Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

birth asphyxia, วิธการแก้ไขภาวะที่เกิดขึ้น - Coggle Diagram

- - - - asphyxia ที่เกิดจากศีรษะทารกกดสายสะดือ ในกรณีของการคลอดศีรษะภายหลังลําตัว
      - asphyxia ที่เกิดจากการมีเลือดออกใน fetalplacental unit
      - asphyxia ที่เนื่องมาจากความดันเลือดของมารดาตกลงอย่างมาก
      - asphyxia ที่เกิดขึ้นในขณะคลอด
- - - - ประเมิน Apgar Score ให้เสร็จภายใน 20-30 วินาทีหลังคลอด และให้การช่วยเหลือตามแนวทางที่วางไว้ภายในนาทีแรกเลยโดยไม่ต้องรีรอการประเมิน Apgar Score ที่ 1 นาทีให้แล้วเสร็จก่อน
    - - ให้ผู้ทําคลอดใช้ลูกสูบยางแดง (bulb syringe)
        ดูดน้ําเมือกหรือเลือดออกจากปากและจมูกทารกอย่างนิ่มนวล
      - ให้ประเมิน Apgar Score เมื่อครบเวลา 1 นาที ในตอนนี้ถ้าของเหลวในช่องปากหรือจมูกยังมีมาก ก็ควรดูดออกอีกครั้ง
      - เช็ดตัวทารกซึ่งเปียกด้วยน้ำคร่ำให้แห้งหมดด้วยผ้าที่แห้งและอุ่น ทั้งนี้รวมทั้งศีรษะซึ่งเป็นบริเวณที่มีการไหลเวียนของเลือดดี
      - การที่ให้นอนใต้เครื่องให้รังสีความร้อน
        อย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่ามีความจําเป็นอย่างยิ่งต่อการที่จะส่งเสริมให้การช่วยเหลือชีวิตทารกประสบผลสําเร็จ
    - - No asphyxia (Apgar score 8-10 )
        
        ทารกมีการปรับตัวได้ดี การให้การช่วยเหลือทําตามแนวทางพื้นฐานดังกล่าวข้างต้นก็พอ แต่ควรจะได้ประเมิน Apgar score ที่ 5นาทีต่อไปด้วย
      - Mild asphyxia ( Apgar 6-7)
        
        ทารกกลุ่มนี้มีอาการของ asphyxia ขนาดอ่อน หรือ asphyxia เกิดขึ้นเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆก่อนคลอด โดยการให้ออกซิเจนผ่าน mask
        ที่ถือเหนือหน้าทารก โดยให้ออกซิเจนผ่านความชื้นและความอุ่น และให้อัตราการไหลของออกซิเจน 4-5 ลิตร/นาที
      - Moderate asphyxia (Apgar score 4-5)
        
        ทารกกลุ่มนี้มีการขาดออกซิเจนและมีความเป็นกรดมากกว่า
        หรือถูกกดจากยามากกว่า ทารกมี cyanosis เต็มที่ ความสามารถในการหายใจอ่อนมากทารกกลุ่มนีจะสามารถตอบสนองการหายใจได้ด้วยการใช้ bag และ maskโดยการใช้ออกซิเจนร้อยละ100 และความดันที่เพียงพอที่จะทําให้เกิดการเคลื่อนไหวของทรวงอกและดูแลให้ทารกอยู่ในตู้อบทารก (incubator) หรือใต้ radiantwarmer ในระหว่างนี้อาจจะทําการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆที่จําเป็น
      - Severe asphyxia (Apgar score 0-3)
        
        ทารกกลุ่มนี้มีภาวะขาดออกซิเจนอย่างมาก มีความเป็นกรดใน
        กระแสเลือดสูง ทารกมีลักษณะเขียวคล้ําอย่างมาก ไม่มีความสามารถในการหายใจหรือมีเพียงการหายใจเฮือก ( gasping)
        โดยพิจารณาการใส่ endotracheal tube และช่วยการหายใจ
        ด้วย bag โดยใช้ออกซิเจน 100% พร้อมกับการนวดหัวใจ และทารกควรได้รับการใส่ umbilical venous catheter เพื่อเป็นทางให้โซเดียมไบคาร์บอเนต สารน้ําและยาอื่นๆที่จําเป็น
- - - - การกระตุ้นให้เกิดการหายใจทําได้ โดยผ่านทาง sensory
        stimuli ในระยะต่อมาจะตามด้วยระยะะของการหายใจเฮือกลึกๆ ติดๆ กันเป็นเวลา 4-5 นาทีซึ่งในระยะท้ายจะอ่อนลง และหยุดหายใจเฮือกเข้าสู่ระยะการหยุดหายใจครั้งที่สอง รวมระยะเวลาตั้งแต่ทําให้เกิดtotal asphyxia จนถึงการหายใจเฮือกครั้งสุดท้าย (last gasp) ประมาณ 8 นาทีในระยะการหยุดการหายใจครั้งที่สองนี้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานหลายนาที โดยมิได้รับการช่วยเหลือชีวิต ก็สามารถทําให้ตายได้