Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ(Pathophysiology of Respiratory System),…
ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ(Pathophysiology of Respiratory System)
โครงสร้างของระบบทางเดินหายใจแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ทางเดินหายใจส่วนบน(upper
airway)
โพรงจมูก คอหอย
(phalynx) กล่องเสียง(larynx)
หน้าที่ของทางเดินหายใจส่วนบน
เป็นทางผ่านของอากาศสู่
ทางเดินหายใจส่วนล่าง
ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่
ทางเดินหายใจส่วนล่าง
ปรับอุณหภูมิและกรองความชื้น
ทางเดินหายใจส่วนล่าง
(Lower airway)
หลอดลม(trachea) หลอดลมเล็ก(bronchi) หลอดลมฝอย(bronchiole)และถุงลม (alveoli)
หน้าที่ของทางเดินหายใจส่วนล่าง
เป็นทางผ่านอากาศเข้าสู่ถุงลม
สร้างน้ำเมือกดักจับสิ่งแปลกปลอม
กลศาสตร์การหายใจ (Mechanic of respiration)
ขณะหายใจเข้า
กะบังลมจะเลื่อนต่ำลงกระดูกซี่โครงจะ
เลื่อนสูงขึ้น
ทำให้ปริมาตรช่องอกเพิ่มมากขึ้น
ความดันอากาศภายในบริเวณรอบๆ
ปอดลดต่ำลงกว่าอากาศภายนอก
อากาศภายนอกจึงเคลื่อนที่เข้าสู่
จมูก หลอดลม ไปยังถุงลมปอด
ขณะหายใจออก
กะบังลมจะเลื่อนสูงขึ้น
กระดูกซี่โครงจะเลื่อนต่ำลง
ทำให้ปริมาตรของช่องอกลดน้อยลง
ความดันอากาศในบริเวณรอบๆ
ปอดสูงกว่าอากาศภายนอก
อากาศในถุงลมปอดจึงเคลื่อนที่จาก
ถุงลมปอดสู่หลอดลม ออกทางจมูก
การหายใจ
คือ กระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต
เพื่อใช้ในกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์เนื้อเยื่อ ประกอบไปด้วย
การหายใจภายนอก (External respiration)
การขนส่งก๊าซ (Transport mechanism)
การหายใจภายใน (Internal respiration)
การระบายอากาศและการไหลเวียนเลือดผ่านปอด
ในการหายใจเข้าหรือออกครั้งหนึ่งๆ ร่างกายจะได้รับอากาศเข้าหรือออกจากปอดเป็น
ส่วนๆ ตามปริมาตรและความจุของปอด ปริมาตรของปอดแบ่งเป็น 4 ส่วนคือ
Tidal volume (TV)
ในผู้ใหญ่จะมีค่าปกติประมาณ 500 ml
Inspiratory reserve volume (IRV)
การหายใจ เข้าตามปกติ มีค่าประมาณ
3,300 ml
Expiratory reserve volume (ERV)
การหายใจออก ตามปกติ มีค่าประมาณ
1,000 ml
Residual volume (RV)
การหายใจออกอย่างเต็มที่ มี ค่าประมาณ 1,200 ml
ความจุของปอด
แบ่งเป็น 4 ส่วนคือ
Inspiratory capacity (IC)
ความจุของปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศที่หายใจเข้าไปได้เต็มที่ผลรวมของ TV + IRV ปกติมี
ค่าประมาณ 3,800 ml
Functional residual capacity (FRC)
ความจุปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศ
คงเหลืออยู่ในปอดหลังจากหายใจออกตามปกติผลรวมของ ERV + RV ปกติ
มีค่าประมาณ 2,200 ml
Vital capacity (VC)
ความจุของปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศหายใจออกเต็มที่หลังจากการหายใจเข้าเต็มที่นผลรวมของ IRV + TV + ERV ปกติมี
ค่าประมาณ 4,800 ml
Total lung capacity (TLC)
ความจุของปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศทั้งหมด
เมื่อหายใจเข้าเต็มที่ หรือเป็นผลรวมของ VC + RV ปกติมีค่าประมาณ 6,000 ml
การแลกเปลี่ยนก๊าซ (Gas exchange)กระบวนการหายใจแบ่งได้ 4 ระดับ ดังนี้
การแลกเปลี่ยนก๊าซระดับปอด (Pulmonary gas exchange)
เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างอากาศภายนอกและเลือดเพื่อรักษาระดับแรงดัน
ย่อยของออกซิเจน
การแลกเปลี่ยนก๊าซระดับหลอดเลือดฝอย (Capillary gas exchange)
เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างเลือดและเซลล์เนื้อเยื่อโดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ กลไกการขนส่งก๊าซในเลือด
การแลกเปลี่ยนก๊าซระดับเซลล์ (Cellular gas exchange)
เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซผ่านเข้าและออกจาก cell membrane
การแลกเปลี่ยนก๊าซระดับเซลล์ขนาดเล็ก (Subcellular gas exchange)
เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซเข้าและออกจากไมโตคอนเดรีย(mitochondria)
การแลกเปลี่ยนก๊าซระดับปอด (Gas exchange)
Ventilation “V” (การระบายอากาศ)
Diffusion (การซึมผ่านของก๊าซ)
Perfusion “Q” (การไหลเวียนของเลือด)
การตรวจสมรรถภาพปอด (Pulmonary Function Tests)
เป็นการตรวจที่สำคัญสำหรับการวินิจฉัย, ประเมินและติดตามผลการรักษาโรคระบบการหายใจเช่น โรคหืด, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรคปอดจากการทำงาน เป็นต้น
การประเมินสมรรถภาพการทำงานของปอด
(Pulmonary function test)
การประเมินสมรรถภาพของระบบการหายใจ (Pulmonary function
test) โดยใช้มาตรวัดปริมาตรอากาศหายใจเข้าและออก ที่ใช้บ่อย
การประเมินก๊าซในหลอดเลือดแดง (Arterial blood gas)
การตรวจ Arterial blood gas ในผู้ป่วย
-ผู้ป่วยหนักและรุนแรง ใน ICU
-ผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน
-ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยออกซิเจน
ขั้นตอนการวิเคราะห์ค่า Arterial Blood Gas : ABG
ขั้นที่ 1 ดูค่า pH (บอกค่า acid-base status)
ขั้นที่ 2 ดูค่า PaCO2 (บอกความผิดปกติของ Respiratory system)
ขั้นที่ 3 ดูค่า HCO3- (บอกความผิดปกติของ Metabolism system)
ขั้นที่ 4 พิจารณาการชดเชย
ขั้นที่ 5 ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน ให้ดูจากค่า PaO2
ความผิดปกติของการหายใจ
การเปลี่ยนแปลงของระบบหายใจ มีสาเหตุส่วนใหญ่จากการทำหน้าที่ของทางเดิน
หายใจและปอดผิดปกติ ลักษณะทางคลินิกที่พบบ่อย คือ
Hypoventilation and Hyperventilation
Dyspnea
plural pain
Abnormal breathing patterns
Restrictive pulmonary function
ภาวะที่การขยายตัวของปอดถูกจำกัด
ความผิดปกติของปอด เนื่องจากการขยายตัว (Expansion) ของปอดถูกจำกัด ทำให้ TLC และ VC ลดลง มีผลให้หายใจเข้าลำบากแต่แรงต้านการไหลของอากาศปกติ
ความยืดหยุ่นของปอดลดลง ทำให้ความจุของปอดลดลง
สาเหตุ
มีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อปอด (parenchymal)
โรคของเยื่อหุ้มปอด
มีปัญหาของ Chest Wall
ภาวะที่การขยายตัวของปอดถูกจำกัดที่พบบ่อย
Atelectasis
การขยายตัว (Expansion) ของปอดไม่สมบูรณ์ หรือภาวะปอดแฟบไม่มีอากาศใน Alveoli
Pulmonary fibrosis
Pulmonary edema
มีการสะสมของของเหลวในเนื้อเยื่อปอด คือ interstitial และ alveoli
Pneumothorax
ภาวะที่มีลมเข้าไปใน pleural space ซึ่งมีผลให้ปอดแฟบ
Pleural effusion or Hydrothorax
ภาวะที่มีการสะสมของเหลวในเยื่อหุ้มปอด ถ้าของเหลวนั้นเป็นหนองเรียกว่า
empyema แต่ถ้าเป็นเลือดเรียกว่า hemothorax
Pleurisy (Pleuritis)
ภาวะที่มีการอักเสบของเยื่อหุ้มปอด
หลักการพยาบาล Restrictive pulmonary function
แก้ไขตามสาเหตุของภาวะนั้นๆ
การแก้ไขภาวะของ Hypoxemia
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
คำแนะนำในการปฏิบัติเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ความจุของปอด
Inspiratory capacity (IC)
ความจุของปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศที่หายใจเข้าไปได้เต็มที่หลังจากหายใจออกตามปกต
Functional residual capacity (FRC)
ความจุปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศ
คงเหลืออยู่ในปอดหลังจากหายใจออกตามปกติ
Vital capacity (VC)
ความจุของปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศหายใจออกเต็มที่หลังจากการหายใจเข้าเต็มที่
Total lung capacity (TLC)
ความจุของปอดที่คิดเป็นปริมาตรของอากาศทั้งหมด
เมื่อหายใจเข้าเต็มที่
การประเมินสมรรถภาพการทำงานของปอด
(Pulmonary function test)
การประเมินสมรรถภาพของระบบการหายใจ (Pulmonary function
test) โดยใช้มาตรวัดปริมาตรอากาศหายใจเข้าและออก ที่ใช้บ่อย คือ
Functional residual volume
Tidal volume (TV)
Force expiratory volume (FEV)
FVC (Forced Vital Capacity)
ความผิดปกติของการหายใจ
Obstructive pulmonary function
แบ่งเป็น 3 กลุ่ม จำแนกตามการอุดกั้น ได้แก่
กลุ่มที่รูท่อทางเดินหายใจอุดตัน
ภายในของรูท่อทางเดินหายใจอุดตันเนื่องจากการมีสิ่งแปลกปลอม เสมหะ
จำนวนมาก หรือการสำลักน้ำหรือสารบางอย่างเข้าไปในรูท่อทางเดินหายใจ
ทำให้ตีบหรือแคบ ซึ่งจะมีผลต่อการไหลของอากาศ
สาเหตุ
ติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และอื่นๆ
การระคายเคืองจากสารพิษ
การสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหลอดลม
กลุ่มที่ผนังท่อทางเดินหายใจบวมหรือหดตัว
ผนังท่อทางเดินหายใจบวมหรือหดตัว ทำให้เกิดภาวะอุดกั้นของทาง
เดินหายใจได้
กลุ่มที่มีแรงดันบริเวณรอบๆ นอกท่อทางเดินหายใจ
แรงดันที่เพิ่มขึ้นจากบริเวณรอบๆ นอกท่อทางเดินหายใจ
เป็นสาเหตุทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ เนื่องจากมีการสูญเสียแรงตึงตัว
ของผนังถุงลม(alveolar)
ซึ่งพบได้ในโรคถุงลมโป่งพอง (emphysema) หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease or COPD) คือมีลมหรืออากาศอยู่ในส่วนของ terminal bronchiole และมีการท าลายผนังของถุงลมจึงทำให้มีลักษณะโป่งออกของถุง
หลักการพยาบาล Obstructive pulmonary function
รักษาทางเดินหายใจให้โล่ง
การแก้ไขภาวะของ Hypoxemia
แนะนำภาวะโภชนาการ
ภาวะการหายใจล้มเหลว (Respiratory failure)
การที่ระบบหายใจไม่สามารถทำหน้าที่ระบายอากาศ และแลกเปลี่ยนก็าซได้
เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
Acute respiratory failure การหายใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน
Chronic respiratory failure การหายใจล้มเหลวอย่างเรื้อรัง
สาเหตุ Respiratory failure
ความผิดปกติที่ปอด
ความผิดปกติที่ช่องทรวงอกและเยื่อหุ้มปอด
ความผิดปกติที่ระบบประสาทส่วนกลาง
ความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
ความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด
พยาธิสรีรวิทยา Respiratory failure
การระบายอากาศน้อยกว่าปกติ
คือ ความผิดปกติของการแลกเปลี่ยนก๊าซ ไม่สามารถเอาอากาศเข้าไปในถุงลม
ส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซได้เพียงพอ
การระบายอากาศกับการไหลเวียนของเลือดไม่สมดุลกัน (V/Q) Mismatch
คือความไม่สมดุลกันของสัดส่วนการกระจายของอากาศในถุงลม (VA) กับเลือด
ที่ผ่านถุงลม (Q)
การลัด (right to left shunt)
เป็นกลไกการแลกเปลี่ยนก๊าซ
ผิดปกติ
การสูญเสียการซึมซ่านของก๊าซ (diffusion impairment)
พบได้ในกรณี เนื้อปอดลดลงหรือหลอดเลือดฝอยถูกทำลาย
อาการและอาการแสดงของภาวะการหายใจล้มเหลว
Respiratory system หายใจเร็ว หายใจลำบาก
Cardiovascular System ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง อาจมีหัวเต้นผิดปกติ
Central nervous system ระดับความรู้สึกเปลี่ยนไป สับสน ไม่มีสมาธิ เอะอะ
กระสับกระส่าย
Hematologic effect เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น (polycythemia) เพื่อเพิ่ม
ออกซิเจนในเลือด
Acid-base balance เมื่อภาวะ Hypoxemia รุนแรง เลือดจะเป็นกรดมากขึ้น
กระตุ้นการหายใจเร็วขึ้น เป็นภาวะ Compensate เพื่อลดความเป็นกรด
การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดงของภาวะการหายใจล้มเหลว
Arterial Blood Gas
Chest X-ray (CXR)
หลักการรักษาพยาบาลภาวะหายใจล้มเหลว
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
การให้ออกซิเจนแก้ไขภาวะ Hypoxemia
รักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลว
นางสาววรรณภา แหลมกีก่ำ UDA6380063