Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปองค์ความรู้หน่วยที่ ๑-๖ - Coggle Diagram
สรุปองค์ความรู้หน่วยที่ ๑-๖
บทที่ ๑ แนวคิด หลักการ และแนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
จุดประสงค์
เพื่อวัดและประเมินผลในการจัดการเรียนการสอนว่านักเรียนมีความรู้ ทักษะ หรือตุณลักษณะเป็นไปตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ได้กำหนดไว้หรือไม่
ผู้เรียนทุกคนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
การวัดผล
กำหนดตัวเลข หรือสัญลักษณ์ให้กับสิ่งต่าง ๆ ผลที่ได้อาจเป็นตัวเลข หรือสัญลักษณ์
องค์ประกอบของการวัด
เครื่องมือ (สำคัญ)
ข้อมูลที่ได้
ปัญหาหรือสิ่งที่จะวัด
การประเมินผล
การตัดสินคุณค่าของสิ่งที่ได้จาการวัด โดยเทียบเกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้
เกณฑ์มาตรฐาน
เกณฑ์ที่ตั้งเอง
องค์ประกอบของการประเมิน
เกณฑ์
การตัดสินคุฯค่า หรือการตัดสินใจ
ข้อมูล (ที่ได้จากการวัด)
จุดมุ่งหมายของการวัดผลการศึกษา
๓. จัดอันดับว่าใครเก่ง ใครอ่อน ผ่าน-ไม่ผ่าน
๔. เปรียบเทียบทำให้ทราบพัฒนาการของผู้เรียน
๒. วินิจฉัยจุดบกพร่อง
๕. พยากรณ์ คาดคะเนหรือทำนายอนาคตของผู้เรียน
๑. ค้นหาและพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน
๖. ประเมิน เพื่อสรุปคุณภาพของการจัดการศึกษา
หลักการในการวัดผลการศึกษา
๔. เลือกตัวแทนของสิ่งที่จะวัดให้เหมาะสม
๕. ใช้ผลจากการวัดให้คุ้มค่า
๓. เลือกใช้เครื่องมือที่หลากหลาย
๖. มีความยุติธรรม
๒. เลือกใช้วิธีการวัดให้เหมาะสม/เครื่องมือที่มีคุณภาพ
๗. ดำเนินการสอบที่มีคุณภาพ
๑. กำหนดจุดประสงค์ให้ชัดเจนว่าต้องการวัดอะไร
การวัดผลทางการศึกษามีความคลาดเคลื่อน
วิธีลดความคลาดเคลื่อน
วัดหลาย ๆ ครั้ง
ใช้เครื่องมือในการวัดที่หลากหลาย
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน
ต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดเอาไว้
การวัดและประเมินผล
เพื่อให้รู้ว่าบรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้หรือไม่
จุดประสงค์การเรียนรู้
กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เพื่อเป็นเป้าหมายให้กับผู้เรียน
บทที่ ๓ การประเมินตามสภาพจริง
การจัดการเรียนการสอนแบบเดิม
เน้นเนื้อหาเป็นหลัก
ใช้ "ข้อสอบ" เป็นหลัก
ยึดครูเป็นศูนย์กลาง
ใช้คะแนนเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จ
ผู้เรียนไม่มีทักษะในการปฏิบัติจริง
การจัดการเรียนการสอนแบบใหม่
มีกระบวนการวัดผลที่หลากหลาย
ใช้คะแนนร่วมกับคุณภาพ ปริมาณผลงานเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จ
เน้นกระบวนการคิด
ผู้เรียนมีทักษะในการแก้ปัญหา
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
กิจกรรมการเรียนการสอน
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ครบทั้ง ๓ ด้าน คือ พุทธิพิสัย จิตพิสัย ทักษะพิสัย
ตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
สถานการณ์จำลอง
บทบาทสมมุติ
เกมการศึกษา
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ประเมินจากการปฏิบัติ
อยู่บนพื้นฐานของชีวิตจริง
ใช้เครื่องมือหลากหลาย
ร่วมมือกันทุกฝ่าย
สัมพันธ์กับการเรียนการสอน
เคื่องมือในการประเมิน
๓. การสอบถาม
แบบสอบถาม
๔. การทดสอบ
แบบเขียนตอบ
แบบทดสอบปฏิบัติจริง
๒. การสัมภาษณ์
แบบบันทึกการสัมภาษณ์
๕. แฟ้มสะสมผลงาน
๑. การสังเกต
แบบสำรวจรายการ
ระเบียนพฤติกรรม
แบบมาตราส่วนประเมินค่า
ความหมาย
เป็นการประเมินจากการวัดโดยให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริงในสถานการณ์จริง
บทที่ ๔ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล
ครูต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลาง และพฤติกรรมทางการศึกษา พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย โดยในการจัดการเรียนการสอนต้องให้ความสำคัญว่า "ในการสอนแต่ละครั้ง/แต่ละแผนครูต้องการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมทางการศึกษาประเภทใด"
เครื่องมือในการวัดพฤติกรรมทางการศึกษา
๑. ตรวจสอบรายการ
วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย (A) และทักษะพิสัย P
คำถามจะเป็น ใช่/ไม่ใช่ มี/ไม่มี
เป็นการวัดพฤติกรรมที่สนใจหรือไม่เท่านั้น
นิยมใช้กรณีที่มีลำดับขั้นตอนการปฏิบัติงาน และบันทึกผลจากการปฏิบัติ
ข้อดี
ง่ายต่อการใช้
ใช้ร่วมกับการสังเกตได้
ข้อเสีย
พฤติกรรมหรือคุณลักษณะของผู้เรียนที่วัดต้องชัดเจน
ผู้วัดต้องคลุกคลีกับผู้เรียนมาก
๒. มาตรฐานส่วนประมาณค่า
วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย (A) และทักษะพิสัย (P)
วัดระดับความถี่มาก-น้อยได้
มีหลายลักษณะ
มาตราส่วนประมาณค่าแบบบรรยาย
มาตราส่วนประมาณค่าแบบตัวเลข
แบบใช้สัญลักษณ์หรือภาพประกอบ
การจัดอันดับ
ข้อดี
สามารถนำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้
นำเอาระดับพฤติกรรมมาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผู้เรียน
ครูได้ระดับพฤติกรรมของผู้เรียนว่ามีมากน้อยเพียงใด
ข้อเสีย
พฤติกรรมหรือคุณลักษณะที่วัดต้องชัดเจน
๓. การวัดเชิงสถานการณ์
เป็นการจำลองหรือสร้างเหตุการณ์เรื่องราวต่าง ๆ ขึ้น
บุคคลแสดงความรู้สึก หรือแสดงพฤติกรรมด้านสติปัญญา
ตัวอย่าง
เดินผ่านไปเฉย ๆ เพราะ.......
บอกให้ไปข้างหน้าก่อน เพราะ......
ข้อดี
สามารถวัดพฤติกรรมผู้เรียนในระดับสูงได้
ข้อเสีย
กำหนดเกณฑ์ในการให้คะแนนยาก
๗. การวัดผลภาคปฏิบัติ
สอดคล้องกับการประเมินสภาพจริง
วัดพฤติกรรมทักษะพิสัย (P) และพุทธิพิสัย (K)
๔. การสังเกต
การสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง (ไม่เหมะ)
การสังเกตแบบมีโครงสร้าง (ควรใช้)
วัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย (P) และจิตพิสัย (A)
๖. แบบสอบถาม
วัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย (K) จิตพิสัย (A) ทักษะพิสัย (P)
เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันมาก
แบบสอบถามปลายเปิด
ไม่กำหนดคำตอบ ตอบได้อย่างอิสระ
แบบสอบถามปลายปิด
มีตัวเลือกคำตอบให้
๕. การสัมภาษณ์
วัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย (K) จิตพิสัย (A) ทักษะพิสัย (P)
แบบไม่มีโครงสร้าง (ไม่เหมาะ)
ไม่จำเป็นที่ต้องใช้คำถามเหมือนกันหมด
แบบมีโครงสร้าง (เหมาะ)
ใช้แบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้นมาแล้วในการสัมภาษณ์
ข้อดี
จัดหมวดหมู่ข้อมูลได้ง่าย สะดวกในการวิเคราะห์
ข้อเสีย
ไม่มีความยืดหนุ่น เพราะต้องถามตามแบบสัมภาษณ์
บทที่ ๖ แนวทางการวัดและประเมินสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทางการศึกษา
ต้องใช้วิธีที่หลากหลาย เหมาะสมกับพัฒนาการ ศักยภาพของเด็ก
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้กำหนดแนวทางการศึกษา เกี่ยวกับคนพิการไว้ว่า "การจัดการศึกษาให้บุคคลมีสิทธิโอกาสเสมอภาคกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า ๑๒ ปีที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย"
การจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)
ประเมินความรู้คงวามสามารถ ทักษะ และความพร้อมพื้นฐาน
วางแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)
จุดเด่น
ความสามารถหรือศักยภาพในปัจจุบัน
จุดด้อย
สิ่งที่นักเรียนไม่สามารถทำได้ในสาระการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑ ไม่เหมาะกับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษทางการศึกษาที่เรียนรวมอยู่ด้วย
จุดมุ่งหมายของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
๒. เพื่อประเมินพัฒนาการและผลการเรียนรู้ของนักเรียน
๓. เพื่อตัดสินผลการเรียน ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑
๑. เพื่อประเมินความรู้ความสามารถพื้นฐานและความจำเป็นพิเศษ เพื่อวางแผนการจัดการเรียนรู้
วัด/ประเมิน
IEP
วัด/ประเมิน
เกณฑ์
IEP
แนวทางการวัดและประเมิน
แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP)
บทที่ ๒ พฤติกรรมทางการศึกษา
บลูม และคณะได้ร่วมกันศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้ครูผู้มีความเข้าใจตรงกัน และยึดถือเป็นแนวในการกำหนดจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาได้อย่างสอดคล้อง
พฤติกรรมด้านจิตพิสัย (พฤติกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับจิตใจ)
เห็นคุณค่า รู้สึกซาบซึ้งยินดี และมีเจตคติที่ดีต่อสิ่งนั้น
จัดระบบค่านิยม เห็นความแตกต่างในคุณค่า แก้ไขความขัดแย้ง สร้างปรัญญาหรือเป้าหมายให้กับตนเอง
ตอบสนอง มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จัดขึ้น
สร้างลักษณะนิสัยจากค่านิย ทำให้เป็นคุณลักษณะหนึ่งของชีวิต
รับรู้ สัมผัสสิ่งเร้าผ่านทางประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น หู ตา
พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย (ความสามารถในด้านกล้ามเนื้อ/ร่างกาย)
การปฏิบัติได้ด้วยตนเอง สามารถปฏิบัติได้ด้วยความเชื่อมัน
การตอบสนองที่ซับซ้อน กระทำหรือปฏิบัติงานที่ซับซ้อนได้อย่างชำนาญ
การตอบสนองตามแนวชี้แนะ พัฒนาทักษะ เลียนแบบตามผู้แนะนำหรือครู ลองผิดลองถูก
การดัดแปลง พัฒนาวิธีการเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การเตรียมความพร้อม เตรียมตัวกระทำหรือปรับตัวให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะทำ
การริเริ่ม (ขั้นสูงสุด) สร้างสรรค์ผลงานใหม่ ด้วยวิธีการที่ตนคิดขึ้นมา
การรับรู้ การรับ สัมผัสสิ่งเร้าผ่านทางประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น หู ตา
พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย (ความรู้ความสามารถของสมอง)
๓. การนำไปใช้ ความสามารถในการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่
๔. การวิเคราะห์ ความสามารถในการแยกสิ่งต่าง ๆ ออกเป็นส่วนย่อย ซึ่งการวิเคราะห์จะแตกต่างกันแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
๒. ความเข้าใจ ความสามารถในการจับใจความ การแปลความหมาย การสรุป หรือขยายความ
๕. การสังเคราะห์ ผสมผสานส่วนย่อย ๆ เข้าเป็นเรื่องราวเดียวกันอย่างมีระบบและพัฒนาสู่แนวคิดใหม่
๑. ความรู้ เป็นความสามารถในการเก็บรักษามวลประสบการณ์ต่าง ๆ จากการอ่าน ดู ฟังและพูด
๖. การประเมินค่า ความสามารถในการตัดสิน สรุปเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ โดยมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑ (แทนหลักสูตร ๒๕๕๔)
๓. สมรรถนะ
๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๒. จุดหมาย
๕. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
๑. วิสัยทัศน์
๖. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
พฤติกรรมการเรียนรู้
พฤติกรรมด้านเจตคติ (Attitude : A) ตรงกับพฤติกรรมด้านจิตพิสัย
พฤติกรรมด้านกระบวนการเรียน (Process : P) ตรงกับพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
พฤติกรรมด้านความรู้ (Knowledge : K) ตรงกับพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย
ความสำคัญการกำหนดมาตราฐานการเรียนรู้
เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน
เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพการศึกษา
บทที่ ๕ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลในศตวรรษที่ ๒๑
ต้องเป็นการวัดและประเมินผลสภาพที่แท้จริง ยึดการปฏิบัติเป็นสำคัญและสัมพันธ์กับการเรียนการสอน บูรณาการวิธีการประเมินและใช้เครื่องมือที่หลากหลาย สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมงานของผู้เรียน นำเทคโนโลยีมาใช้ในการวัดและประเมินผล
แนวคิดหลักของการจัดการเรียนรุ้
การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ ๒๑
องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียน
ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ ๒๑
๒. ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตรกรรม
๓. ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
๑. สาระวิชาหลัก
๔. ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ
คนทุกคนต้องเรียนรู้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมหาลัยและตลอดชีวิต คือ 3R x 7C
วิธีการวัดและประเมินทักษะในศตวรรษที่ ๒๑
๒. การปฏิบัติ
๓. ตามสภาพจริง
๑. การสื่อสารส่วนบุคคล
๔. แฟ้มสะสมงาน
จุดเน้น
๒. นำผลสะท้อนจากการปฏิบัติของผู้เรียนมาปรับปรุงแก้ไขงาน
๓. ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการวัดและประเมินผล
๑. สร้างความสมดุลในการประเมินเชิงคุณภาพ
๔. สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมผลงาน
แนวทางการวัดและประเมินทักษะ
๑. วัดและประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ประเมินเพื่อให้รู้จุดเด่น จุดที่ต้องปรับปรุง
ผู้สอนต้องใช้เครื่องมือการประเมินที่หลากหลาย
๒. วัดและประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียน
เกิดสมดุลคุณภาพที่สอดคล้องพัฒนาดีขึ้นไปทิศทางเดียวกัน
ให้โอกาสผู้เรียนแสดงความรู้ความสามารถด้วยวิธีที่หลากหลาย