ายน้ำ จะช่วยกระตุ้นให้กระดูกแข็งแรง
-
-
-
การทำกายภาพบำบัด แพทย์จะแนะนำวิธีการบริหารกล้ามเนื้อและข้อเข่าเพื่อลดอาการปวด ป้องกันข้อติด ป้องกันข้อผิด รูปรวม ทั้งทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง ที่สำคัญต้องปฏิบัติเป็นประจำจึงจะได้ผลดี
-
-
โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากการที่กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่ปกป้องและดูดซับแรงกระแทกภายในข้อเข่ามีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง หากกระดูกอ่อนนี้เสียหายเป็นพื้นที่กว้าง กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด
-
-
-
-
-
-
-