Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทบาทพยาบาลในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช -…
บทบาทพยาบาลในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช
การบําบัดรักษาทางจิต (Psychotherapy)
รายบุคคล
จิตบําบัดแบบหยั่งเห็น
(Insight Psychotherapy)
มุ่งบําบัดอาการของผู้ป่วยให้เกิดการรู้แจ้งเห็นจริงต่อความขัดแย้งของจิตใจ ในระดับจิตไร้สํานึก
จิตบําบัดแบบประคับประคอง
(Supportive Psychotherapy)
Reassurance ; การให้คำชม
Environmental manipulation ; การเปลี่ยนแปลงที่อยู่
Externalization of internet ; การหันเหความสนใจไปสู่ภายนอก
Guidance; การแนะแนวทางที่เหมาะสม
Suggestion ; การจูงใจให้ผู้ป่วยเชื่อว่าการเจ็บป่วยนั้นรักษาให้หายได้
Encouragement ;การสนับสนุน
Persuasion ;โน้มน้าวให้หัดพิจารณาการกระทํา
Ventilation or Catharsis คือ การระบายอารมณ์
Desensitization คือ การลดความอ่อนไหว
จิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis)
เน้นบทบาทของแรงในจิตไร้สํานึกในโรคประสาท ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากการสะกดจิต ปรากฏการณ์บางอย่าง เช่น การฝัน และการพลั้งปาก จากผลของประสบการณ์ในวัยเด็ก
การสะกดจิต (Hypnosis)
ความผิดปกติในการรู้สึกตัว คล้ายการนอนหลับ ผู้ป่วยจะมีสมาธิสูง และเชื่อฟังคําแนะนําหรือคําสั่งได้ดีแต่ความรู้สึกในส่วนปลาย (Peripheral) และการเคลื่อนไหวจะลดลง
รายกลุ่ม
เน้นสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ช่วยให้เเก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง
นิเวชบําบัดหรือสิ่งแวดล้อมบําบัด (Milieu therapy)
บทบาทพยาบาล
เป็นตัวแทนของบุคคลในสังคมปกติ
เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านพฤติกรรมทางสังคม
เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการตอบสนองทางอารมณ์
องค์ประกอบ
สิ่งแวดล้อมที่เป็นวัตถุ
สภาพของโรงพยาบาลและหอผู้ป่วย
ผู้ป่วยมีอิสระในการที่จะไปไหน ถ้าไม่อยู่ในสภาพที่อันตราย
บรรยากาศในหอผู้ป่วย
สิ่งแวดล้อมด้านบุคคล
ผู้ป่วย
ผู้ให้การรักษา
สัมพันธภาพระหว่างบุคคลในหน่วยรักษา
สัมพันธภาพระหว่างผูเป่วยและผู้ป่วย
สัมพันธภาพระหว่างทีมผู้รักษาและผู้ป่วย
สัมพันธภาพระหว่างทีมผู้รักษา
จะต้องมีความเป็นมิตรมีความสามัคคีเเละปรองดองกัน
วัตถุประสงค์
เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของจิตใจ
เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพสังคมที่เป็นจริง
เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย
เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างคุณค่าในตัวเอง
ช่วยให้ผู้ป่วยเกิดทัศนคติที่ดีต่อทีมสุขภาพจิต
หลักการ
การแต่งกายของพยาบาลไม่ยึดหลักการแสดงสัญลักษณ์ของความเจ็บป่วย
โปรแกรมนิเวศบําบัด ต้องวางแผนอย่างดี
สมาชิกทุกคนในทีมผู้บําบัดต้องแสดงตนเป็นแบบอย่าง
กลุ่มบําบัดแต่ละชนิดควรมีจํานวนที่เหมาะสม
ยึดหลักการอํานวยความสะดวกสบายตามสภาพของสถานที่
การตัดสินใจทุกอย่างของผู้ป่วยและผู้บําบัดจะต้องเห็นชอบด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
การชี้ปัญหาหรือขเอบกพร่องของสมาชิกในกลุ่ม ควรกระทํากันต่อหน้าผู้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกคน
ในการทํางานหากมีสิ่งบกพร่องเกิดขึ้น ผู้บําบัดจะปักความรับผิดชอบ หรือยกเลิกกิจกรรมนั้น ๆ เลยไม่ได้
ต้องการกระตุ้นให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกอยากแสดงออก
ต้องคํานึงถึงความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน
พฤติกรรมบําบัด
เทคนิค
การเรียนรู้จากตัวแบบ (Social Modeling Technique)
การใช้ตัวกระตุ้นที่ไม่พึงพอใจ (Aversive Therapy)
การขจัดความรู้สึกอย่างเป็นระบบ (SystemicDesensitization)
การสร้างพฤติกรรมใหม่ (Behavior rehearsal)
การฝึกการแสดงออกที่เหมาะสม (Assertive Training)
การขจัดพฤติกรรม (Extinction)
การใช้แรงเสริมพฤติกรรม (Reinforcement)
บทบาทพยาบาล
ร่วมกับแพทย์และผู้ป่วยเลือกวิธีการรักษา
ให้กําลังใจผู้ป่วยตั้งแต่เริ่มต้นการรักษาจนกระทั่งสิ้นสุดการรักษา
ช่วยสถานที่และจัดสภาพการณ์ที่เหมาะสมกับวิธีการรักษาแต่ละวิธี
ร่วมกับผู้ป่วยประเมินผลการรักษา
เป็นผู้บําบัดหรือผู้ช่วยเหลือผู้บําบัด
กิจกรรมบําบัด
(Activity Therapy)
หลักในการเลือกผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรม
ผู้ป่วยวิตกกังวล (Anxiety)กลุ่มกิจกรรมที่ให้พลังงาน กลุ่มกีฬา กลุ่มอ่านหนังสือและวิจารณ์ข่าว
ผู้ป่วยซึมเศร้า (Depression) เริ่มจากกลุ่มเล็กไปกลุ่มใหญ่ เช่นกลุ่มเสริม เเรงจูงใจ
ผู้ป่วยก้าวร้าว (Aggressive) ควรจัดกิจกรรมที่ได้ออกแรง เช่น กีฬา
ชนิด
กลุ่มอาชีวบำบัด
ส่งเสริมคุณค่าของตนเองและสอนทักษะใหม่ๆในด้านอาชีวะให้กับผู้ป่วย
นันทนาการบำบัด
เพื่อการรื่นเริงบรรเทิงใจ และให้ทุกคนในกลุ่มได้สนุกสนาน เช่น การเล่นเกมส์ เต้นรำ
การศึกษาบำบัด
กลุ่มวรรณกรรมบำบัด : ใช้โคลง กลอนเป็นสื่อในการระบายความรู้สึกของผู้ป่วย
กลุ่มบรรณานุกรมบำบัด:ใช้วรรณคดีเป็นสื่อ
กลุ่มกระตุ้นผู้ฟัง : กระตุ้นผู้ป่วยได้คิดและวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
กลุ่มสอนหนังสือ:เสริมความรู้ให้เเนวคิดใหม่ๆ
กลุ่มสอนสุขศึกษา : การปฏิบัติตัวให้ถูกหลักอนามัย
กลุ่มฝึกหัดการเข้าสังคม
กลุ่มประชุมกลุ่มบุคลากร
กลุ่มพบปะสังสรรค์
กลุ่มเตรียมตัวก่อนกลับบ้าน
การบำบัดด้วยความคิดและพฤติกรรม(CBT)
เเนวคิด
ใช้การผสมผสานระหว่างเทคนิคการปรับความคิดและการปรับ พฤติกรรม
ให้ผู้ป่วยฝึกทํากิจกรรมต่าง ๆ เป็นการบ้าน เพื่อช่วยให้เขาประเมิน ปรับเปลี่ยนความคิดที่เบี่ยงเบนและพฤติกรรมที่ผิดปกติด้วยตนเอง
ผู้รักษาทําหน้าที่ชี้แนะให้ผู้ป่วยได้เข้าใจรูปแบบต่างๆของความคิดที่เบี่ยงเบนและพฤ ติกรรมที่ผิดปกติ โดยการอภิปรายโต้แย้งความคิดที่ผิดปกติอย่างเป็นระบบ
เป้าหมาย
เพื่อค้นพบที่มาของปัญหาทางอารมณ์ เพื่อที่จะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาได้ปรับเปลี่ยนความคิดอัตโนมัติดังกล่าว
ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 การค้นหาความคิด อัตโนมัติทางลบ หรือความคิดที่ทําให้เกิดทุกข์ซึ่งมีผลต่อ อารมณ์พฤติกรรม และสรีระ ที่รบกวนศักยภาพในชีวิต ประจําวัน หรือการชีวิตการทํางาน
ขั้นที่่ 2 การปประเมินเเละการตรวจสอบความคิดดังกล่าวว่าเป้นความจริงหรือไม่มากน้อยเพียงใด (Validity) มีประโยชน์ใดที่จะคิดเเบบนี้ (Utility) เเละสามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่
ขั้นที่ 3 การตอบสนองต่อความคิดอัตโนมัติ