Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรภาพระบบเลือด Hematopoietic pathophysiology - Coggle Diagram
พยาธิสรีรภาพระบบเลือด Hematopoietic pathophysiology
การทําลายเม็ดเลือดแดง (red cell destruction)
เม็ดเลือดแดงมีอายุเฉลียประมาณ 120วันเม็ดเลือดที่อายุมากจึงแตก (hemolysis) ได้ง่ายซึ่งปกติอัตราการสร้างเม็ดเลือดเท่ากับ อัตราการทําลายาย (ประมาณ1% ของปริมาณเม็ดเลือดแดงทั้งหมดต่อวัน)
่
โรคเกล็ดเลือดต่ำ(ITP)
เป็นภาวะที่มีเลือดออกใต้ผิวหนังเนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติเพราะถูกแอนติบอดี้ทำลาย พบได้ทุกวัย ร้อยละ50พบไดในช่วงเด็กอายุน้อยกว่า15ปี วัยที่ได้สูงสุดคือวัย 2-5ปี
โรคเลือดออกจากการมีโปรทรอมบินคอมเพล็กต่ำ
เป็นโรคเลือดออกง่ายหยุดยากที่พบในเด็ก ½ - 2 เดือน หลังคลอดด
เป็นส่วนใหญ่ เกิดจากการขาด Vitamin K และ prothrombin
complex โดยไม่มีสาเหตุอื่นๆ
ผลLab ควรตรวจ CBC ดูค่า Hct Plt หรอื ดูค่า Bleeding timee
(ค่าปกติ0-5นาที) , Prothrombin time (PT) (ค่าปกติ12-15 วินาที))
Partial thromboplastintime (PTT) (ค่าปกติ25-40 วินาที)และะ
venous clotting time (ค่าปกติ5-15 นาที)
อาการเลือดออกง่าย แข็งตัวช้า ซีด ตับโตมีจ้ำเลือดตามแขนขาทำให้มีเลือดออกในสมอง ในกรโหลดศีรษะ (พบถึงร้อยละ87)พบมีเลือดออกใต้เยื้อหุ้มสมองมอง (subdural hemorrhage))
และใต้ชั้นอะแรคนอย์
เกร็ดเลือด (platelet หรือ thrombocyte)
เกร็ด เลือดสร้างจากไขกระดูก ปอดและม้าม เป็นกลไกในการแข็งตัว
ของเลือด (blood clotting)ช่วยในการห้ามเลือดเมื่อเกิดบาดแผลหรือผนังหลอดเลือดถูกทําลายช่วยหยุดการไหลของเลือด(hemostasis)ซึ่งเป็นหน้าทีทีสําคัญทีสุดของเกร็ดเลือด
ธาลัสซีเมีย (Thalassemia)
เป็นแบบAutosomal recessive มีความผิดปกติของยีนส์(Globin))
ที่ควบคุมการสร้างสายโกลบิน ของฮีโมโกลบิน
ทําให้เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างผิดปกติขาดความยืดหยุ่น
โรคไขกระดูก
ไขกระดูกไม่ทํางานทําใหเ้กิดเลือดจางดจาง (RBC WBC PLT ต่ำหมดทุกตัว)=Pancytopenia มักพบในเด็ก 4 ปีขึ้นไป เพศชาย
มากว่าเพศหญิง 2 : 1 และพบในครอบครัวยากจนมากกว่าฐานะดี
ฮีโมฟีเลีย (Hemophylia)
เป็นภาวะเลือดออกง่ายหยดุยากจากการขาดปัจจัยการแข็งตัวของเลือดอด คือ Factor8 9 และ 11 มัก เป็นมาตั่งแต่กําเนิด จะเป็นๆ หายๆตลอดชีวิต
เม็ดเลือดขาว (leukocyte หรือ white blood cells)
เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่สําคัญในการต่อต้านกับเชื่อโรค
ช่วยป้องกันและทําลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่
เข้าสู่ร่างกาย
องค์ประกอบของเลือด :
1.ส่วนที่เป็นน้ำเลือดหรือพลาสมา ( Plasma ) ประมาณร้อยละ 55 ของปริมาณเลือดทั้งหมด
ส่วนที่เป็นเม็ดเลือด ( Corpuscle ) ประมาณร้อยละ 45 ซึ่งเป็นเม็ดเลือดแดง ( Red Blood cell หรือ Erythrocyte ) เม็ดเลือดขาว
( White blood cell หรือ Leucocyte ) และส่วนที่เป็นเกล็ดเลือด
( Platelets หรือ thrombocyte)
ระบบสร้างเลือด มี2 ระบบ คือ
การสร้างในไขกระดูก (medullary hematopoiesis )
เป็นระบบสร้างเลือดปกติในร่างกาย
การสรา้งนอกไขกระดูก(extramedullary hematopoiesis )
เป็นระบบสร้างเลือดจากอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ม้าน ต่อมหมวกไต ไตต่อมน้ำเหลือง กระดูก
เจาะจากเส้นเลือดดํา (venipuncture) ใส่หลอด without anticoagulant
จะเกิดการแข็งตัวของเลือด จากโปรตีนทีช้วยในการแข็งตัวของเลือดและplatelets ส่วนของน้ำพลาสมาจะเป็นserum (serum is plasma without fibrinogen)
ค่าปกติของ Hemoglobin Male 14-18 g/dlFemale 12-16 g/dl , Hctชาย 42-52% , Hctหญิง 35-47%
การเจาะเลือดไปปั่นจะมองเห็นเม็ดเลือดแดงจะอยู่ชั้นล่างสุดด
ส่วนเม็ดเลือดขาวและเกร็ด เลือดจะอยู่บรเิวณกึ่งกลางและส่วนที่เป็นน้ำเลือดใสๆจะอยู่บนสุดจะมีปริมาณ55%เม็ดลือดแดงจะมีปริมาณ45%ของปริมาณทั้งหมด
การเก็บตัวอย่างเลือด
Hemorrhage: Bleeding: ภาวะเลือดออก
ภาวะเลือดออกทีเกิดขึ้นจากหลอดเลือดขนาดเล็กมักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของผนังหลอดเลือดเองความผิดปกติของเกร็ดเลือดหรือความผิดปกติของสารทีทําให้เกิดการแข็งตัวของเลือด(coagulation factors
Anemia and Polycythemia: ภาวะเลือดจางและภาวะเลือดข้น
Anemia
ภาวะโลหิตจางหรืออาจเรียกกันโดยทั่ว
ไปว่า ภาวะซีดเป็นภาวะของจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติหรือปริมาณฮ๊โมโนโกลบินในเลือดน้อยกว่าปกติ
สาเหตุของภาวะโลหิตจางแบ่งตามกลไก การเกิดได้เป็น 3 สาเหตุใหญ่ๆ ได้แก่
การทําลายเม็ดเลือดแดงมากขึ้นในร่างกาย hemolysis
โรคเม็ดเลือดแดงแตกง่ายจากการขาดเอนไซม์G-6PDD
เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์มักพบในเพศชายในภาวะปกติ
ผู้ป่วยมักไม่มีอาการ หากมีการติดเชื้อหรือได้รับยาบางชนิดจะเกิดกากนะตุ้นให้เม็ดเลือดแดงแตกง่ายขึ้น
โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ที่พบบ่อยย
ผู้ป่วยโรคนี้มีอาการได้หลากหลายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย
การติดเชื้อบางชนิด เช่น มาลาเลีย คอลสติเตียม มัยโคพลาสมา
การสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง ineffective hematopoiesis
โรคไตวายเริ้อรังทําให้ขาดปัจจัยในการกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด
โรคของไขกระดูกเช่นไขกระดูกฝ่อ (aplastic anemia)มะเร็งในไขกระดูก การติดเชื้อในไขกระดูก เป็นต้น
ขาดสารอาหารที่จําเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือด ซึ่่งที่
สําคัญได้แก่ธาตุเหล็ก,วิตามินบี12, กรดโฟลิค
โรคเรื้อรังบางชนิดเช่น โรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบ โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
3.การเสียเลือดอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เช่นการเกิด อุบติเหตุ การตกเลือด
อาการแสดง
การตรวจร่างกายพบอาการแสดง เช่น ภาวะซีด
-ดีซ่านในโลหิตจางที่เป็นผลจากเม็ดเลือดแดงถูกทําลายผิด
-สภาพเล็บรูปช้อน (koilonychias)
ลิ้นเลี่ยนและซีดในผู้ป่วยโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
กลุ่มอาการขาไม่อยูนิ่ง (Restless legs syndrome)พบได้บ่อยในผู้ป่วยโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก
สาเหตุของการขาดธาตุเหล็กมัก เกิดจากได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ
เนื่องจากขาดสารอาหาร มีพยาธิในลําไส้มีเลือด
Hemostasis and Thrombosis
กลไกลห้ามเลือด (Homeostasis) :Stopping of hemorrhage
หลอดเลือดหดตัว (Vasoconstriction)เมื่อเกิดบาดแผล
สารซีโรโทนิน(serotonin)จากเกล็ดเลือดจะกระตุ้นให้หลอดเลือดหดตัว
การเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด (Platelet aggregation)
คือเซลล์ทีได้รับความเสียหายและเกล็ดเลือดจะปล่อยสาร ADP
(adenosine diphosphate)ออกมาทําใหเ้กล็ดเลือดเกิดการเปลี่ยนรูปร่าง และรวมกัน(aggregate) อุดหลอดเลือดที่เกิดบาดแผล
การแข็งตัวของเลือด (Coagulation, clot)เกิดจากปฏิกิริยาของเกล็ดเลือดสารต่างๆในพลาสมาและสารจากเนื้อเยื่อที่เกิดบาดแผล แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนคือ
3.1 การกระตุ้นโปรทรอมบิน (prothrombin activation)
ได้ทรอมโบพลาสติน(thromboplastin)
3.2 ทรอมโบพลาสติน (thromboplastin)ที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นการเปลียนโปรทรอมบิน(prothrombin)เป็นทรอมบิน(thrombin)
3.3ทรอมบินที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนไฟบริโนเจนจน (fibrinogen)n) เป็นไฟบริน(fibrin)ซึ่งเป็นเส้นใยโปรตีนที่ไม่ละลายน้ำ ประสานป็นร่างเเหและยึดจับกับเม็ดเลือดแดงกลายเป็นก้อนเลือด
3.4 เกิดการหดตัว ของก้อนเลือด (clot retraction)