Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เคสกรณีศึกษา ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 79 ปี Diagnosis Hypoglycemia - Coggle…
เคสกรณีศึกษา
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 79 ปี
Diagnosis Hypoglycemia
Hypoglycemia
ความหมาย
ภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดต่ากว่าปกติ โดยระดับกลูโคสในเลือด ≤70 มก./ดล.
อาการและอาการแสดง
ทฤษฏี
Autonomic symptoms ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก มือส่ัน ความดันสูง กระสับกระส่าย คลื่นไส้
Neuroglycopenis symptoms อ่อนเพลีย ผิวหนังเย็นชื้น มึนงง ปวดศีรษะ สับสน ตาพร่ามัว ง่วงซึม หมด สติ ชัก
มีอาการขาดน้ำอย่างมาก ความดันโลหิตต่ำ การโป่งพองของหลอดเลือดดำที่ คอลดลง หายใจตื้น ไม่มีอาการหอบ หายใจไม่มีกลิ่นอะซีโตน
กรณีศึกษา
ผู้ป่วย : มีอาการกินได้น้อย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หมดสติ เป็นอาการทาง Neuroglycopenis symptoms
พยาธิสภาพ
เมื่อเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จะเกิดผลกระทบต่อสมองเป็นอันดับแรก ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำตาลทั้งนี้เพราะสมองไม่มีแหล่งเก็บสะสมอาหารเพื่อใช้พลังงาน ต้องอาศัยน้ำตาลจากกระแสเลือดเท่านั้นโดยน้ำตาลสามารถผ่านเข้าสมองได้โดยไม่ต้องอาศัย Insulin เซลล์สมองไวต่อการขาดน้ำเมื่อสมองขาดน้ำตาลจะเกิดการกระตุ้นระบบประสาทAutonomic Nervous System และระบบส่วนกลาง ระบบประสาทAutonomic Nervous System มีการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติค มากขึ้น ทำให้การหลั่งฮอร์โมน catecholamine และ glucogen มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนcortisol และ growth hormone เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดโดยสลายกัยไกลโคเจนทำให้มีน้ำตาลมากขึ้น สมองได้รับน้ำตาลเพียงพอ
สาเหตุ
ทฤษฏี
ส่วนใหญ่เกิดจากการยารักษาเบาหวาน โดยมีปัจจัยส่งเสริม คือ
ภาวะได้รับอาหารน้อยไป ออกกำลังกายมากเกินไป มีโรคตับร่วม
ด้วยทำให้ขนาดของยาในร่างกายสูงขึ้น
กรณีศึกษา
ผู้ป่วย : ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อยลง แต่กินยาขนาดและปริมาณเท่าเดิม
การรักษา
ทฤษฏี
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่าในระดับไม่รุนแรง-ปานกลาง
1.รับประทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม ได้แก่ ลูกอม 3 เม็ด น้าส้มคั้นหรือน้ำอัดลม 180 มล.
2.ติดตามระดับกลูโคสในเลือดนาทีที่ 15
3.รับประทานคาร์โบไฮเดรตซ้า 15 กรัม หากระดับน้าตาล < 70 มก./ดล.
4.ถ้าอาการดีขึ้น ตรวจวัดระดับกลูโคสในเลือดซ้า > 80 มก./ดล. ให้รับประทานอาหารต่อเนื่องทันทีเมื่อถึง เวลาอาหาร
ภาวะระดับน้าตาลในเลือดต่าระดับรุนแรง
1.ให้กลูคากอน 1มก.ฉีดเข้ากล้ามเน้ือหรือใต้ผิวหนัง
2.ให้สารละลายกลูโคส 50% 10-20 มล.อย่างเร็ว ต่อด้วย 30-40 มล.ที่เหลือ ให้สารละลายเด็กซโตรส 5-10% หยดต่อเนื่อง
3.ติดตามระดัยกลูโคสในเลือดที่ 15 นาที
4.รักษาระดับกลูโคสในเลือดที่ > 80 มก./ดล. โดยปรับอัตราหยดสารละลายเด็กซโตรส
กรณีศึกษา
50% glucose Then 10% DN/2 ทุก 30 นาที
ดูแลให้สารน้ำตามแผนการรักษา
Keep 70-200 mg%
if < 80ให้ 50% glucose 50 ml IV push
if < 200 ลด IV rate ลง 10 ml/hr
if > 250 ลด IV rate ลง 20 cc/hr
ข้อวินิจฉัย
ข้อที่ 2 การปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องเนื่องจากขาดความรู้ในการจัดการกับโรคเบาหวาน
จุดมุ่งหมายและเกณฑ์การประเมิน
จุดมุ่งหมาย
เพื่อให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการดูแลตนเองได้ในด้านการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรคและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
เกณฑ์การประเมิน
-ผู้ป่วยมีความเข้าใจและสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับภาวะแทรกซ้อนของโรคได้อย่างถูกต้อง
เหตุผลการพยาบาล
-เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
-เพื่อให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับโรคเบาหวาน
ข้อมูลสนับสนุน
S: กินข้าวได้น้อยลง รับประทานยาขนาดและปริมาณเท่าเดิม
O: DTX = 39
กิจกรรมการพยาบาล
แนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกาย โดยการกระดกส้นเท้า ปลายเท้า การยก และกางแขน ออก การแกว่งแขน ถ้ามีแรงมากขึ้น ให้เดินออกกำลังกาย วันละประมาณ 30-50 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน และในแต่ละวันอาจแบ่งเป็น 2-3 ครั้ง
การใช้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์เมื่อระดับน้ำตาลปลายนิ้วอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระหว่าง 70-200 mg/dl
2.สอนวิธีการอ่านฉลากโภชนาการ เพื่อให้ทราบสารอาหาร และปริมาณสารอาหาร
ติดตามระดับน้ำตาลในเลือด โดยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง วันละ 7 ครั้ง คือ ก่อนและหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
1.แนะนำเกี่ยวกับอาหาร ควรเลือกอาหารที่มีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมันในสัดส่วนที่พอเหมาะ รับประทานอาหารเป็นเวลา
แนะนำให้สังเกตอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้แก่ เหงื่อออก ไม่มีแรง เวียนศีรษะ สับสน ผิวหนังเย็น อ่อนเพลีย ตาพร่า หิวบ่อย ตัวสั่นชัก หมดสตื หัวใจเต้นเร็ว ถ้ามีอาการดังกล่าวควรมาพบแพทย์
แนะนำมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง และการตรวจตา ฟัน เท้า รวมถึงการสอนสุขศึกษาและประเมินผลการพยาบาล
การประเมินผล
-ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการดูแลตนเองได้และมีความรู้ในการดูแลตัวเองเกี่ยวกับโรคเบาหวาน เช่น ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายได้ดีขึ้น
ข้อที่ 1 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ Hypoglycemia ซ้ำเนื่องจาก รับประทานอาหารได้น้อย
ข้อมูลสนับสนุน
S :
-รับประทานอาหารได้น้อย 3-7 คำ ต่อมื้อ
รับประทานยาขนาดและปริมาณเท่าเดิม
-ซึมลง เวียนศีรษะ
O :
-ตรวจร่างกายพบ หน้าซีดเหงื่อออกตัวเย็น , มือเท้าเย็น
-DTX 43 %
จุดมุ่งหมายและเกณฑ์การประเมิน
จุดมุ่งหมาย
คนไข้ไม่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ Hypoglycemia ซ้ำ
เกณฑ์การประเมิน
-ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระหว่าง 70-200 mg/dl
-ไม่มีอาการ ซึมลง เวียนศีรษะ เบื่ออาหาร หมดสติ BS <70 mg/dl
กิจกรรมการพยาบาล
-ติดตามและประเมินผลหลังจากการให้น้ำตาล 50% glucose Then 10% DN/2 ทุก 30 นาที
-ติดตามค่า DTX ทุก 4 ชั่วโมง และดูแลให้สารน้ำตามแผนการรักษา
Keep 70-200 mg%
if < 80ให้ 50% glucose 50 ml IV push
if < 200 ลด IV rate ลง 10 ml/hr
if > 250 ลด IV rate ลง 20 cc/hr
-แนะนำให้ผู้ป่วยและญาติรู้จักการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำโดยใช้แผนการสอนสุขภาพให้ผู้ป่วยและญาติ
เหตุผลการพยาบาล
เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ให้มากกว่า 70 mg%
การประเมินผล
-ผู้ป่วยไม่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ผลระดับน้ำตาลในเลือดจากปลายนิ้ว ไม่น้อยกว่า 70 mg% และไม่มีอาการมือ-เท้าเย็น ใจสั่น กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ซึม สับสน หมดสติ