Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคเลือดออกในสมอง - Coggle Diagram
โรคเลือดออกในสมอง
-
-
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ เด็กชายไทยอายุ13ปี เพศ ชาย อายุ 13ปี สถานภาพสมรส - เชื้อชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ระดับการศึกษา
กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมตอนต้น อาชีพ นักเรียน รายได้ -
ที่อยู่ อยู่บ้านเลขที่40/133 หมู่ 5 ต.บ้านประดู่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีหอผู้ป่วย ศัลยกรรมหญิง
วันที่รับไว้ในโรงพยาบาล 25 สิงหาคม 2564วันที่รับไว้ในความดูแล 25 ส.ค 2564
วันที่สิ้นสุดการดูแล 25 ส.ค 2564 แหล่งข้อมูล -
1.พยาธิสภาพ โดยทั่วไปในสภาวะพัก สมองนั้นต้องการเลือดไปเลี้ยงประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ของ cardiac output ( โดยประมาณ 750 มิลลิลิตร/นาที) และประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของ ออกซิเจนที่หายใจเข้าไป ทั้งๆที่ เนื้อสมองมีน้ำหนัก เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวเท่านั้น การทํางานของสมองนั้นไม่ได้ทําหน้าที่เก็บไกลโคเจนเป็นหลัก แต่กลับ ต้องการพลังงานที่ได้จากกระบวนการ phosphorylation ของกลูโคส เพื่อที่จะผลิตพลังงานในรูป ATP ในการนําไปใช้งาน
5.ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.ผู้ป่วยและญาติวิตกกังวลอันเนื่องจากการ
เจ็บป่วยและผลกระทบที่เกิดขึ้น
2.มีโอกาสเกิดแผลกดทับได้ง่าย เนื่องจากการเคลื่อนไหว
ของร่างกายบกพร่อง
3.เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเนื่องจากร่างกายซีกขวาบาดเจ็บ
4.เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากภาวะเลือดออก
ง่ายหยุดยาก
5.มีโอกาสเกิดภาวะความดันในกระโหลกศีรษะสูง
3.อาการแทรกซ้อน
ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกในสมองและได้รับการรักษาบางรายสามารถฟื้นตัวและหายดีได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น อัมพาต ไม่สามารถหายใจได้เอง สูญเสียการทำงานของสมอง เกิดโรคหลอดเลือดในสมอง หรือได้รับผลข้างเคียงจากยาหรือกระบวนการรักษา และในกรณีที่มีเลือดออกในสมองมากยังมีโอกาสที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็วแม้จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็ตาม
6.การพยาบาล
(1) การประเมินและเฝ้าระวังภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูงและการดูแลเพื่อป้องกันภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง ได้แก่ การประเมิน GCS อย่างใกล้ชิดการประเมินสัญญาณชีพโดยเฝ้าระวังภาวะคุชชิงจัดท่าให้นอนศีรษะสูง 30 องศา ดูแลศีรษะ ลำคอ สะโพก ไม่หักพับงอเพื่อให้การระบายเลือดดำออกจากสมองสะดวก ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งและให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ โดยดูแลให้ใช้เครื่องช่วยหายใจกำ หนดตามแผนการรักษา รักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ ดูแลเช็ดตัวลดไข้เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส และใช้ผ้าห่มลดอุณหภูมิเมื่อมีไข้สูงกว่า 38.4 องศาเซลเซียส สังเกตอาการชักเกร็งและให้ยากันชักตามแผนการรักษา งดน้ำและอาหารเพื่อสังเกตอาการ
(2) การดูแลเพื่อป้องกันภาวะหลอดเลือดสมองหดเกร็งและสมองขาดเลือด ได้แก่- ดูแลให้ผู้ป่วยรับยา nimodipine ในรูปแบบยาฉีด 5-10 µd/min IV drip continuous โดยเฝ้าระวังอาการข้างเคียงของยาคือภาวะความดันโลหิตต่า งดให้ยาถ้า SBP < 120 มม.ปรอท และปรับเป็นยรับประทาน 60 มก. วันละ 6ครั้งจนครบ 21 วัน- ให้การดูแลผู้ป่วยคาสายระบายน้าไขสันหลัง (lumbar drainage) เพื่อเป็นการลดปริมาณของเลือดใต้ชั้นอแรกนอยด์ป้องกันภาวะหลอดเลือดสมองหดเกร็งตามมาและลดภาวะ Hydrocephalus โดยการวางถุงระบายบนเตียง- การรักษาสมดุลย์ระหว่างการคงสภาวะสมดุลน้ำให้ปกติ (euvolaemia) กับการรักษาระดับความดันโลหิตให้สูง(induced hypertension) โดยการให้ 0.9% NSS 1,000 ซีซีIV อัตรา 60 ซีซี/ชม. และvoluven IV 20 ซีซี/ชม. ต่อเนื่อง2 สัปดาห์
(3) การดูแลเพื่อป้องกันภาวะเลือดออกซ้ำ โดยการ จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ ลดสิ่งกระตุ้นรบกวน เช่น เสียงดังแสงสว่างจ้าป้องกันไม่ไห้ความดันในช่องอกและช่องท้องสูง ให้คำแนะนำ หลีกเลี่ยงการไอหรือจามแรงๆ กรณีท้องผูกห้ามเบ่งถ่าย พูดคุยกับผู้ป่วยด้วยเสียงอ่อนโยนและสัมผัสผู้ป่วยด้วยความนุ่มนวลทุกครั้ง2และดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดหนีบหลอดเลือดสมองตามแผนการรักษา