Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรีรภาพของภาวะผิดปกติระบบหัวใจและหลอดเลือด, นางสาวศศิวิมล จอมทิพย์ …
สรีรภาพของภาวะผิดปกติระบบหัวใจและหลอดเลือด
ความสําคัญของระบบไหลเวียน
ระบบไหลเวียนระบบไหลเวียนจะทำหน้าที่รับออกซิเจนและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตไปเลี้ยงเซลล์ ที่เป็นส่วนประกอบต่างๆของร่างกายและนำของเสียกลับออกมาเพื่อขับออก
ถ้าเรามีเหตุทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจหยุดเต้นปริมาณเลือดลดลงเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะได้ ย่อมทำให้ อวัยวะส่วนน้ันเกิดอันตรายและถ้าไม่แก้ไขก็อาจเจ็บป่วยถึงชีวิตได้
คำศัพท์ที่ควรทราบ
Afterload = แรงต้านการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย
Aneurysm = การป่งพองของผนังหลอดเลือด
Atherosclerosis = การแข็งตัวของหลอดเลือดแดง
Congestion = การคั่งของน้าหรือเลือดในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
Embolus = ลิ่มเลือด ฟองอากาศ ไขมัน ที่ลอยอยู่ในหลอดเลือด
Infarction = การตายของเนื้อเยื่อ จากการขาดออกซิเจน
Ischemia = การได้รับเลือดไป เลี้ยงไม่เพียงพอ
Orthopnea = เหนื่อยนอนราบไม่ได้
Paroxysmal nocturnal dyspnea = หายใจ
ลำบากขณะนอนหลับเมื่อนอนราบปกติ
Plaque = แผ่นนูนที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของ อวัยวะต่างๆ
Preload = แรงดันในหัวใจห้องล่างซ้าย เมื่อหัวใจ คลายตัวเต็มที่
Septum = ผนังกั้น
Stenosis= การตีบแคบของส่วนท่ีเป็นท่อหรือรู
Varicose=การพองตวัและคดงอ
ส่วนประกอบของหัวใจ
การทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต
ระบบไหลเวียนโลหิตประกอบด้วย
หัวใจ (heart)
หลอดเลือดแดง (artery)
หลอดเลือดดำ (vein)
หลอดเลือดฝอย (blood capillary)
วิธีการประเมินการทางานของหัวใจท่ีควรทราบ
การฟังเสียงหัวใจ
การจับชีพจร
การวัดความดันโลหิต
การจับชีพจร
common carotid
brachial
radial
feMoral
popliteal
dorsalis pedis
ความผิดปกติของหลอดเลือด
การหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดง (Artherosclerosis)
ผนังหลอดเลือดมีความหนาและแข็งมากขึ้น รูหลอดเลือดแคบและตีบซึ่งขัดขวางการไหลของเลือด ทําให้ไม่มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ Artherosclerosis จึงเป็นสาเหตุของการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และอัมพาต
พยาธิสรีรภาพ
รูหลอดเลือดแคบมากขึ้น ทําให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวก เกิดภาวะ Ischemic คือ เลือดไปเลี้ยงตามอวัยวะนั้น ๆ น้อยลง
รูหลอดเลือดอุดตัน ทําให้เกิดภาวะ Infarction ของอวัยวะนั้น
มี Embolism จากการแตกของ plague เข้าไปในกระแสเลือด
ผนังของหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นน้อยลง เกิดการโป่งพองของหลอดเลือด (Aneurysm)
หลักการรักษาพยาบาล
คือการทําให้ผนังหลอดเลือดบางลง เพื่อเพิ่มช่องว่างของหลอดเลือด โดยการทําผ่าตัดเพื่อดูดเอา plaque ออก (endarterectomy) หรือ ทําการตัดต่อเส้นเลือด (Surgical bypass) การทํา Balloon angioplasty และ การทํา endovascular stent ออกกําลังกาย การลดปัจจัยเสี่ยง ต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
ภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension)
Primary hypertension หรือ Essential hypertension เป็นความความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ
อายุที่เพิ่มขึ้น ความดันโลหิตจะสูงขึ้น
ความดันโลหิตสูงมักมีประวัติว่ามีคนในครอบครัวเป็น
เชื้อชาติ คนแอฟริกัน-อเมริกัน มีอุบัติการณ์เกิดความดันโลหิตสูงมากกว่า
ความอ้วน
การใช้ยาคุมกําเนิด
การรับประทานโซเดียมมาก
ความเครียด (Stress)
การดื่มสุรามาก
2.Secondary hypertension เป็นความดันโลหิตสูงชนิดที่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีสาเหตุจากโรคไต เช่น โรคหลอดเลือดแดงของไตตีบ (renal artery stenosis) สาเหตุจากโรคของระบบต่อมไร้ท่อ
หลักการรักษาภาวะความดันโลหิตสูง
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดําเนินชีวิตประจําวัน (life-style modification) โดย การลดน้ําหนัก ลดการดื่มสุรา ออกกําลังกายสม่ำเสมอ
การใช้ยา
ภาวะความดันโลหิตต่ำจากการเปลี่ยนท่า
(Orthostatic hypotension / Postural hypotension)
สาเหตุ
ขาด fluid volume ทําให้ไม่สามารถปรับตัวได้ ทําให้ความดันโลหิต systolic ต่ำลง 20 มม.ปรอท หรือต่ำลงจากปกติเกิน 20 มม.ปรอท สาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาด fluid volume ได้แก่ การได้รับยาขับปัสสาวะมาก การเสียเหงื่อมาก
ผลข้างเคียงของยา ได้แก่ ยาลดความดันโลหิตสูง เช่น Methyldopa, Guanethidine, Prazosin , Nifedip และยารักษาผู้ป่วยจิตเวช
ผู้สูงอายุ ประมาณว่าผู้ที่อายเกิน 65 ปี ร้อยละ 20 จะมีอาการ postural hypotension
Venous thrombosis (VT)
VT เป็นโรคของหลอดเลือดดํา พบบ่อยที่ขา ระบบไหลเวียนของหลอดเลือดดํา แบ่งเป็น Superficial และ deep System
superficial vein อาการจะไม่รุนแรง เรียกว่า varicose veins ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเมื่อยขา นอนพักจะดีขึ้น การรักษาให้รักษาแบบประคับประคอง ถ้าเป็น Deep vein thrombosis (DVT.) จะปวด และเสี่ยงต่อการเกิด emboli โดยเฉพาะถ้าเกิด pulmonary embolism จะมีอันตรายสูง DVT พบได้ในผู้ป่วยที่นอนท่าเดียวนาน ๆ
Thromboangitis Obliterans (TAO)
เป็นการอักเสบของหลอดเลือดดำ หรือแดง ตามด้วยการตีบแคบ เกิดกับหลอดเลือดขนาดกลาง บริเวณแขนและขา การอักเสบนี้จะลุกลามถึงเส้นประสาทข้างเคียงได้ สาเหตุของโรคยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่
การรักษาให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่ ลดการปวดโดยใช้ยาละลายลิ่มเลือด การฉีด prostaglandin E เข้าหลอดเลือดแดงเพื่อให้หลอดเลือดขยาย
ความผิดปกติของหลอดเลือด
Aortic aneurysms
การโป่งพองขยายขนาดของหลอดเลือดแดง aorta โดย มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพิ่มขึ้นจากเดิม 50 % ส่วนใหญ่จะเป็น abdominal aorta เพศชาย เป็นมากกว่าเพศหญิงประมาณ 2 เท่า
การโป่งพองของ aorta เป็นได้ 3 แบบ คือ
Fusiform aneurysm การโป่งพองจะออกเท่ากันทุกด้าน
Saccular aneurysm โป่งออกข้างเดียวคล้ายเป็นถุง
Dissecting aneurysm โป่งออกตามรอยฉีกขาดของผนังหลอดเลือดชั้น intima
Kawasaki's disease
เป็นโรคที่มีการอักเสบของหลอดเลือด (Vasculitis) โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน โรคนี้เกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เพศชายเป็นมากกว่าเพศหญิงอาการสําคัญคือ มีไข้สูง มือและเท้าบวมและเจ็บ ผิวหนังเป็นผื่นคล้ายลมพิษ ตาแดงริมฝีปากแตกแดง ลิ้นแดงเป็นตุ่ม เรียก strawbery tongue ต่อมน้ําเหลืองที่คอโต ภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจเป็นสาเหตุสําคัญ ที่ทําให้เด็กเสียชีวิต
Raynaud's syndrome
เป็นอาการที่เกิดจากการ ขาดเลือดเฉียบพลันบริเวณปลายนิ้ว เกิดเมื่อสัมผัสกับความเย็น ตื่นเต้นตกใจ มีความเครียด หรือมีโรคประจําตัวอื่นที่ทําให้หลอดเลือดมีพยาธิสภาพอยู่แล้วได้แก่ โรคของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันธ์ (conective tissue disease) โรคที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือมีการหดรัดตัวของเส้นประสาทที่มือ
Takayasu's disease
เป็นการอักเสบเรื้อรังของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ไม่ทราบสาเหตุ ทําให้มีการตีบแคบของหลอดเลือด พบบ่อยในเพศหญิงอายุต่ำกว่า 35 ปี พบในเอเชียมากกว่าทวีปอื่น หลอดเลือดแดงที่พบว่ามีพยาธิสภาพ ได้แก่ aortic arch และแขนงที่แยกออกไป ผู้ป่วยจะมีอาการ ไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
ความผิดปกติของหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหัวใจที่เกิดจากมีการอุดกั้นการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดแดงโคโรนารี (Coronary arteries) ทําให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับเลือดที่มีออกซิเจนไปเลี้ยงลดลง จึงเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
มีการสะสมของไขมัน intracellular และ extracellular
มีการงอกขยายตัว (proliferation) ของเซลล์กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด
มีการสร้างเนื้อเยื่อที่เป็นแผลเป็น และโปรตีนของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (conective tissue protein)
ปัจจัยเสี่ยง
อายุ และเพศ พบได้น้อยในคนที่อายุ 20-30 ปี
เชื้อชาติ พบได้ในทุกเชื้อชาติ
พันธุกรรมและประวัติครอบครัวคนที่มีพ่อแม่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
เบาหวาน (Diabetes)
การสูบบุหรี่ (Tobacco)
ขาดการออกกําลังกาย (Sedentary lifestyle)
ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart failure)
ภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกายได้เท่ากับความต้องการของร่างกายหรือ หมายถึง การที่หัวใจไม่สามารถเพิ่ม cardiac output ได้
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac arrhythmias)
ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ (Valvular heart disease)
โรคหัวใจที่เป็นโดยกําเนิด (Congenital heart disease)
นางสาวศศิวิมล จอมทิพย์
UDA6380058