Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง - Coggle Diagram
โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
โรคหัวใจรูมาติค
(Rheumatic Heart Disease)
ความหมาย
เป็นความผิดปกติของลิ้นหัวใจซึ่งเกิดจากกระบวนการอักเสบของกล้ามเนื้อเยื่อหุ้มและหัวใจจากเป็นไข้รูมาติค (Rheumatic fever) นำมาก่อนภาวะการอักเสบนี้จะส่งผลให้เกิดการเสียหน้าที่ของลิ้นหัวใจไป ในระยะหลัง คือ โรคลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว (regurgitation) ตีบ (stenosis) หรือ Aortic regurgitation ซึ่งต่อมาอาจทำ ให้เกิดหัวใจวายและลิ้นหัวใจผิดปกติอย่างถาวร สาเหตุของโรคนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการติดเชื้อรูมาติคและการติดเชื้ออื่นๆ
พยาธิสภาพ
กลไกของการเกิดโรคเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน (Immunopathology) ทำให้มีการทำลายของกล้ามเนื้อหัวใจ โดยเฉพาะที่ผนังของ left ventricle, mitral valve, aortic valve และเยื่อหุ้มหัวใจ การอักเสบจะเป็นแบบ exudative inflammation เกิด granulomatus tissue และ fibrosis การอักเสบซ้ำ ๆ จะทำให้ลินหัวใจตีบหรือรั่วได้
สาเหตุ
เป็นภาวะแทรกซ้อนของคออักเสบหรือทอนซิลอักเสบ จากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื้อว่า beta-hemolytic Streptococcus group A
มีอาการกำเริบซ้ำ ๆ ซาก ๆ จะทำ ให้หัวใจมีการอักเสบเรื้อรัง และในที่สุดลิ้นหัวใจจะเกิด การพิการ คือ ตีบและรั่ว
การอักเสบของกล้ามเนื้อเยื่อหุ้มและหัวใจจากเป็นไข้รูมาติค (Rheumatic fever)
อาการและอาการแสดง
ลักษณะสำคัญของผู้ป่วยมักจะมาด้วยอาการปวดข้อ หรือข้ออักเสบบางรายอาจมีอาการเหนื่อยง่ายและหัวใจเต้นเร็ว ส่วนใหญ่เคยเป็นไข้หรือเจ็บคอที่ไม่ได้รับการรักษา หรือซื้อยามากินเอง
major criteria
Carditis : เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด พบร้อยละ80
พบเสียง murmur ที่ apex จากภาวะ mitral valve ตีบหรือรั่ว
หัวใจโต
หัวใจวาย เช่น ไอ เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย ตับโต บวม
Polyarthritis : การอักเสบของข้อ โดยมักจะมีอาการมากกว่า 1 ข้อ มักเป็นข้อใหญ่ ๆ เช่น เข่าศอก ข้อเท้า
อาการแสดงทางผิวหนัง มี 2 ลักษณะ
Erythema marginatum : เป็นผื่นแดงไม่คัน ขอบผื่นจะหยักและสีแดงชัดเจนมักพบบริเวณแขน ขา ลำตัว เป็นๆ หายๆ (อาการเกิดชั่วคราวคล้ายลมพิษ)
Subcutaneous nodule : เป็นก้อนรีๆ ใต้ผิวหนัง จับให้เคลื่อนไหวได้มักจะเป็นใกล้ๆข้อ เป็นปุ่มๆ ติดกับเอ็นและกระดูก
Chorea เป็นความผิดปกติในการเคลื่อนไหวร่วมกับมีอารมณ์แปรปรวน มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อโดยเจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจร่วมกับมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้พูดไม่ชัด เขียนหนังสือไม่ค่อยเป็นตัวมีความแปรปรวนทางอารมณ์ ติดกระดุมเสื้อไม่ได้ ถ้าผู้ป่วยมี Chorea เป็นข้อบ่งชี้ว่าจะเกิดโรคหัวใจรูมาติคตามมา
minor criteria
Fever (ไข้) : มักจะเป็นแบบไข้ต่ำ
Arthalgia : มีการปวดตามข้อโดยตรวจไม่พบอาการอักเสบ คือ ปวด บวม แดงและร้อน มักจะเป็นตามข้อใหญ่ๆ และปวดมากกว่า 2 ข้อขึ้นไป
Previous Rheumatic fever or RHD (Rheumatic heart disease)
increase ESR, C-Reactive protein และ leukocytosis
Prolonged P-R interval
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
ตรวจร่างกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพาะเชื้อจากคอ ตรวจหา Beta hemolytic streptococcus group A
Antistreptolysin O (ASO) ในเลือดมากกว่า 320 Todd unit
ESR (Erythrocyte Sedimentation rate) เพิ่มขึ้น
C-reactive protein ให้ผลบวก
การรักษา
ให้ยากำจัดเชื้อโรค Beta hemolytic streptococcus ได้แก่ ยา Penicillin, Erythromycin
ให้ยาสำหรับลดการอักเสบ ได้แก่ Salicylate และ Steroid
ให้นอนพัก 2-6 สัปดาห์/เคลื่อนไหวไปมาในห้อง
ถ้ามี Chorea ให้ Phenobarbital, Diazepam
ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวาย ให้ digitalis ร่วมกับยาขับปัสสาวะเพื่อช่วยในการขยายหลอดเลือด
ข้อวินิจฉัย : เสี่ยงต่ออันตรายจากภาวะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากลิ้นหัวใจถูกทำลาย
กิจกรรมการพยาบาล : ปรับกิจกรรมหรือการพักผ่อนให้เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการออกแรงมากๆ เช่น เบ่งถ่ายอุจจาระ การเล่นกีฬาแข่งขันหรือทำให้ตื่นเต้นเร้าใจ
ข้อวินิจฉัย : ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Betahemolytic Streptococci group A ซ้า
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลความสะอาดร่างกายโดยเฉพาะปากและฟัน แปรงฟัน หรือบ้วนปากบ่อยๆ
ประเมินการติดเชื้อที่คอโดยวัดอุณหภูมิทุก 4 ชม. สอบถามอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอก ตรวจคอทอนซิล ติดตามผลการตรวจเพาะเชื้อจากคอ ติดตาม WBC, ASO titer
ดูแลให้ได้รับยา Penicillin v.
ระมัดระวังไม่ให้ผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติม ถ้ามีอาการเจ็บคอ หวัด หรือไอควรปิดปากเวลาไอจาม