Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลเด็กติดเชื้อ HIV, นายพัฒพงษ์ ธรรมสุวรรณ์ 621001062 - Coggle…

การพยาบาลเด็กติดเชื้อ HIV

ความหมาย

 ร่างกายได้รับเชื้อ HIV ทำให้ T-helper lymphocyte ถูกทำลายและลดลง จึงติดเชื้อได้ง่าย เมื่อเด็กติดเชื้อรุนแรงหรือบ่อยๆซ้ำๆ แสดงว่าอาจเขาสู้ระยะโรคเอดส์ อาจแสดงอาการช้าเร็วแล้วแต่ระดับภูมิคุ้มกัน

การแพร่เชื้อHIV

   มี 3 วิธี คือ
 1. เพศสัมพันธ์ (sexual  contact) 
 2. การรับเลือด  
 3.  มารดาสู่ทารก โดยจะมีลักษณะการแพร่ คือ
  - ระหว่างการตั้งครรภ์ HIV จากมารดาเข้าสู่ทารกผ่านระบบไหลเวียน
  - ระหว่างการคลอด การสัมผัสสารคัดหลังในช่องคลอดมารดา
  - หลังคลอด การได้รับ HIV จากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำนม

พยาธิสภาพ

   ประกอบด้วย 2 กลไก คือ      
 1. เชื้อ HIV อาศัยการจับกันระหว่าง GP 120 ขอบเปลือกนอกของไวรัสกับ CD4 molecule ที่อยู่บนผิวของ T helper cell แบ่งตัวแล้วแยกตัวเป็นเซลล์เอชไอวีใหม่ออกมาจาก T helper cell และ T helper cell ก็จะถูกทำลายไป 
 2. แอนติบอดี้ต่อเชื้อเอชไอวี จะจับเชื้อเอชไอวี แล้ว antibody-coated HIV จะถูกฟาโกซัยท์จับกินเข้าไปแต่ไม่ถูกทำลาย โดยจะอาศัยแทน

อาการแสดง

 1. กลุ่มที่เกิดอาการเจ็บป่วยรวดเร็วและรุนแรงอาจมีอาการตั้งแต่อายุ  2-3 เดือน ได้รับเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และไวรัสทำลายการพัฒนาของระบบภูมิคุ้มกัน มักเสียชีวิตภายใน 1-2 ปีแรก  
2. กลุ่มที่มีการดำเนินโรคแบบค่อยเป็นค่อยไป ความรุนแรงของโรคน้อยกว่า มักปรากฏอาการเมื่อเด็กอายุหลายปี

การวินิจฉัย

 1. การตรวจหาเชื้อไวรัส 
 2. การตรวจหา Anti-HIV 
 - อายุน้อยกว่า18 เดือน ต้องตรวจยืนยันการหาเชื้อ HIV 
 - อายุมากกว่า 18 เดือน ใช้การตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อ HIV

การรักษา

 1. การให้ยาต้านไวรัส
 2. ให้ยากระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
 3. การรักษาโรคติดเชื้อหรือมะเร็งที่เกิดขึ้น
 4. การให้ยาป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส
 5. ให้ยารักษาโรคอื่นๆ เช่น ยาแก้คัน ยารักษาโรคปวดข้อ สเตรียรอยด์ ยากันชัก เป็นต้น

การพยาบาล

  1. ดูแลให้เด็กได้รับนมผสมแทนการกินนมจากแม่
  2. ดูแลดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัย  แยกแปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ และของใช้มีคมที่อาจทำให้มีการสัมผัสเลือดหรือน้ำเหลืองได้
  3. แนะครอบครัวให้นำเด็กมาตรวจสุขภาพตามที่แพทย์นัด รวมทั้งรับวัคซีนและกินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะยาต้านไวรัสและยาป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆ
  4. แนะนำครอบครัวให้เด็กได้รับอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะกับวัย และปรุงสุกใหม่ๆ ไม่ควรมีสัตว์เลี้ยงที่ต้องสัมผัสในบ้าน และไม่นำเด็กไปในที่ๆ มีผู้คนจำนวนมาก หรือแออัด เพราะอาจรับเชื้อโรคจากคนรอบข้างได้
  5. แนะนำครอบครัวให้ให้กำลังใจเด็กให้ความอบอุ่นและความเห็นอกเห็นใจในครอบครัว