Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ผู้ป่วยอายุ 72 ปี เพศ ชาย* CC: หอบเหนื่อยมาก 1 ชั่วโมง ก่อนมาโรงพยาบาล …

- - - - เป็นโรคเบาหวาน เเละความกกันโลหิตสูงมา 6 ปี
      - ไม่เคยแพ้อาหาร สารเคมี หรือเกสรดอกไม้
      - เคยแพ้อาหารทะเล คือกุ้ง
      - เคยนอนโรงพยาบาลด้วยอาการท้องเสีย
        ถ่ายเหลวเมื่อต้นปีที่แล้ว
        หมอบอกว่าเป็นอาหารเป็นพิษ
    - - สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 20 ปี วันละ 5-10 มวน ปัจจุบันยังสูบบุหรี่อยู่
      - ดื่มสุราเป็นครั้งคราวตามเทศกาลงานบุญ ดื่มจนเมา
      - ปกติรับประทานอาหารพื้นบ้าน ก่อนหน้าที่จะมีอาการ เบื่ออาหารเล็กน้อย น้ำหนักลด 1 กิโลกรัมในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
      - ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยง่าย
      - สิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านไม่เป็นปัญหา ไม่มีปัญหามลพิษทางอากาศ ไม่อยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม
- - - - โดยเชื้อโรคที่เข้าสู่ปอดและทำให้เกิดการอักเสบ
        ของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ
      - เชื้อแบคที่เรียที่พบมักได้แก่ เชื้อ Streptococcus pneumoniae, เชื้อ Haemophilus influenzaetype b, เชื้อ Chlamydia pneumoniae, เชื้อ Legionella spp. และเชื้อ Mycoplasma
        
        ชื้อไวรัส ได้แก่ เชื้อ Respiratory Syncytial Virus (RSV),
        เชื้อ Influenza หรือเชื้อไข้หวัดใหญ่
        
        เชื้อราจากมูลนกหรือซากพืชซากสัตว์
    - - ฝุ่น ควัน สารเคมีที่ระเหยได้ ยาเคมีบำบัด
        
        ผู้รับบริการสูบบุหรี่มา : 52 ปี
        pack year= 26 :<3:
  - - - ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานมา 6 ปี :<3:
  - - - ในเด็กเล็กอาจมีอาการปวดท้องท้องอืดท้องเดิน อาเจียน กระสับกระส่ายหรือชัก เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ปอดจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็วร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองมีเลือด มาคั่งบริเวณที่มีการอักเสบหลอดเลือดขยายตัว มีแบคทีเรีย เม็ดเลือดแดง ไฟบริน และเม็ดเลือดขาวออกมากินแบคทีเรีย ระยะนี้กินเวลา 24-46 ชั่วโมงหลังจากเชื้อ โรคเข้าสู่ปอด
    - - ถุงลมปอดขยายตัวมากขึ้นทำให้เนื้อปอดสีแดงจัดคล้ายตับสด ( Red heptization) ใน รายที่มีการอักเสบรุนแรงจะมีการอักเสบลุกลามไปถึงเนื้อปอดด้วย ในเวลาต่อมาจะมี จำนวนเม็ดเลือดขาวเข้ามาแทนเม็ดเลือดแดง ในถุงลมมากขึ้นเพื่อกินเชื้อโรค ระยะนี้ถ้าตัดเนื้อปอดมาดูจะเป็นสีเทาปนดำ ( gray heptization) เนื่องจากมีหนอง ( Exudate) เชลล์โพลีมอร์ไฟ และไฟบรินหลอดเลือดที่ผนั่งถุงลมปอดก็จะหดตัวเล็กลงระยะนี้กินเวลา 3-5 วัน
    - - เมื่อร่างกายสามารถต้านทานโรคไว้ได้เม็ดเลือดขางสามารทำลายแบคทีเรียที่อยู่ในถุงลม ปอดได้หมดจะมีเอนไซม์ออกมาละลายไฟบริน เม็ดเลือดขาวและหนอง ก็จะถูกขับออกมาเป็น เสมหะมีลักษณะเป็นสีสนิมเหล็ก เพราะมีเลือดค้างอยู่เนื้อปอดมักกลับคืนสู่สภาพปกติได้ กา รสอักเสบที่เยื่อหุ้มปอดหายไป หรือพังผืดขึ้นแทนระยะฟื้นตัวในคนหนุ่มสาวและเด็กเร็วมาก แต่ในคนสูงอายุจะช้า ระยะฟื้นตัวในประมาณ 5 วัน ผู้ใหญ่ 2สัปดาห์แต่ไม่ควรเกิน 6 สัปดาห์ ถ้าเกินต้องนึกถึงการมีโรคอื่น ๆ เป็นพื้นฐานเดิม เช่น มะเร็งปอดหรือหลอดลม เป็น
  - - - ผู้ป่วยมรอาหารหายใจหอบเหนื่อย RR: 34 bpm. :<3:
    - - อาการที่เข้ากับผู้รับบริการ :<3:
        
        CC: หอบเหนื่อยมาก 1 ชั่วโมง ก่อนมาโรงพยาบาล
        
        PI: 3 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการไอ มีเสมหะ
        2 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการไอ มีเสมหะปนเลือดเปื้อนผ้า
  - - - Oxygen canular rate 3 L/min
      - ให้ยาพ่นขยายหลอดลม
      - 0.9% NSS 1,000 ml rate 60ml/hr
    - - Bromhexine (8mg) 1 tab po.t.i.d. pc
      - Paracetamol (500mg) 1 tab po pc for fever q 4-6
      - Ceftriaxone 2 mg IV drip q.d.
  - - - ผูู้ป่วยที่ฉีดยาด้วยเข็มสกปรก
      - ทอนซิลอักเสบ
      - เด็กคลอด่อนกำหนด
      - พบในโรคแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีไส ไอกรน
      - ผู้ที่สำลักเศษอาหารเข้าสู่ปอด
      - ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำ :<3:
        
        ผู้รับบริการ อายุ 72 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวานเเละความดันโลหิตสูง :<3:
      - ผู้ที่กินยาสเตอร์รอยด์เป็นประจำ