Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การช่วยเหลือดูแลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีปัญหากระดูกและกล้ามเนื้อที่ไม่ซับ…
การช่วยเหลือดูแลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีปัญหากระดูกและกล้ามเนื้อที่ไม่ซับซ้อน
หน้าที่ของกระดูก
พยุงร่างกาย
ปกป้องร่างกาย
สะสมแร่ธาตุ
สร้างเม็ดเลือด
ช่วยในการเคลื่อนไหว
ความสำคัญของระบบกล้ามเนื้อ
ช่วยให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกายทำงานได้ปกติ
ช่วยให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้
ผลิตความร้อนให้ควาใอบอุ่นแก่ร่างกาย
ช่วยป้องกันอวัยวะไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน
แนวทางการบำบัดรักษาผู้ป่วยทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
1) การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น แนะนำให้พักผ่อนและพยุงส่วนนั้นไว้ การพันรัด ใช้เครื่องช่วยพยุง การดาม การดึง การเข้าเฝือกปูน กายภาพบำบัด เป็นต้น
2) การรักษาแบบผ่าตัด เช่น การทำผ่าตัดเอ็น การผ่าตัดกระดูก การปลูกกระดูก
หลักการทั่วไปในผู้ป่วยทางะบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
ดูแลสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย
ลดอาการเจ็บปวดและไม่สุขสบายจากพยาธิสภาพของโรค เช่น การจัดท่านอนที่ถูกต้องและสุขสบาย
ดูแลจัดกิจกรรมให้ผู้ป่วย
ดูแลจัดอาหารให้เหมาะสมกับโรคและส่งเสริมการหายของกระดูก
ดูแลด้านจิตใจ
ส่งเสริมให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย
การเจ็บป่วยทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อที่ไม่ซับซ้อนและพบบ่อย
ข้ออักเสบ (arthritis)
ภาวะการอักเสบของข้อหรือความผิดปกติที่เกิดกับข้อ
โรคเกาท์ (gouty arthritis)
ปวดข้อซ้ า ๆ กัน
โดยเฉพาะที่ข้อโคนนิ้วหัวแม่เท้า พบก้อนใต้ผิวหนังที่ใบหู ข้อศอก และนิ้วมือ
สาเหตุ ร่างกายมีการเผาผลาญสารพิวรีนและผลิตสารพิวรีนสูงกว่าปกติ
โรคข้อเสื่อม (osteoarthritis)
สาเหตุส่งเสริมที่ทำให้เกิดคือ การเสื่อมของกระดูกอ่อน รูปร่างของข้อผิดปกติ
พยาธิสภาพ มีการเปลี่ยนแปลงที่กระดูกผิวข้อและกระดูกธรรมดา เซลล์กระดูกอ่อน สูญเสียการควบคุมสมดุลระหว่างการทำลาย
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
สาเหตุ เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันและทำให้เกิดกระบวนการอักเสบทั่วร่างกาย
พยาธิสรีรภาพ มีการอักเสบของข้อจะมีปวด บวม แดง ร้อน กดเจ็บและข้อมักฝืดตึงในตอนเช้าซึ่งอาจเกิดจากการคั่งของสารน้ำภายในข้ออักเสบ
โรคกระดูกพรุน (osteoporosis)
คือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระดูก ทำให้ความแข็งแรงของกระดูก
ลดลงหรือ มีมวลกระดูกต่ำ
อาการปวดหลัง (back pain)
สาเหตุ
1) การนั่งตัวงอเป็นเวลานาน การยกของหนัก
2) กระดูกสันหลังเกิดภาวะเสื่อม
3) ภาวะการพร่องของเนื้อกระดูกหรือกระดูกพรุน
4) กระดูกสันหลังหัก
5) ภาวะเครียดด้านจิตใจ
พยาธิวิทยา เกิดจากข้ออักเสบแบบเสื่อมสภาพเกิดขึ้นในกระดูกสันหลังส่วนเอว
อาการปวดกล้ามเนื้อ (muscle pain)
สาเหตุ
1) กล้ามเนื้อต้องเกร็งค้างอยู่นานๆ
2) มีภาวะหดสั้นของกล้ามเนื้อ
3) การออกแรงอย่างหนักของกล้ามเนื้อ
ข้อเท้าแพลง (sprain)
เป็นการบาดเจ็บของเอ็นที่ยึดข้อ เอ็นกระดูกเกิดจากการได้รับแรงมากเกินไป ทำให้เส้นใยเอ็นหรือตรงที่เอ็นเกาะกับกระดูกที่ได้รับบาดเจ็บ ข้อเท้าเป็นตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด เช่น การเล่นกีฬา
การประเมินสภาพผู้ป่วยระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
1) ปวด บวม ขัด ที่ข้อ
2) การเคลื่อนไหวของแขนขาไม่เป็นไปตามปกติ
3) มีก้อน
4) แขน ขา ไม่มีแรงและการชา
5) อาการของกระดูกหักและข้อเคลื่อน
6) เดินกะเผลก
หลักการปฐมพยาบาลและการฟื้นฟูของส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ
ในระยะ 24-48 ชั่วโมงแรก (ใช้หลัก RICE)
R = rest เมื่อพบว่าผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บควรหยุดพักในกิจกรรมนั้น ๆ ทันที
I = ice compress or cold compress คือการใช้ความเย็นในรักษาการบาดเจ็บ
C = compress คือการใช้ผ้ายืดพันส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ
E = elevation support คือการยกหรือพยุงส่วนทีได้รับบาดเจ็บให้สูงเพื่อป้องกันการบวม
ภายหลัง 24-48 ชั่วโมงไปแล้ว (ใช้หลัก HEAT)
H = hot application คือการประคบด้วยน้ำอุ่น
E = exercise บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ ทำช้า ๆ และเบา ๆ โดย
การเกร็งกล้ามเนื้อส่วนนั้น
A = advance exercise บริเวณส่วนที่บาดเจ็บให้มากขึ้น โดยให้กล้ามเนื้อทำงานมากขึ้น
T = training เมื่อส่วนที่บาดเจ็บมีความแข็งแรงขึ้นมาก เริ่มให้ผู้ป่วยทำการฝึกซ้อมตามประเภทกีฬาที่เคยเล่น
กล้ามเนื้อฉีก
เป็นการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาบ่อยที่สุด
หลักในการรักษากล้ามเนื้อฉีกในระยะแรก
1) ลดบวม ลดการอักเสบและการมีเลือดออกภายในกล้ามเนื้อ
2) การนวดและการยืดกล้ามเนื้อ
3) ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
กระดูกหักและข้อเคลื่อน (fracture)
การที่ส่วนประกอบของกระดูกแตกแยกออกจากกัน อาจเป็นการแตกแยกโดยสิ้นเชิงหรือยังมีส่วนที่ติดอยู่
พยาธิวิทยาของกระดูกหัก เมื่อกระดูกหักจะมีสิ่งที่ตามมาคือ มีเลือดออกบริเวณที่กระดูกหักตัว จากกระดูกเองหรือจากเนื้อเยื่อที่ได้รับอันตราย อาจช็อคตามมาภายหลัง เมื่อเลือดหยุดไหลจะมีก้อนเลือดรอบ ๆ กระดูกที่หัก
สาเหตุ
จากความแรง
จากกล้ามเนื้อกระตุกหรือหดตัวเต็มแรง
จากกระดูกนั้นมีโรคหรือพยาธิสภาพอยู่ก่อนแล้ว
จากความเค้นสูง
ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้กระดูกหัก
1) เพศ ผู้ชายมีโอกาสกระดูกหักมากกว่าผู้หญิง
2) คนสูงอายุมีกระดูกเปราะบางกว่าคนอายุน้อย
3) ตำแหน่งของกระดูก บริเวณ แขน ขา หักได้ง่าย
การพยาบาลผู้ป่วยใส่เฝือก
วัตถุประสงค์การใส่เฝือก
พักอวัยวะที่มีกระดูกหักชั่วคราว
ป้องกันความพิการ/ปก้ไขความพิการ
มีการเคลื่อนไหวได้เร็ว
การทำหน้าทีี่ของอวัยวะนั้นๆดีขึ้น
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนเข้าเฝือกปูน
การเตรียมด้านจิตใจ
การเตรียมด้านร่างกาย
การเตรียมเตียงและเครื่องใช้เมื่อผู้ป่วยกลับจากห้องเฝือก
หลักการเข้าเฝือกทุกชนิด
กระชับ
มีความยาวพอครอบคลุมข้อที่อยู่เหนือและใต้
เฝือกนั้นต้องแข็งแรงพอ
เป็นการให้อวัยวะที่มีพยาธิสภาพอยู่นิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวหรือการเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
การพยาบาลผู้ป่วยดึงถ่วงน้ำหนัก (traction)
การใช้แรงดึงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา ลำตัวและศีรษะ แรงที่ใช้ดึงอาจเกิดจากการใช้มือหรือใช้น้ำหนักถ่วง
วัตถุประสงค์ของการเข้า traction
ดึงกระดูกที่หักให้เข้าที่
บรรเทาอาการปวด
บรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ป้องกันและแก้ไขความพิการ
ให้อวัยวะส่วนนั้นอยู่นิ่ง
การพยาบาลเพื่อฟื้นฟูสภาพขณะกลับไปอยู่บ้าน
1) การรับประทานยาตามแผนการรักษา
2) ควรพักผ่อนอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง
3) การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
4) การดูแลแผลผ่าตัด
5) การลงน้ำหนักขาข้างที่ทำผ่าตัด
6) การมาตรวจตามนัด
7) การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
8) การสังเกตอาการผิดปกติ
การฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยที่มีปัญหาทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
posture (ท่า)
เป็นคำที่ใช้รวมทั้งการยืน นั่ง นอน ยกของและลักษณะของร่างกายในการเคลื่อนไหว ท่าที่ดีระบบกล้ามเนื้อและกระดูกสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้พลังงานน้อยที่สุด
body alignment หมายถึง ส่วนของร่างกายอยู่ใน position ที่มีความสุขสบายมากที่สุด และใช้ประโยชน์ได้ไม่ว่าจะท่านั่ง นอนยืนหรือเดิน
หลักเกี่ยวกับการทำงานของร่างกาย (body mechanic)
กล้ามเนื้อทำงานเป็นกลุ่มมากกว่าทำเพียงมัดเดียว
กล้ามเนื้อมัดใหญ่อ่อนเปลี้ยได้น้อยกว่ามัดเล็ก
การเคลื่อนไหวเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้ออยู่ในท่าหดตัวเล็กน้อยเสมอ
การเปลี่ยน position และการมีกิจกรรมจะช่วยรักษา muscle tone
การออกกำลังกาย (exercise)
การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและอดทน
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ความคงทน
หลักในการออกกำลังกาย
1) ถ้าต้องการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ให้ออกกำลังกายโดยให้กล้ามเนื้อหดตัวด้วยแรงสูงสุดหรือเกือบสูงสุด
2) ถ้าต้องการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความคงทนของกล้ามเนื้อต้องออกกำลังโดยใช้แรงต้านเบา ๆ แต่ทำซ้ำๆ กันนาน ๆ จนถึงจุดที่เริ่มล้า
การออกกำลังกายแบ่งได้ 2 ลักษณะ
แบ่งตามผู้ออกแรง
แบ่งตามลักษณะการหดตัวของกล้ามเนื้อ
นางสาวสาลิกา วังคำ เลขที่ 36 รหัส 64180090376