Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล, นางสาวณัฐกาญจ์ มาเวียง เลขที่ 7 ค…
หน่วยที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล
ครูผู้สอนจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมทางการศึกษาของผู้เรียนที่ครูสนใจโดยอาศัยหลักของการวัดและประเมินผลทางการศึกษา
พฤติกรรมและลักษณะการแสดงออก
ในการจัดการเรียนการสอนครูจะต้องรู้ว่าจะสอนให้เกิดพฤติกรรมอะไร
ต้องรู้ว่าจะวัดพฤติกรรมนั้นอย่างไร โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้เรียนที่ปรากฏในจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
ลักษณะของการแสดงออกของพฤติกรรมด้านต่าง ๆ เพื่อแนวทางในการนำไปใช้เขียนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมและการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
เครื่องมือในการวัดพฤติกรรมทางการศึกษา
การสังเกต
การสังเกตโดยผู้สังเกตไม่ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์หรือกิจกรรม
การสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง การสังเกตที่ผู้สังเกตไม่ได้กำหนดเรื่องเฉพาะที่มุ่งสังเกตเพียงอย่างเดียว แต่จะสังเกตเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
การสังเกตแบบมีโครงสร้าง การสังเกตที่ผู้สังเกตกำหนดเรื่องเฉพาะที่จะสังเกตเอาไว้แล้ว
การสังเกตโดยผู้สังเกตเข้าไปร่วมในเหตุการณ์หรือกิจกรรม ใช้เวลาในการสังเกตนาน ๆ แลัวบันทึกข้อความภายหลัง
การสัมภาษณ์
การสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง
การสัมภาษณ์ที่ไม่ใช้แบบสัมภาษณ์
ผู้สัมภาษณ์จะต้องจะต้องมีเทคนิคและความสามรถเฉพาะตัวเพื่อให้ได้คำตอบจากผู้ถูกสัมภาษณ์ตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้
การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง
การสัมภาษณ์ที่ผู้สัมภาษณ์จะใช้แบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้นไว้แล้ว
ผู้สัมภาษณ์จะต้องทำความเข้าใจกับสาระสำคัญของการสัมภาษณ์
ในระว่างสัมภาษณ์จะต้องสร้างบรรยากาศที่ดี
การจดบันทึกคำตอบในระหว่างการสัมภาษณ์ต้องจดทันทีและบันทึกเนื้อหาสาระเท่านั้น
แบบวัดเชิงสถานการณ์
รูปแบบ
ให้บุคคลแสดงความรู้สึก หรือแสดงพฤติกรรมด้านสติปัญญา
ให้ตอบสนองว่าตัวเขาเองจะทำอย่างไร
เป็นการจำลองหรือสร้างสถานการณ์เรื่องราวต่าง ๆ
การสร้างเครื่องมือ
กำหนดลักษณะของสิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน
เลือกข้อความ/สถานการณ์ที่มีความยากพอเหมาะกับผู้เรียน
เขียนคำถามเพื่อถามตามใจความเนื้อหาหรือสถานการณ์นั้นตามพฤติกรรมที่สนใจ
นำไปทดลองใช้
ข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี
ครูจะสามารถวัดพฤติกรรมของผู้เรียนในระดับสูงได้ทั้งพฤติกรรมในด้านพุทธิพิสัย และจิตพิสัย
เร้าใจให้ผู้ตอบติดตามอ่านคำถามสร้างความยุติธรรมให้กับผู้ตอบแต่ละคน เพราะแต่ละคนจะได้รับสถานการณ์เดียวกันหมด
ข้อเสีย
ครู/ผู้สร้างแบบวัดเชิงสถานการณ์จะต้องมีความรู้ความสามารถในการสร้างแบบวัดแล้วนำมาผนวกกับเงื่อนไขที่เป็นไปตามเนื้อหาที่ได้สอนผู้เรียนไป
การสร้างแบบวัดเชิงพฤติกรรมนี้จะทำได้ยาก และกำหนดเกณฑ์ในการให้คะแนนนั้นยาก
แบบมาตราส่วนประมาณค่า
รูปแบบ
วัดระดับความถี่/มาก-น้อย ได้
สามารถจัดลำดับของพฤติกรรมของผู้เรียนได้
วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยและพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
การสร้างเครื่องมือ
เลือกรูปแบบของมาตราส่วนประมาณค่า
เขียนข้อความเพื่อแสดงพฤติกรรม หรือคุณลักษณะของสิ่งที่จะตรวจสอบ
กำหนดพฤติกรรมที่จะวัด/บ่งชี้ หรือแสดงคุณลักษณะของสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ
ตรวจสอบข้อความว่าชัดเจนหรือไม่/ซ้ำซ้อนหรือไม่
กำหนดลักษณะของสิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน
นำไปทดลองใช้/ปรับปรุงแก้ไข(หาคุณภาพของเครื่องมือ)
ข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี
ครูผู้สอนจะได้ระดับของพฤติกรรมของผู้เรียนว่ามีมากน้อยเพียงใด
สามารถนำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้
นำเอาระดับพฤติกรรมนั้นไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในการปรับปรุงผู้เรียนต่อไป
ข้อเสีย
พฟติกรรมหรือคุณลักษณะของผู้เรียนที่จะวัดนั้นต้องชัดเจน (จะสื่อความหมายไม่ตรงกัน)
แบบสอบถาม
รูปแบบ
แบบสอบถามปลายเปิด
เป็นแบบสอบถามที่ไม่กำหนดคำตอบไว้
ใช้ในกรณีที่สร้างแบบสอบถามเพื่อวัดพฤติกรรมด้านเจตคติเป็นส่วนใหญ่
แบบสอบถามปลายปิด
แบบตรวจสอบรายการ
แบบมาตราส่วน
จัดอันดับ
ฯลฯ
การสร้างเครื่องมือ
กำหนดชนิดของแบบสอบถาม
กำหนดข้อคำถาม
กำหนดประเด็นหลักหรือพฤติกรรมหลักที่จะวัดให้ครบถ้วนครอบคลุม
สร้างข้อคำถามตามจุดมุ่งหมาย
กำหนดจุดมุ่งหมายของแบบสอบถาม
ตรวจทานแก้ไขปรับปรุง/นำไปทดลองใช้/นำมาปรับปรุง
นำไปทดลองใช้
นำผลจากข้อ 6 และ 7 มาปรับปรุง
แบบตรวจสอบรายการ
รูปแบบ
คำถามจะเป็นคำว่า ใช่/ไม่ใช่
ไม่ใช่การวัดความถี่ในการกระทำแต่วัดว่ามีหรือไม่
วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยและทักษะพิสัย
การสร้างเครื่องมือ
กำหนดพฤติกรรมที่จะวัด/บ่งชี้ หรือแสดงคุณลักษณะของสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ
เขียนข้อความเพื่อแสดงพฤติกรรม หรือคุณลักษณะของสิ่งที่จะตรวจสอบ
กำหนดลักษณะของสิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน
ตรวจสอบข้อความว่าชัดเจนหรือไม่/ซ้ำซ้อนหรือไม่
นำไปทดลองใช้/ปรับปรุงแก้ไข (หาคุณภาพของเครื่องมือ)
ข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี
ง่ายต่อการใช้และสามารถนำไปใช้วัดพฤติกรรมทางการศึกษาด้านจิตพิสัยและด้านทักษะพิสัยร่วมกับการสังเกตได้
ข้อเสีย
พฤติกรรมหรือคุณลักษณะของผู้เรียนที่จะวัดนั้นต้องชัดเจน มิเช่นนั้นจะทำให้สื่อความหมายไม่ตรงกัน
แบบวัดทักษะการปฏิบัติ
รูปแบบ
สามารถวัดได้ทั้งกระบวนการและผลงาน
วัดได้ว่าผู้เรียนมีความสามารถด้านสติปัญญาในระดับใดและมีความสามารถด้านทักษะกระบวนการในระดับใด
เป็นการวัดผลงานที่ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ
ประเภท
แบ่งตามด้านที่ต้องการวัด
การวัดกระบวนการ
การวัดผลงาน
แบ่งตามลักษณะของสถานการณ์
ใช้สถานการณ์จริง
ใช้สถานการณ์จำลอง
แบ่งตามสิ่งเร้า
สิ่งเร้าตามธรรมชาติ
สิ่งเร้าที่จัดขึ้น
การสร้างเครื่องมือ
กำหนดเกณฑ์ในการตัดสินใจ
จัดรูปแบบของเครื่องมือ
กำหนดน้ำหนักคะแนน
ตรวจทานแก้ไขปรับปรุง/นำไปทดลองใช้/นำมาปรับปรุง
วิเคราะห์งานและเขียนรายการ
นางสาวณัฐกาญจ์ มาเวียง เลขที่ 7 ค.6305 รหัสนักศึกษา 6340101107