Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่1 มโนทัศน์การพยาบาลผู้สูงอายุ - Coggle Diagram
บทที่1 มโนทัศน์การพยาบาลผู้สูงอายุ
1.ความหมายเเละประเภทผู้สูงอายุ
1.2)การพยาบาลผู้สูงอายุ หรือการพยาบาลผู้สูงอายุ ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการชราภาพและปัญหาของผู้สูงอายุทั้งทางร่างกายและจิตใจ อารมณ์ เศรษฐกิจสังคม
1.1)การเเพทย์สาขาวิชาเฉพาะทางที่ให้การรักษาผู้สูงอายุ
1.3) ความหมายผู้สูงอายุใช้นิยามผู้สูงอายุดังนี้ เกณฑ์แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกใช้อายุ 60 ปีเป็นเกณฑ์ ผู้สูงอายุกำหนดเป็นผู้อายุเกิน 60 ปี
กลุ่มที่สองใช้อายุ 65 ปี
1.4) การเเบ่งช่วงอายุของความสูงแบ่งเป็น 3 ช่วง
3 วัยชราตอนปลาย อายุ 80 ปีขึ้นไป
วัยกลางคน อายุ 71-79 ปี
อายุน้อย (60-69 ปี)
1.5)อายุขัยหรืออายุคาดเแลี่ย
2.นิยามที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ
2.2) องค์การสหประชาชาติให้คำจำกัดความ "ผู้สูงอายุ" ว่าเป็นประชากรของทั้งชายและหญิงที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
2.3) สำหรับประเทศไทย "ผู้สูงอายุ" ตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. พ.ศ. 2546 หมายความว่า บุคคลที่มีอายุเกินหกสิบปีบริบูรณ์และมีสัญชาติไทย
2.1) ผู้สูงอายุ หรือบางคนเรียกว่า สูงวัย เป็นคำที่บ่งบอกถึงจำนวนการสูงวัยที่เข้าสู่วัยสูงอายุตามความนิยมตั้งแต่แรกเกิดหรือทั่วไปเรียกว่าคนเเก่หรือคนชรา
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากร
-สูงอายุใน ประเทศไทย ปัจจุบันสังคมไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรศาสตร์ครั้งใหญ่คือการเข้าสู่สังคมสูงวัยตามสัดส่วนของประชากรวัยทำงานและวัยเด็กที่ลดลงตามอัตราการเกิดและอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้ประชากรไทยโดยเฉลี่ยมีอายุยืนยาว
3.สังคมผู้สูงอายุ
3.2) สังคมสูงวัยคือเมื่อจำนวนประชากร ประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็น 20% หรือประชากรอายุ 65 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 14% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ
3.3)ระดับของสังคมสูงวัยเป็นสังคมที่มีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทุกประเทศทั่วโลกได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยในช่วงเวลาต่างๆ ตามความเจริญ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและอายุขัยของผู้คน
3.1) ระดับการเข้าสู่สังคมสูงวัยหรือสังคมสูงวัย ได้แก่ มี ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งชายและหญิง มากกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด หรือมากกว่า 7% ของประชากรทั้งหมดอายุ 65 ปีขึ้นไป
5.นโนบายเเละมาตราการเกี่ยวกับผู้สูงอายุ
5.1) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2535
ได้มีบทบัญญัติที่กำหนดหลักการใความช่วยเหลือผผู้สูงอายุดังนี้
หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย
มาตรา 40 บุคคลย่อมมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมดังต่อไปนี้ (6) เด็ก เยาวชน สตรี ผู้งอายุ
ผู้พิการหรือทุพพลภาพย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองในการดำเนินกระบวนการพิจารณา คดีอย่างเหมาะสม
หมวด5แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
มาตรา 53 บุคคลซึ่งมีอายุเกินหกสิบปี บริบูรณ์และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ
มีสิทธิได้รับสวัดิการสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะอย่างสมศักดิ์ศรี
มาตรา 80 รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบายด้านสังคม การสาธารณสุข การศึกษา และวัฒนธรรม
มาตรา 84 รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ
5.2) นโยบายรัฐบาลด้านผู้สูงอายุ ปี 2554
ได้กำหนดนโยบาย การบริหารราชการแผ่น ดินไว้โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ นโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก และนโยบายหลักในการบริหารประเทศ ภายในช่วงระยะเวลา 4 ปี
5.2.1 นโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรกการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
5.2.2 นโยบายหลัก ในการบริหารประเทศภายในช่วงระยะเวลา 4 ปี นโยบายหลัก ในการบริหารประเทศ ภายในช่วงระยะเวลา4ปี
5.3 นโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต
1) นโยบายการพัฒนาสุขภาพของประชาชน โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่ในช่วง ตั้งครรภ์ วัยเด็กวัยเจริญพันธุ์วัยบรรลุนิติภาวะ วัยชรา และผู้พิการ สนัยสนุนโครงการส่งเสริมเชาว์ปัญญาของเด็ก
2) โดยการเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสมีคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้น ด้วยยการจัดสิ่งอำนวย ความสะดวกสาธารณะต่างๆสําหรับรองรับผู้สูงอายุและคนพิการ
5.4 แผนผู้สูงอายุแห่งชาติ
เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในสังคมตระหนักถึงผู้สูงอายุในฐานะบุคคลที่มีประโยชน์ต่อสังคม
เพื่อให้ประชากรทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมการและมีการเตรียมการ เข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ
เพื่อให้ผู้สูงอายุดำรงชีวติ อย่างมีศักดิ์ศรี พึ่งตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตและมีหลักประกัน
4.เพื่อให้ประชาชนครอบครัวชุมชนองค์ก รภาครัฐและเอกชนมีส่วนร่วมในภารกิจ ด้านผู้สูงอายุ
เพื่อให้กรอบและแนวทางปฏิบัติสำหรับส่วนต่าง ๆ ในสังคมทั้งภาคประชาชนชุมชน
ฉบับที่ 2 ในปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุและสัดส่วนผู้สูงอายุ (ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ข้ึนไป) ของประเทศไทยเพิ่มข้ึนในอัตราที่รวดเร็ว ทำให้โครงสร้างประชากรของประเทศไทยกำลังเคลื่อนเข้าสู่ ระยะท่ีเรียกว่า"ภาวะประชากรผู้อายุ (Population Aging)"
องค์กรภาครัฐและเอกชนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุได้ปฏิบัติงานอย่างประสานและสอดคล้องกัน
ยทุธศาสตร์ด้านนการเตรียมความพร้อมของประชากรเพื่อวยั สูงอายุที่มีคุณภาพ
ยทุธศาสตร์ด้านการส่งเสริมผู้สูงอายุ
ยทุธศาสตร์ด้านระบบคุ้มครองทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ
ยทุธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนางานด้านผู้สูงอายุระดับชาติและการพัฒนา
บุคลากรด้านผผู้สูงอายุ
ยุทธศาสตร์ด้านการประมวลและพัฒนาองค์ความรู้ด้านผู้สูงอายุและการติดตามประเมินผลการ
ดำเนินการตามแผนผู้สูงอายแห่งชาติ
5.5 พระราชบัญญติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546
พระราชบญัญติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ได้บัญญัติให้ผู้สูงอายุมีสิทธิได้รับการค้มครอง ส่งเสริม และสนับสนุนตามกฎหมาย ตามมาตรา 11 ดังนี้
ได้รับการบริการทางการแพทย์ และการสาธารณสุขที่จัดไว้ โดยให้ความสะดวก และรวดเร็วแก่ผู้สูงอายุเป็นกรณีพิเศษ
2 . ได้รับการศึกษาทางศาสนาและข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แล้วก็่อการดำเนินชีวิต
ได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพหรือฝึกอาชีพที่เหมาะสม
ได้รับพัฒนาตนเอง และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่าย
ได้รับการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยโดยตรงแก่ผู้สูงอายุในอาคารสถานที่
ยานพาหนะ หรือการบริการสาธารณะอื่น
ได้รับการช่วยเหลือด้านค่าโดยสารยานพาหนะตามความเหมาะสม
ได้รับการยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ของรัฐ
8.ได้รับการช่วยเหลือในกรณีที่ได้รับอันตรายจากการถูกทารุณกรรมหรือถูกแสวงหา
ประโยชน์โดยมิชอบด้วยยกฎหมายหรือถูกทอดทิง้
ได้รับการให้คำแนะนำปรึกษาหรือการดำเนินการอื่นที่เก่ียวข้องในทางคดี หรือ
ในทางแก้ไขปัญหาครอบครัว
ได้รับการจัดท่ีพักอาศัยอาหาร และเครื่องนุ่งห่มตามความจำเป็นอย่างทั่วถึง
ได้รับการสงเคราะห์เบี้ยยัง ชีพตามความจำเป็นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
6.ผลกระทบจากการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งในระดับมหภาคก
ส่งผลให้ผลผลิตรวมของประเทศลดลง หากจะรักษาปริมาณผลผลิตไว้ให้ได้ต้อเพิ่มผลิตภาพของแรงงานให้สูงขึ้นเพิ่มปัจจยั การผลิตอื่นใช้เทคโนโลยมากขึ้น
การที่มีแรงงานใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานน้อยลงขณะที่แรงงาน ต้องงรับภาระเลยดูผู้สูงอายุมากขึ้น
จะส่งผลกระทบต่อการออมทั้งในระดับครัวเรือนและระดับประเทศ
ผู้เกษียณอายุเองไม่มีรายได้ ต้องนำเงินออม
พ่อแม่รุ่นใหม่นิยมมีลูกน้อยลงหรือไม่มีเลย จึงไม่เห็นความจำเป็นต้องออมมาก
ด้านนผลกระทบต่องบประมาณของรัฐบาล เกิดจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มข้ึนอย่างรวดเร็ว
ผลกระทบด้านนแรงงานเกิดจากสมรรถนะทางกายภาพที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงาน ลดลง ผลิตภาพแรงงานสามารถเพิ่มให้สูงข้ึนได้โดยการพัฒนาคุณภาพแรงงาน
โดยตรงผ่านนการศึกษา การ ฝึกอบรม การสร้างแรงจูงใจ และโดยผ่านการบริหารจัดการท่ีดี รวมท้งั การปรับปรุงประสิทธิภาพและ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
การขยายเวลาการเกษียณอายุ ออกไปก็ช่วยบรรเทาผลกระทบได้ ปัญหาของสังคมสูงวัยมีตั้งแต่ รายได้ภาษีที่รัฐสามารถจัดเก็บจะลดลง
ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่รองรับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นการขาดแคลนสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
7.ระบบบริการสุขภาพต่างๆ
แนวทางการดําเนินงานจัดบริการสุขภาพแก่ผู้สูงอายุโดยทั่วไป
1.เตรียมวัยผู้ใหญ่ให้มีความพร้อมเข้าสู่วัยผู้สูงอายุโดยให้ความรู้แก่ประชาชนวัยผู้ใหญ่ในการวางแผน ดำเนินชีวิตให้เป็นผู้ที่มีความสุขในวันสูงอายุด้สยการดูเเลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงซึ่งการทำกิจกรรมในสังคมและการออมเพื่อดำรงตนสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิต
3.นำระบบบริการสุขภาพและศักยภาพของสถานบริการทางสุขภาพที่ให้บริการแก่ผู้สูงอายุเช่น
โรงพยาบาลรพ.สต.(โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํบล)เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เข้าถึงบริการ
4.ให้การบริการแก่ผู้สูงอายุโดยไม่ลำเอียง ส่งเสริมสนับสนุนเจตคติทางบวกแก่ประชาชนต่อผู้สูงอายุ
ไม่เลือกปฏิบัต้พัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียมในทุกพื้นที่
5.สร้างฐานข้อมูลและ/หรือพัฒนาฐานข้อมูลผู้สูงอายุที่ดูแลให้เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานองค์กรที่
เกี่ยวข้องเช่น โรงพยาบาล รพ.สต. กลุ่มอาสาสมคั รสาธารณสุข(อสม.) ชมรมผู้สูงอายุ ฯลฯ
6.ให้การดูแลแบบองค์รวม ทั้งร่างกาย จิตใจ สังคมและจิตวิญญาณ ประเมินปัญหาผ้สูงอายุอย่างงครอบคลุม
เพื่อให้การดูแลทุกมิติอย่างเหมาะสม
6.1 การดูแลด้านร่างกาย เน้นการดูแลตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกนั โรค
และคัดกรองโรคแต่เนิ่นๆ
6.2 การดูแลด้านจิตใจ พยาบาลควรดูเเลผู้สูงอายุด้วยความรักและเคารพ แนะนำครอบครัวให้ความสําคัญ
เอาใจใส่ไม่ทอดทิ้ง
6 . 3 การดูเเลด้านสังคมเเละสุงเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ดำเนินงานของชมรมผู้สูงอายุ ประสานงานกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นให้จัดสิ่งแวดล้อมให้ต่อการออกจากบ้านมาร่วมกิจกรรมในสังคม
6.4 การดูแลด้านจิตวิญญาณ ส่งเสริมการใช้ศักยภาพของผู้สูงอายุ เช่นการแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาท้องถิ่น การร่วมกิจกรรมจิตอาสา และการสนับสนุนการดดำรงชีวติ อย่างมีศักดิ์
7.พัฒนาองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการดูแลผู้สูงอายุโดยการศึกษาวิจัยและเปิดหลักสูตร ด้านการพยาบาลผู้สูงอายุ