แนวคิด ทฤษฎี และหลักการ
ของการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น
ความแตกต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
แนวคิด และหลักการพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเด็ก
ธรรมชาติและความต้องการของเด็ก
สิทธิเด็ก (Child’s Right) รับสิทธิพื้นฐาน 4 ประการ
ด้านสรีรวิทยา
ด้านจิตใจและปฏิกิริยาทางอารมณ์
ด้านร่างกาย
ด้านโครงสร้างหน้าที่ของร่างกาย
Eustachian tube ในเด็กสั้นและอยู่ในแนวราบ>ผู้ใหญ่
เด็กมีน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย>ผู้ใหญ่ 75% (65%)
เด็กมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เมื่อเจ็บป่วย
Immune ในเด็ก: ผ่านรกจากมารดา: มีถึงอายุ 3-6 เดือน
ไม่อดทน หงุดหงิด ไม่สามารถสื่อสารได้
อารมณ์ของเด็กจะเปลี่ยนแปลงง่าย
โครงสร้างและหน้าที่ของร่างกายผิดปกติได้
การขาดวิตามิน Dในเด็กเล็ก อาจทําให้เป็นโรคความผิดปกติของกระดูก (Rickets)
การดูแลรักษาพยาบาลเด็กป่วยที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่นแบบองค์รวม
ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ
โดยมีครอบครัวเป็นศูนย์กลาง (Family-centered care)
ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม พัฒนาการ และจิตวิญญาณของเด็กด้วยความเอื้ออาทร
การป้องกัน การส่งเสริมสุขภาพ การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสภาพ
ใช้กระบวนการพยาบาลในการประเมินภาวะสุขภาพ
การวางแผนการปฏิบัติการพยาบาล
การปฏิบัติการพยาบาลและการประเมินผล
การวินิจฉัยการพยาบาล
การช่วยให้ครอบครัวมีความสามารถ (Enable)
การเสริมพลังอำนาจ (Empower) ในการดูแลเด็ก
ประเมินความรู้และความสามารถของครอบครัวในการดูแลเด็ก
สอนความรู้และทักษะที่จำเป็นในการดูแลเด็ก
รักษา/ช่วยเหลือให้ครอบครัวมีความรู้สึกว่าสามารถควบคุมการดำเนินชีวิตได้
ให้ความช่วยเหลือโดยเริ่มจากจุดแข็ง และ ความสามารถที่มีอยู่ของครอบครัว
2.สิทธิในการพัฒนา (Right of development)
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก (๒๕๔๖)
3.สิทธิในการได้รับการคุ้มครอง (Right of Protection)
1.สิทธิการมีชีวิตอยู่รอด (Right of survival)
4.สิทธิในการมีส่วนร่วม (Right of Participation)
เด็กที่เกิดมาต้องได้รับการจดทะเบียนการเกิดมีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีที่สุดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
สิทธิในการได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองในการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิด การถูกกลั่นแกล้ง การถูกทอดทิ้ง การกระทำทารุน การใช้แรงงานเด็ก มิให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะเกิดอันตรายทั้งทางร่างกายและจิตใจ
สิทธิที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกทั้งทางด้านความคิดและการกระทำของเด็กการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่อาศัยอยู่การให้เด็กได้รับบทบาทที่สำคัญในชุมชน มีส่วนร่วมกิจกรรมในสังคม มีอิสระและโอกาสในการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่มีผลกระทบต่อตนเอง
การกำหนดหน้าที่ผู้ปกครอง: ต้องไม่กระทำการดังต่อไปนี้
ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการต่อเด็กดังต่อไปนี้ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานพยาบาล หรือที่สาธารณะโดยเจตนาที่จะไม่รับเด็กกลับคืน
ปฏิบัติต่อเด็กที่ไปขัดขวางการเจริญเติบโตและพัฒนาการหรือการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
ละทิ้งเด็กไว้ในสถานที่ใด ๆ โดยไม่จัดการให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและสุขอนามัยจนน่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจ
ใช้ จ้าง หรือวานให้เด็กทำงานที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย จิตใจกระทบต่อการเติบโตและพัฒนาการของเด็ก
ใช้หรือยินยอมให้เด็กเล่นการพนันไม่ว่าชนิดใด หรือเข้าไปในสถานที่เล่นการพนัน ค้าประเวณี หรือสถานที่ห้ามเด็กเข้า
บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือเสี่ยงต่อการกระทำผิด
จำหน่าย แลกเลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก เว้นแต่ในทางการแพทย์
ทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจเด็ก
ห้ามโฆษณาหรือเผยแพร่ข้อมูลเด็กหรือผู้ปกครองทางสื่อมวลชนหรือสารสนเทศใด โดยเจตนาทำให้เสียหาย
เด็กวัยก่อนเรียน
เด็กวัยหัดเดิน
เด็กทารก
สิทธิในการได้รับปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
มีสิทธิในความจำเป็นขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ที่พักอาศัย โภชนาการ การบริการทางการแพทย์ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานเมื่อเจ็บป่วย โดยบิดา มารดา ญาติ หรือรัฐ
มีสิทธิได้รับการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ความรู้สึกนึกคิด ศีลธรรม ความต้องการ ความพึงพอใจ และความสุขของเด็ก
สิทธิในการได้รับวัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ
เด็กวัยเรียน
ด้านสังคม การให้ความรักและความอบอุ่น เลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่จะทำให้เด็กไว้วางใจคนรอบข้าง มีทัศนคติที่ดีทำให้อยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ดี
ด้านอารมณ์ของทารก แรกเกิด - 24 เดือน - อารมณ์พึงพอใจ และไม่พึงพอใจ ก่อนอายุ 3 เตือน - แสดงความพึงพอใจด้วย การส่งเสียง ยิ้ม เอิกอ้าก อายุ 3 - 6 เดือน - แสดงอารมณ์โกรธ กลัว ความไม่ชอบ ร่าเริงอายุ 6 - 12 เตือน – แสดงความรักอายุมากกว่า 16 เดือน - จะแสดงอารมณ์ริษยา
ด้านร่างกายมีการเจริญเติบโตทางร่างกายอย่างรวดเร็วมากกว่าวัยอื่นๆพัฒนาการของทารกแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการเจริญ
เติบโตของสมองและระบบประสาท-พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
วัยทารกติดเชื้อง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคยังไม่สมบูรณ์
การพยาบาลเด็กในระยะเฉียบพลันและวิกฤต
- ประเมินปัญหาและบันทึกรายงานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
- จัดกิจกรรมให้เด็กเล่นให้เหมาะสมตามวัยและโรคที่เป็น
- ให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กป่วย
- ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากเด็กเจ็บปวด
- อธิบายให้ครอบครัวเข้าใจถึงภาวะสุขภาพของเด็ก
- สนับสนุนสมาชิกของครอบครัว ให้ความช่วยเหลือในการดูแลผู้ป่วยและ ครอบครัว
ด้านร่างกาย วัยแห่งการสำรวจ และค้นพบสิ่งใหม่กล้ามเนื้อแข็งแรง เติบโต มัดเล็ก มัดใหญ่ ให้ลูกได้มีพื้นที่กว้างในการสำรวจ เล่นนอกบ้านมากขึ้นทำกิจกรรมได้เองได้มากขึ้น เคลื่อนไหวมากขึ้น เดินได้
ด้านสังคม เรียนรู้จากครอบครัว การสัมผัส แม่ เริ่มเข้ากลุ่ม เห็นพฤติกรรมเพื่อนการเล่นเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ทางสังคมอยากทำอะไรด้วยตนเองเริ่มยอมรับกฎของสังคมเป็นตัวของตัวเองจนเหมือนดื้อหรือต่อต้าน
ด้านสังคม เรียนรู้จากครอบครัว การสัมผัส แม่เริ่มเข้ากลุ่ม เห็นพฤติกรรมเพื่อนการเล่นเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ทางสังคมอยากทำอะไรด้วยตนเองเริ่มยอมรับกฎของสังคมเป็นตัวของตัวเองจนเหมือนดื้อหรือต่อต้าน
ด้านร่างกาย อัตราการเจริญเติบโตจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด สัดส่วนของร่างกายจะได้ขนาดมากขึ้นกล้ามเนื้อแข็งแรง เดินมั่นคง ชอบวิ่ง กระโดดห้อยโหน จักรยาน กระโดดเชือก
ด้านอารมณ์ ตื่นเต้น ตกใจง่าย โกรธง่าย กลัวการอยู่ลำพัง เด็กผู้หญิงจะแสดงความกลัวมากกว่ามีทั้งอารมณ์ก้าวร้าว หรืออารมณ์เห็นอกเห็นใจผู้อื่นต้องการความรัก ความเอาใจใส่ มีอารมณ์ริษยาด้วย
ด้านสังคม มักเป็นเด็กช่างซัก ช่างถาม ตั้งคำถาม อยากรู้อยากเห็น เริ่มพัฒนาการรู้จักใช้เหตุผลผู้ปกครองควรเข้าใจ และตอบคำถามอย่างเอาใจใส่ให้เหมาะสมกับวัยและสติปัญญาของเด็กถ้าเด็กรู้สึกว่าผู้ใหญ่ไม่พอใจในการถามคำถามของเด็ก จะทำให้การซักถามของเด็กค่อยๆหายไป เด็กจะมีนิสัยไม่อยากรู้อยากเห็นเกิดนิสัยเชื่อง่าย ไม่สร้างสรรค์
ด้านอารมณ์ เด็กต้องการระบายอารมณ์อย่างอิสระและเปิดเผยต้องการความรัก ความใกล้ชิดผูกพัน ต้องการความรักจากครูเสมือนเป็นตัวแทนของพ่อแม่ ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่เมื่อเกิดความกลัวไม่ชอบให้ขัดใจ
ด้านสังคม เด็กต้องการเป็นที่ยอมรับ การอบรมเลี้ยงดูส่งผลต่อพฤติกรรมเด็ก เช่น การเลี้ยงแบบประชาธิปไตย - เด็กปรับตัวได้ดี กระตือรือร้น เข้าสังคมได้ดีการเลี้ยงแบบตามใจ - เด็กมักเฉื่อยชา ไม่สนใจสิ่งใดชอบปลีกตัวออกจากสังคม
ด้านร่างกาย -ด้านสุขภาพอนามัย ส่งเสริมให้ได้รับอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และการพาไปรับวัคซีน -ด้านสุขนิสัย กิจกรรมฝึกเด็กและดูแลให้เด็กปฏิบัติจนเป็นนิสัย -การดูแลความสะอาดร่างกาย การอาบน้ำ การพักผ่อน และการเคลื่อนไหวต่างๆด้านร่างกาย ต้านประสาทการรับรู้ การเคลื่อนไหว จัดสถานที่ให้ปลอดภัย ด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก
เด็กวัยรุ่น
ด้านร่างกาย มีการเจริญเติบโต ความสูงและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน กระตุ้นการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธ์ มีการเจริญของร่างกายในส่วนที่เป็นลักษณะประจำทางเพศการเปลี่ยนแปลงมากๆ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความกังวล และลำบากใจในการปรับตัว
ด้านสังคม วัยรุ่นจะสนใจตัวเองมากขึ้น รักสวยรักงาม พิถีพิถันในการแต่งตัวมากขึ้นเพื่อการยอมรับ ให้ความสำคัญผู้ใหญ่น้อยลง ต้องการความเป็นตัวของตัวเอง ต้องการรับผิดชอบตัวเอง ไม่บังคับหรือมีกฎระเบียบมากจนเกินไป ควรให้หัดตัดสินใจในเรื่องที่เหมาะสม วัยรุ่นต้องการความรู้สึกภาคภูมิใจ
ด้านอารมณ์ มักเปลี่ยนแปลงไปในทางดื้อรั้น ไม่เชื่อฟัง ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจ ถ้าผู้ปกครองไม่ผ่อนปรน หรือเพิ่มการควบคุม จะก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ใหญ่ กับวัยรุ่นมากขึ้น ยิ่งทำให้วัยรุ่นยิ่งมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรง
บทบาทหน้าที่ของพยาบาลเด็ก
3.มีทักษะในการดูแลทั้งเด็กปกติและผู้ป่วยเด็ก
4.สามารถประเมินปัญหาของผู้ป่วยที่วิกฤติและคุกคามต่อชีวิตได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
2.มีความเข้าใจการเจริญเติบโต พัฒนาการและธรรมชาติที่แตกต่างของเด็กในแต่ละวัย
5.บทบาทในการส่งเสริมสุขภาพ: การป้องกันการเจ็บป่วยและการบำรุงรักษาสุขภาพอนามัย ทั้งทางด้านร่างกาย การอบรมเลี้ยงดู เพื่อการให้คำแนะนำเด็กและครอบครัวในการดูแลสุขภาพตนเอง
6.บทบาทในด้านการรักษาพยาบาล: มีความรู้เพื่อให้ตัดสินอย่างถูกต้องและทันท่วงที
7.บทบาทในการฟื้นฟูสภาพ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคมทั้งระยะพักฟื้นและหลังการเจ็บป่วย หรือเมื่อได้รับความพิการ
1.เป็นผู้นำทางความรู้ ความชำนาญ และจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ในการนำความรู้ทางการพยาบาลเด็ก ไปใช้ในการประเมินความต้องการของเด็กด้านร่างกายและจิตใจ
การดูแลแบบประคับประคอง
- ด้านจิตใจ เพื่อให้เกิดความสุขทางใจ ลดความเครียด ความวิตกกังวลทั้งของเด็กและครอบครัว ตอบสนองความต้องการของเด็กตามวัย
- ด้านสังคม ควรให้เด็กได้อยู่ในบรรยากาศที่อบอุ่นแวดล้อมด้วยคนใกล้ชิดถ้าเป็นไปได้ ทีมการดูแลรักษาควรเป็นทีมเติม เพื่อให้เด็กรู้สึกคุ้นเคย
1.ด้านร่างกาย เป็นการพยาบาลเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานในวาระสุดท้าย ได้แก่ ความปวด หายใจลำบากคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย โดยเฉพาะความปวดซึ่งผู้ปกตรองมีความวิตกกังวล
- ด้านจิตวิญญาณ พยาบาลควรประเมินและบันทึกสภาพจิตใจของเด็กเกี่ยวกับความตาย เปิดโอกาสให้เด็กได้ซักถามเกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่ ให้การดูแลใกล้ชิด เพื่อให้เด็กมั่นใจว่าจะไม่ถูกทอดทิ้ง มีที่พึ่งยามต้องการ ส่งเสริมอำนวยความสะดวก ตอบสนองต่อความต้องการด้านความเชื่อ ศาสนา ตอบสนองความต้องการครั้งสุดท้ายของเด็กเท่าที่จะทำได้
นางสาวพรรณิกา สาระชาติ เลขที่ 2 ห้องB