Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลผู้ป่วยจิตเวช, การพยาบาลผู้ที่มีความผิดปกติด้านพฤติกรรม - Coggle…

- - - - •Substance abuse, drug toxicity and withdrawal syndromes สารเคมีหลายชนิดที่ถูกดูดซึมเขาไปในกระแสเลือด และไปผ่านสมองมีผลทำ ให้เกิดอาการทางจิต
      - Infections การติดเชื้อในส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะการติดเชื้อในสมอง
      - อาการและอาการแสดง
        
        สูญเสียความจำ มักสูญเสียความจำ ในปัจจุบันมากกว่าความจำในอดีต
        
        • การพูดสับสนไม่ต่อเนื่อง พูดไม่ต่อเนื่อง ระดับเสียงที่พูดไม่สม่ำเสมอ พูดเร็ว
        
        • การเคลื่อนไหวหรือการทำกิจกรรมผิดปกติ มากขึ้นหรือลดลง เช่น ผู้ป่วยอาจมีท่าทีกระสับกระส่าย วุ่นวาย นั่งไม่ติด
      - สาเหตุที่พบในแต่ละวัย
        
        วัยเด็ก ติดเชื้อ ไข้ สารพิษ ยา การชัก สมองได้รับบาดเจ็บ
        
        วัยรุ่น ขาดหรือได้รับสารเสพติดเกินขนาด สมองได้รับ บาดเจ็บ การติดเชื้อ
        
        วัยกลางคน ขาดสุราหรือยานอนหลับสารพิษ metabolic encephalopathy อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว
        
        วัยสูงอายุโรคหัวใจหลอดเลือด ได้รับยานอนหลับเกินขนาด อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว โรคสมองเสื่อม
    - - 1.1 ได้รับสารน้ำที่สมดุล
        
        1.2 ได้รับการพักผ่อนที่สมดุลเพราะผู้ป่วยมีอาการทางจิต กระสับกระส่าย
        
        1.3 ผู้ป่วยมีภาวะขาดสารอาหารและอ่อนเพลีย ควรให้อาหารทมี่พลังงานสูง
        
        1.4 เฝ้าระวัง สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในภาวะ วิกฤตตลอดเวลา
        
        1.5 ป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุจากผู้ป่วยตกเตียง เนื่องจากอาการกลัว หรือตื่นตระหนก
    - - 1 ช่วยลดความเจ็บปวดหรือสิ่งที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สุขสบายต่าง ๆ
        2 ช่วยให้ผู้ป่วยได้พักหรือให้ได้นอนหลับอย่างเพยีงพอ
        3 รักษาระดับความสมดุลของสารน้ำและสภาวะทางเคมีในร่างกาย
        4 พลังงานของสารอาหารที่ผู้ป่วยได้รับควรให้เพียงพอ
        5.การตรวจสอบสัญญาณชีพอย่างสม่ำเสมอ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเร็ว
        6.จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบ สงบ ลดสิ่งเร้าและระวังอุบัติเหตุ
  - - - ปัจจัยเสริม ได้แก่ บุคคลอายุมาก พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม
      - มีพยาธิสภาพที่สมอง Alzheimer, Parkinson’s disease
      - โรคทางกายที่มีผลกระทบต่อระบบประสาทและสมอง : Stroke, การติดเชื้อ สารพิษ โรคต่อมไร้ท่อ การใช้ยาหรือแอลกอฮอล์มากเกิน Alcohol withdrawal เนื้องอกที่สมอง การบาดเจ็บที่ศีรษะ มีก้อนในสมอง การเผาผลาญในร่างกายผิดปกติ การติดเชื้อ HIV การเสื่อมของ เซลล์ประสาท โรคหลอดเลือดสมอง
    - - การสูญเสียความสามารถทางสติปัญญา
      - กิจกรรมทั่วไปบกพร่อง
      - ความแปรปรวนทางด้านอารมณ์
    - - Primary Dementia เกิดจากความผิดปกติหรือการเสื่อมของเซลล์สมองซึ่งไม่ทราบสาเหตุ เช่น Alzheimer ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุด สมองจะมีการเสื่อมลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น
      - Secondary Dementia เกิดจากโรคทางกายต่างๆ ที่ทราบสาเหตุและทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม เช่น โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด โรคติดเชื้อต่างๆ การเผาผลาญ สารพิษหรือยา
    - - บกพร่องในการดูแลตนเองเนื่องจากสูญเสียความสามารถทางการรู้คิด
      - เสี่ยงต่อการขาดอาหารและสารน้ำ เนื่องจากมีภาวะสมองเสื่อมรุนแรง
      - เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองและผู้อื่นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทาง อารมณ์และพฤติกรรม
      - เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากากรขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง
    - - -ให้อาหารมีคุณภาพ วิตามิน
        -ลดอาการติดเชื้อ
        -กายภาพบำบัด กระตุ้นการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย
        -หาอุปกรณ์อื่นทดแทน เช่น แว่นตา เครื่องช่วยในการได้ยิน
        -จัดตารางกิจกรรมในแต่ละวัน ติดตาม ให้ผู้ป่วยได้ทำงานอดิเรก
        -จัดสภาพแวดล้อมที่สงบ แสงสว่างเพียงพอ มีนาฬิกา และปฏิทิน มีของใช้ที่จำเป็น
        -ไม่ควรมีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดอันตราย
        -จัดเข้ากลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน กระตุ้นให้เข้าสังคม
- - - - 1 นอนไม่หลับ หรือหลับมากกว่าปกติ เป็นเวลา 1 – 2 สัปดาห์ หลับๆตื่นๆ (บางคนนอนมากขึ้นแต่ไม่หลับเนื่องจากไม่อยากทำอะไร) เป็นอาการแรกสุดก่อนที่จะมีอาการอื่น
        
        เบื่ออาหาร ไม่อยากรับประทานอาหาร
        3.น้ำหนักลดลงมากกว่าร้อยละ 5/เดือน
        4.ระดับฮอร์โมนจะเปลี่ยนไป เช่น ประจำเดือนอาจมาน้อยกว่าปกติหรือมาไม่สม่ำเสมอ
        5.ปวดศีรษะ
    - - อารมณ์เศร้า หดหู่ไม่แจ่มใส ไม่สนุกสนาน ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม ไม่มีความสุข เบื่อ ท้อแท้เครียด ซึม ร้องไห้ง่ายรู้สึกไร้ค่ารู้สึกผิดโดยไม่สมเหตุผล คิดอยากตายและฆ่าตัว ตายได้อาการหงุดหงิด
    - - จะมีความสนใจสิ่งแวดล้อมน้อยลง ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากเจอใครจึงมัก แยกตัว ไม่ชอบสังสรรค์ในที่ที่มีคนชุมนุมกันมากๆ การหนีสังคมมากๆ มีได้ทั้งการแยกตัวและแยกความคิด
    - - ผู้ป่วยมีอารมณ์เศร้าลดลง
        
        ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
        
        ผู้ป่วยสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
        
        ผู้ป่วยดูแลตนเองด้านสุขอนามัยและกิจวัตรประจำวันได้มากขึ้น
        
        ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและน้ำเพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย
        
        ผู้ป่วยมีความสมดุลระหว่างการทำกิจกรรมและการพักผ่อนตามความต้องการของร่างกาย
        
        ผู้ป่วยและผู้อื่นได้รับความปลอดภัย
      - การพยาบาล
        
        สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการให้กำลังใจ เห็นใจ และเข้าใจผู้ป่วย ใส่ใจกับการสื่อ l เพื่อสร้างความไว้วางใจ
        
        ทักทายผู้ป่วยทุกวันพร้อมทั้งเรียกชื่อผู้ป่วยให้ถูกต้องทุกครั้ง ยอมรับ ให้เกียรติ เสนอตัวช่วยเหลือผู้ป่วยและนั่งเป็นเพื่อน
        
        เปิดโอกาสและส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้พูดระบายความรู้สึก เนื่องจากผู้ป่วยจะคิดช้า พูดช้า จึงควรรับฟังอย่างตั้งใจ พูดคุยด้วยท่าทีจริงใจและเป็นมิตร
        
        แนะนำผู้ป่วยให้รู้จักผู้ป่วยอื่น เพื่อฝึกทักษะในการสร้างสัมพันธภาพ
        
        จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบำบัด จัดหอผู้ป่วยให้สะอาด อากาศถ่ายเท แสงสว่างเพียงพอให้ได้รับการพักผ่อนเต็มที่ และกระตุ้นความสนใจ รวมทั้งจัดกิจกรรมทางศาสนาที่ส่งเสริมด้านจิตวิญญาณ เช่น การสวดมนต์
        
        ใช้เทคนิคการสนทนาที่กระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงความคิด ความรู้สึกเศร้า หรือความรู้สึกท้อแท้
        
        ประเมินโอกาสเสี่ยงของการทำร้ายตนเอง การมีอาการหลงผิด หรือมีอาการประสาทหลอนทุกวัน
        
        ดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยหรือผู้อื่นอย่างทันทีทันใด
  - - - 1.1 Exogenous Depression เกิดจากสาเหตุภายนอก เช่นบุคคลที่เป็นที่รักตาย, การพลัดพรากจากกัน, ความ ผิดหวัง, การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ปรับตัวไม่ทัน
        1.2 Endogenous Depression เกิดจากสาเหตุภายในไม่มีเหตุการณ์ภายในปัจจุบันเสริม ทั้งนี้อาจสูญเสียในอดีต และเก็บกดไว้ในจิตใจ เมื่อหายแล้วจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
    - - ความผิดปกติของฮอร์โมนต่อมไร้ท่อ (neuroendocrine) พบว่าสมองส่วน hypothalamus เป็น ศูนย์กลางในการควบคุมระดับฮอร์โมนในสมองโดยเฉพาะในส่วน hypothalamic-pituitary-adrenal (HPA)
      - ความผิดปกติทางสรีรวิทยาของระบบประสาท (neurophysiology) เช่น คลื่นสมองขณะหลับ
      - ความเครียดทางกายก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ เช่น การผ่าตัด โรคเรื้อรังทางกาย
  - - - Bipolar I: มีอารมณ์คลุ้มคลั่ง เริงร่า (Manic episode) นำมาก่อนโดยอาจมีหรือไม่มี Hypomaniaสลับกับระยะ ซึมเศร้า ภาวะอารมณ์เกิดขึ้นทันทีทันใดและเปลี่ยนเร็ว
      - Bipolar II: มีภาวะอารมณ์เศร้านำมาก่อน อาจจะมีการแปรเปลี่ยนด้านอารมณ์เริงร่าระดับน้อย (Hypomania) มาก่อน โดยไม่มี Mania
    - - เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง
        
        มีการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง รู้สึกไร้พลังอำนาจ
        
        แยกตนเองจากสังคม / ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมบกพร่อง
        
        กระบวนการคิดผิดปกปติ
        
        การเปลี่ยนแปลงของภาวะโภชนาการ
        
        แบบแผนการนอนหลับเปลี่ยนแปลง
        
        การดูแลตนเองบกพร่อง
    - - ยาทางจิตเวช มีความสำคัญมากในการรักษาโรคกลุ่มนี้ ปัจจุบันมียารักษาอารมณ์เศร้าหลายชนิดที่ให้ ผลการรักษาดีรวมทั้งยาควบคุมอารมณ์แปรปรวนในการรักษาผู้ป่วย Bipolar Disorder ส่วนใหญ่ต้องรักษาด้วยยารักษา โรคซึมเศร้า ประมาณ 6 - 9 เดือน ร่วมกับการทำจิตบำบัด การบำบัดด้านความคิด และครอบครัวบำบัด
- - - - ขาดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
        
        อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียวง่าย และมีพฤติกรรมก้าวร้าว
        
        หุนหันพลันแล่น ขาดความยั้งคิด
        
        ละเมิดกฎเกณฑ์หรือบรรทัดฐานของสังคมบ่อยครั้ง
        
        มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงที่ละเมิดต่อสิทธิทางร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น
        
        ไม่มีความรับผิดชอบ ส่งผลให้การใช้ชีวิตครอบครัว การเรียน หรือการทำงานไม่มีคุณภาพ
      - การรักษาด้วยจิตบำบัด
        
        จิตบำบัดเป็นวิธีรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาหรือความผิดปกติทางจิตใจ ประกอบด้วยวิธีบำบัดที่หลากหลาย อาทิ การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (CBT) ซึ่งใช้การพูดคุยให้เข้าใจถึงปัญหาจนนำไปสู่การปรับความคิดและพฤติกรรม
  - - - 1) ยากที่จะตัดสินใจด้วยตนเอง ต้องได้รับคำแนะนำและกำลังใจจากผู้อื่นเป็น อย่างมาก 2) ต้องการให้ผู้อื่นเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องสำคัญๆ ในชีวิต
        3) ไม่สามารถแสดงความไม่เห็นด้วยกับผู้อื่นเนื่องจากกลัวการไม่ยอมรับและ ไม่ให้การช่วยเหลือ 4)ไม่สามารถคิดริเริ่มโครงการหรือทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองเพราะขาดความมั่นใจในการตัดสินใจมากกว่าขาดแรงจูงใจหรือขาดพลังในการที่จะทำ5)ยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากผู้อื่นแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ตนเองไม่พึงพอใจ
- - - - กลุ่มอาการทางจิต ผู้ป่วยจิตเวชฉุกเฉินที่พบเห็นบ่อย ได้แก่
        2.1 โรคจิตเภท Schizophrenia ที่มีอาการหวาดระแวงรุนแรง หูแว่ว ประสาทหลอนหลงผิด 2.2 Mood disorder ที่มีลักษณะคลุ้มคลั่ง พูดมาก พูดเร็ว เคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่หลับนอน หงุดหงิด โกรธง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก้าวร้าว และบางครั้งอาจมีอารมณ์เศร้า (Depression) ร่วมด้วย ซึ่งผู้ป่วยประเภทนี้เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
      - กลุ่มอาการทางสมอง (Organic cause)
        ในรายที่ติดสารเสพติด เช่น แอมเฟตามิน (Amphetamine), เฮโรอีน หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การได้รับการกระทบกระเทือนสมอง ,โรคลมชัก ,โรคสมองเสื่อม
    - - พฤติกรรมรุนแรงทางคำพูด เช่น ตะโกนส่งเสียงดังด้วยความโกรธ ด่าว่าคำหยาบคาย ด่าสาปแช่ง อย่างรุนแรง วิพากษ์วิจารณ์ กระแทกกระทั้น คุกคาม ลักษณะคำพูดบ่งบอกถึงความต้องการที่จะทำร้าย
      - พฤติกรรมรุนแรงต่อร่างกายตนเอง เช่น ชกดี หยิก ข่วน ดึงผม ใช้ศีรษะโขกพื้นผนังใช้กำปั้นชกกำแพง กรีดข้อมือ/แขน กินยาเกินขนาด พยายามทำร้ายตนเอง เป็นต้น
      - พฤติกรรมรุนแรงต่อร่างกายผู้อื่น เช่น ชกต่อย ตบตี ใช้อาวุธ/อุปกรณ์ต่างๆ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยทำ ให้เกิดรอยข่วน บวม ฟกช้ำ กระดุกหัก มีบาดแผล
      - พฤติกรรมรุนแรงด้านการทำลายสิ่งของ เช่น ฉีกเสื้อผ้า ทุบทำลาย/ ขว้างปาข้าวของ เครื่องใช้ เผาบ้าน กำหมัด ขบกราม เป็นต้น
        โดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมรุนแรงสามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้หลายลักษณะ เช่น ขว้างปาข้าวของทำร้าย ร่างกายผู้อื่น
    - - พยาบาลแยกผู้ป่วยให้ออกห่างจากผู้ป่วยที่กำลังมีอาการอาละวาดมากที่สุด ขณะเดียวกันพยาบาลก็ต้องอยู่ห่างจากผู้ป่วย และปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่อย่างนั้นระยะหนึ่ง ระยะนี้พยาบาลและเจ้าหน้าที่อื่นไม่ควรบุกเข้าไปถึง ตัวผู้ป่วย ต้องคำนึงว่าผู้ป่วยที่กำลังอาละวาดนั้นต้องการช่องว่างระหว่างผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ในการเริ่มต้น
      - พยาบาลพูดชักจูงและโน้มน้าวให้ผู้ป่วยคลายความดุร้าย พูดให้ผู้ป่วยค้นหาสาเหตุของความวิตกกังวลที่ ทำให้เขาแสดงพฤติกรรมเช่นนั้น ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความรู้สึกโกรธของตน แสดงความเข้าใจและเห็นใจผู้ป่วย พูด ปลอบโยนให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจ รู้สึกปลอดภัยว่า ยังมีคนเข้าใจผู้ป่วยอยู่
      - ถ้าการใช้คำพูดไม่ได้ผลและผู้ป่วยอยู่ในลักษณะไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ก็ต้องใช้วิธีผูกมัดผู้ป่วย หรือจัดให้อยู่ห้องแยก (วิธีนี้จะใช้เป็นวิธีสุดท้าย เมื่อใช้วิธีอื่นไม่ได้ผล) การผูกมัดทำได้โดยใช้ เจ้าหน้าที่ประมาณ 2-4 คน โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องรู้ขั้นตอนในการดำเนินงานทำอย่างรวดเร็ว ทำอย่างมั่นใจ
      - ต้องคอยสังเกตทั้งพฤติกรรมและคำพูดของผู้ป่วยอย่างรอบคอบ ผู้ป่วยที่อาการซึมเศร้าแล้วมีอาการดีขึ้น ทันทีทันใด พยาบาลต้องสังเกตอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นการแสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นหาทางออกให้กับความทุกข์ เขาได้แล้ว โดยการฆ่าตัวตาย ซึ่งเขาวางแผนไว้แล้ว
      - การเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรม ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะที่จะฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่มักจะไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมกิจกรรม กลุ่มใหญ่ พยาบาลต้องเข้าใจผู้ป่วยและเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม
  - - - พฤติกรรมก้าวร้าวทางคำพูด : ใช้คำพูดตำหนิ ติเตียน วิพากษ์วิจารณ์ พูดในแง่ร้าย เสียงดัง ขู่ตะคอก เอะอะอาละวาด วางอำนาจ วาจาหยาบคาย
        
        พฤติกรรมก้าวร้าวแสดงออกทางร่างกาย : มีสีหน้าบึ้งตึงแววตาไม่เป็นมิตร ท่าทางไม่พอใจ กระวนกระวาย อยู่ไม่นิ่ง ไม่สนใจเรื่องการกินการนอน การขับถ่าย
      - 2.1 พฤติกรรมก้าวร้าวทำลายสิ่งของ ได้แก่ ทุบทำลายสิ่งของเครื่องใช้ ทุบกระจก จุดไฟเผา ปิดประตูเสียงดัง
        2.2 พฤติกรรมก้าวร้าวทำร้ายคนอื่น หาเรื่องวิวาททำร้าย และละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยการกัด การตี การผลัก และการใช้อาวุธทำร้ายคนอื่นให้ได้รับบาดเจ็บ
        2.3 พฤติกรรมก้าวร้าวทำร้ายตนเอง เช่น การหยิกข่วนตนเอง การใช้มีดกรีดข้อมือตนเอง การดึงผม จุดไฟเผาตนเอง การฆ่าตัวตาย เป็นต้น
      - การพยาบาลพฤติกรรมก้าวร้าว
        
        ประเมินสภาพผู้ป่วยเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าว โดยประเมินระดับความรุนแรงของพฤติกรรมก้าวร้าว
        
        พยาบาลควรดูแลผู้ป่วยด้วยท่าทีที่เป็นมิตร สงบ และให้เกียรติผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกไว้วางใจ
        
        3.การวางแผนและการปฎิบัติการพยาบาล •จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยรวมทั้งลดสิ่งกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม โดยลดเสียงดัง ลดแสงสว่าง -ลดการที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อลดสิ่งคุกคามความรู้สึกผู้ป่วย ตรวจค้นผู้ป่วยไม่ให้มีสิ่งของที่อาจใช้เป็นอาวุธได้
        
        • ประเมินอาการและการแสดงที่เป็นสัญญาณของพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การแสดงออกทางสีหน้าบึ้งตึง แววตาไม่เป็นมิตร การเคลื่อนไหวกระวนกระวายอยู่นิ่งไม่ได้
        • ประเมินการเปลี่ยนแปลงระดับความรู้สึกและอารมณ์อย่างเฉียบพลันในผู้ป่วยระยะถอนพิษยา และการศึกษาประวัติจากญาติ เกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวในอดีตมีหรือไม่อย่างไร
  - - - 1) ประวัติการมีพฤติกรรมรุนแรงเป็นปัจจัยทำนายที่ดีที่สุดของการเกิดความรุนแรงในอนาคต
      - 2) ผู้ป่วยที่มีความคิดหวาดระแวงจากอาการของโรคจิต อาการประสาทหลอน
      - 3) ผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น
      - 4)การประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยที่อาจเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
      - มีการวางแผนและความต้องการที่จะดำเนินการตามแผนหรือไม่
        
        มีความปรารถนาและความตั้งใจที่จะทำร้ายหรือไม่
  - - - หมายถึง การกระทำที่เป็นการทำลายชีวิตของตนเอง เนื่องจากความรู้สึกว่าหมดหวังในชีวิต คิดว่าชีวิตไม่มีความหมาย พฤติกรรมที่แสดงออกมีทั้งวางแผนไว้ล่วงหน้าหรือกระทำทันทีทันใด ซึ่งมีการใช้คำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน คือ การทำลายตนเอง
  - - - 1) การฆ่าตัวตายสำเร็จ เป็นการกระทำที่มีความตั้งใจที่จะจบชีวิตของตนเองและทำได้สำเร็จ
      - 2) การพยายามฆ่าตัวตาย หมายถึง การกระทำอย่างตั้งใจด้วยวิธีการต่างๆ ที่เกิดจากความต้องการให้ตนเองถึงแก่ชีวิตแต่ไม่ประสบผลสำเร็จในการกระทำ
      - 3) ความคิดฆ่าตัวตาย หมายถึง มีความคิดต่างๆ ที่คิดว่าตนเองไม่สมควรมีชีวิตอยู่ อาจหมกมุ่นในความคิดเกี่ยวกับการทำลายชีวิตตนเอง จนกระทั่งคิดวางแผนฆ่าตัวตาย
      - 4) การแสร้งกระทำการฆ่าตัวตาย หมายถึง การทำร้ายตนเองแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นการเรียกร้องความสนใจโดยไม่ได้ตั้งใจจะตายจริง
      - 5) การขู่จะฆ่าตัวตาย หมายถึง การพูดหรือการเขียนเกี่ยวกับการตั้งใจจะฆ่าตัวตายแต่ไม่มีการกระทำจริง