Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่4 เรื่องการทำข้อมูลให้เป็นภาพและการสื่อสารด้วยข้อมูล - Coggle Diagram
บทที่4 เรื่องการทำข้อมูลให้เป็นภาพและการสื่อสารด้วยข้อมูล
4.2การทำข้อมูลให้เป็นภาพ
(Data visualization
)
เป็นการนำเสนอข้อมูลด้วยภาพเธอช่วยตอบคำถามหรือนำเสนอประเด็นต่างๆได้รวดเร็วและชัดเจนยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง
แผนภูมิวงกลม(Pie chart)
แผนภูมิโดนัท
แผนภูมิแท่ง(Bar chart)
กราฟเส้น(Line graph)
แผนภาพการกระจาย(Scatter plot)
แผนภูมิพื้นที่(Area Charts)
แผนภูมิเรดาร์(Radar Charts)
แผนภูมิต้นไม้(Tree Maps)
แผนภูมิรูปภาพ (Picture Graph)
การเลือกใช้ภาพ
แสดงการสรุปแผนภาพชนิดต่างๆและจุดประสงค์ของการนำเสนอ
Big คือตัวใหญ่อ่านได้ชัดเจนแม้จะอยู่ไกลๆ
Clear คือ ข้อความกระชับ ชัดเจน ตรงแระเด็น
Clean คือ เรียบร้อย ไม่รก สะอาดตา
Simple คือ เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เนื่องจากผู้อ่านจะได้เข้าใจได้ง่าย
Story คือ มีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ โดยมีทั้งเทคนิคการเล่าในหลายลักษณะ ต้อง
เข้าใจถึงเป้าหมายของการนําเสนอ (Objective) กลุ่มผู้ฟัง (Audience
Good Presentation Technique คือ มีเทคนิคการนําเสนอที่ดี มี Animation
ประกอบเพื่อช่วยสื่อสารกับผู้ใช้
จาคส์เบอร์ติน (Jacques Bertin) ผู้ริเริ่มการทําข้อมูลให้เป็นภาพ (information visualization)
โดยได้กําหนดตัวแปรในการมองเห็นไว้ 7 ตัวแปร ได้แก่
ตําแหน่ง 5. สี
ขนาด 6. ทิศทาง
รูปร่าง 7. ลวดลาย
ความเข้ม
กระบวนการทำข้อมูลให้เป็นภาพ
การสร้างความโดดเด่น Selective
การจัดกลุ่ม associative
การบ่งปริมาณ
การแสดงลําดับ
การเล่าเรื่องราวจากข้อมูล Data story tellingการสื่อสารหรือเล่าเรื่องราวจากผลลัพธ์ของข้อมูล ให้มีความนาสนใจ เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้ฟัง
และสามารถจดจําเรื่องราวที่เล่าได้อย่างยาวนาน
4.1การสื่อสารข้อมูล (Data Communications)
หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล
กันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ โดยผ่านช่องทางสื่อสาร
องค์ประกอบของการสื่อสาร
1.ผู้ส่งสาร 2.ข่าวสาร
3.ช่องทางการส่งสาร 4.ผู้รับสาร
4.4 การเล่าเรื่องราวจากข้อมลู (data story telling)
การทำเนื้อหาหรือความรู้ ให้อยู่ในรูปแบบที่สามรถถ่ายทอดหรือสื่อสารไปยังผู้อ่าน หรือผู้ฟังได้อย่างน่าสนใจ รวมทั้งเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนหรือสร้างเนื้อหานั้นๆ ต้องการสื่อสารออกมาคงไม่ใช่เพียงแค่การรายงานผลลัพธ์ที่เกิดจากข้อมูล หรือข้อเท็จจริงที่ได้เก็บรวบรวมมา โดยผ่านการวิเคราะห์และประมวลผล จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นภาพ กราฟ หรือแผนภูมิแบบต่างๆการที่จะประสบผลสำเร็จในการสื่อสารผลลัพธ์ไปสู่ผู้รับได้นั้น จำเป็นต้องมีกลวิธีในการเล่าเรื่องราว (story)
อาจใช้วิธีการนำเสนอ 4 รูปแบบดังนี้
1.แบบตู้กดน้ำ เปรียบเสมือนการพูดคุยในขณะกดน้ำ ซึ่งจะมีเวลาในการสนทนาเพียงแค่เวลาสั้นๆ
2.แบบร้านกาแฟ เปรียบเสมือนการพูดคุยกันในร้านกาแฟหรือหากเป็นวัยของนักเรียนก็เหมือนกับการนั่งคุยกันในร้านไอศกรีม ซึ่งมีเวลาในการสนทนามากยิ่งขึ้น และอาจมีการเล่าเรื่องราวระหว่างกัน เนื้อหาที่ต้องการนำเสนอมีความยาวหรือรายละเอียดของเนื้อหามาก
3.แบบห้องสมุด เปรียบเสมือนการเข้าศึกษาเนื้อหาในห้องสมุดที่มีเอกสาร ตำราวิชาการ งานวิจัย และต้องค้นคว้าเชิงลึกในสิ่งที่ตนเองสนใจ
4.แบบห้องทดลอง เปรียบเสมือนการทดลอง และลงมือปฏิบัติการในห้องทดลอง ซึ่งได้รับประสบการณ์จากการที่ได้ลงมือปฏิบัติจริง
4.3 การทำข้อมูลให้เป็นภาพอย่างเหมาะสม
1.การสร้างความโดดเด่น (selective)
2.การจัดกลุ่ม(associative)
3.การบ่งปริมาณ (quantitative)
4.การแสดงลำดับ(order)
เรายัสามารถนำเสนอข้อมูลในรูปแบบอื่นๆ ให้งานน่าสนใจได้อีกการนำเสนอข้อมูลให้เป็นน่าสนใจได้อีก การนำเสนอ ข้อมูลให้เป็นในการมองเห็นและการรับรู้ของจาคส์เบอร์ติน
4.5 ข้อควรระวังในการนำเสนอข้อมูล
การใช้ตัวแปรในการมองเห็นผลลัพธ์ของข้อมูลนั้น จะต้องระวังไม่ให้ตัวการใช้ตัวแปรในการมองเห็นผลลัพธ์ของข้อมูลนั้น จะต้องระวังไม่ให้ตัวตรงกับข้อมูล
4.12 แผนภูมิแท่งแสดงการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย โดยใช้ตัวแปรตำแหน่งในการแสดงลำดับภาพด้านซ้าย (ก) มีการใช้ตัวแปรขนาด เพื่อให้ผู้มองเห็นความชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยต่อปี ถ้าให้สเกลที่แสดงอัตราดอกเบี้ยในแกน y มีความละเอียดมาก อาจทำให้ตีความไปได้ว่า อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 เท่าเกือบทุกปี ส่วนภาพด้านขวา (ข) แสดงอัตราดอกเบี้ยโดยสเกลในแกน y เริ่มต้นจากศูนย์ ทำให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยแต่ละปีไม่ได้แตกต่างกันมาก
4.13 เป็นตัวอย่างการใช้ตัวแปรขนาด
ที่อาจทำให้เข้าใจผิดได้ขนาดของถุงเงินที่แสดงงบประมาณรายจ่าย2.5 ล้านล้านบาทและถุงเงินที่แสดงพ.ร.บ. เงินกู้ฯ นอกงบประมาณพ.ร.บ. เงินกู้ฯ นอกงบประมาณ2 ล้านล้านบาท และเพื่อวางระบบน้ำฯ 3.5 แสนล้านบาท
รูป 4.14 แสดงการใช้มุมมองของภาพที่่อาจจะทำให้ข้าใจผิด ในการใช้แผนภูมิรูปวงกลมที่มีมุมมองเอียงทำให้สัดส่วนตลาดของบริษัท Apple ที่ควรจะมีเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของบริษัท RIM ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดใน ค.ศ. 2008 กลับดูมีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกัน ซึ่งหากปรับภาพแผนภูมิรูปวงกลมให้เป็นมุมมองตรงแล้วจะทำ ให้เห็นความแตกต่างของสัดส่วนใกล้เคียงความจริงมากขึ้น