Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค, นางสาวสาลิกา วังคำ รหัส 64180090376 - Coggle…
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค คือ การทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน หรือความต้านทานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรค หรือทำให้เกิดให้โรคมีความรุนแรงน้อยลง มี 2 วิธี
การสร้างภูมิคุ้มกันโรคทางอ้อม คือ การให้ภูมิคุ้มกันเข้าไปในร่างกายโดยตรง
การสร้างภูมิคุ้มกันโรคทางตรง คือ การให้วัคซีนหรือแอนติเจน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเอง
การให้วัคซีนแก่เด็กมีปัญหาพิเศษ
ทารกเกิดก่อนกำหนด ยกเว้นทารกที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,000 กรัม ควรให้ตับอักเสบบีซ้ำหลังอายุ 1 เดือนไปแล้ว
เด็กที่มีปัญหาชักจากไข้สูง รับวัคซีนได้โดยให้ยาลดไข้ป้องกันไว้ก่อน
หากเด็กมีปัญหาเจ็บป่วยเฉียบพลัน ช่วงที่ถึงกำหนดรับวัคซีนควรเลื่อนการให้วัคซีนออกไปก่อน
การได้รับวัคซีนซ้ำอีก ไม่มีอันตรายใดๆ นอกจากสิ้นเปลือง
เด็กที่มีประวัติครอบครัวเป็นลมชักหรือแพ้วัคซีน ไม่เป็นข้อห้ามในการให้วัคซีน
หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ได้รับวัคซีนหัดเยอรมัน หรือวัคซีนเชื้อมีชีวิตอื่น ควรคุมกำเนิดอย่างน้อย 1 เดือน และไม่ควรให้วัคซีนเชื้อมีชีวิตในหญิงตั้งครรภ์
วัคซีนป้องกันวัณโรค BCG
เป็นวัคซีนชนิดเชื้อมีชีวิต
การเก็บวัคซีน
เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 2 – 8 องศาเซลเซียส
เมื่อผสมแล้วต้องใช้ให้หมดหรือทิ้งในวันเดียว
ขนาดและวิธีการให้วัคซีน
ฉีดเข้าในผิวหนัง บริเวณหัวไหล่ ขนาด 0.1 มิลลิลิตร
ปฏิกิริยาหลังให้วัคซีน
ตุ่มขางซีด
ตุ่มสีแดงนาน 1 เดือน
น้ำขุ่นคล้ายหนอง
วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี HBV
เป็นวัคซีนชนิดน้ำ
ขนาดและวิธีการให้วัคซีน
1 ไอออน มี 1 มิลลิลิตร ฉีดครั้งละประมาณ 0.5 มิลลิลิตร ฉีดตรงกล้ามเนื้อขา
ปฏิกิริยาหลังฉีดวัคซีน
พบได้บางราย อาจมีอาการปวด บวม หรือมีไข้ต่ำๆ
การเก็บวัคซีน
เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 2 – 8 องศาเซลเซียส
วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน DTP
เป็นวัคซีนรวม ชนิดเชื้อตาย
ขนาดและวิธีการให้วัคซีน
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อครั้งละ0.5 มิลลิลิตร ฉีด 3 ครั้งแต่ละครั้งห่างกัน 2 เดือน
ฉีดเด็กอายุ 2 4 6 เดือน และ 1 ปี 6เดือน ฉีดกระตุ้้นอีกครั้งเมื่อเด็กอายุ4-6ปี
ปฏิกิริยาหลังฉีดวัคซีน
มีไข้สูง ร้องกวนได้ บางรายมีอาการปวด บวม แดงร้อน
วัคซีนป้องกันบาดทะยัก TT
ขนาดและวิธีการให้วัคซีน
เด็กที่ได้รับวัคซีนครบตามกำหนด และได้ครั้งสุดท้ายมาแล้ว5 – 10 ปี ให้ฉีดกระตุ้นอีกครั้ง
เด็กที่ได้รับวัคซีนครบตามกำหนด และได้ครั้งสุดท้ายไม่เกิน 5 ปี ไม่ต้องฉีดซ้ำอีก
วัคซีนไอกรนชนิดไม่มีเซลล์
ข้อควรระวังและข้อห้ามใช้
อาการชักภายใน 3 วันหลังได้รับวัคซีน
อาการร้องไม่หยุดนานกว่า 3 ชั่วโมง หรือ เป็นลม ภายใน 48 ชั่วโมง หลังได้รับวัคซีน
มีไข้สูงกว่า 40.5 องศาเซลเซียส ภายใน 48 ชั่วโมง หลังได้รับวัคซีน
ห้ามให้วัคซีนป้องกันไอกรนในรายที่มีอาการทางสมอง ภายใน 7 วันหลังฉีดวัคซีน เช่น ไม่รู้สึกตัว
6.วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ
6.1 วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดกิน OPV
เป็นวัคซีนที่มีชีวิตอยู่ มีภูมิคุ้มกันและอยู่ได้นาน ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโปลิโอในธรรมชาติ ที่ก่อโรคได้
6.2 วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด IPV
เป็นวัคซีนที่ตายแล้วในคนภูมิคุ้มกันผิดปกติ สามารถป้องกันตนเองไม่ให้เป็นโปลิโอได้
ขนาดและวิธีการให้วัคซีน
OPV ให้รับประทานครั้งละ 0.1 – 0.5 มิลลิลิตร (2 หยด)
วัคซีนชุดแรกจะให้ 4 ครั้ง เมื่ออายุ 2 , 4 , 6 เดือน
ครั้งที่ 4 เมื่ออายุประมาณ 1ปี 6 เดือน
การให้วัคซีน 3 ครั้งแรก ควรให้ห่างกันอย่างน้อย 6 สัปดาห์
ให้วัคซีน เสริมกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 4 – 6 ปี
ปฏิกิริยาหลังให้วัคซีน
พบน้อยมาก OPV อาจทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่สัมผัสกับผู้ที่ได้รับวัคซีนเป็นอัมพาต
วัคซีนป้องกันหัด MVV-L
ขนาดและวิธีใช้
ฉีด 2 ครั้ง เมื่ออายุ 9 – 12 เดือน และ 4 – 6 ปี
ปฏิกิริยาหลังฉีดวัคซีน
มีไข้ระหว่างวันที่ 5 – 12 หลังจากได้รับวัคซีน
บางรายมีผื่นพร้อมกับไข้เป็นผื่นแดงคล้ายหัด และหายเอง ภายใน 2 วัน
8.วัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน RVV-L
ขนาดและวิธีใช้
ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ขนาด 0.5 มิลลิลิตร โดยฉีดได้ตั้งแต่อายุ 15 เดือนขึ้นไป
ปฏิกิริยาหลังฉีดวัคซีน
มีไข้ต่ำๆ ปวดตามข้อ
บางรายอาจมีต่อมน้ำเหลืองบริเวณต้นคอโต และมีผื่นจางๆร่วมด้วย
วัคซีนป้องกันโรคหัด - คางทูม - หัดเยอรมัน MMR
ขนาดและวิธีให้วัคซีน
ฉีดครั้งละ 0.5 มิลลิลิตร
บริเวณต้นขาหรือต้นแขน
ฉีดในเด็กอายุ 9 – 12 เดือน และอายุ 4 – 6 ปี
ปฏิกิริยาจากการฉีดวัคซีน
ปวด บวม บริเวณที่ฉีด
มีไข้ ผื่นขึ้นตามตัว
วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบชนิดเจอี VAX
ขนาดและวิธีการให้วัคซีน
ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ครั้งละ 0.5 มิลลิลิตร
เริ่มให้วัคซีนเมื่ออายุ 12-18 เดือน ให้ 2 ครั้งเมื่ออายุ 2 ปี 6 เดือน
ปฏิกิริยาหลังฉีดวัคซีน
มีอาการปวด บวมคัน หรือ เจ็บบริเวณที่ฉีด
มีไข้ต่ำๆ หรือ ปวดศีรษะ และ ชัก
11.วัคซีน ป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ Hib
ขนาดและวิธีให้วัคซีน
ฉีดกล้ามเนื้อขนาด 0.5 มิลลิลิตร
ปฏิกิริยาจากการฉีดวัคซีน
มีความปลอดภัยสูง มีปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อย เช่น ไข้ ปวดบวม
การจัดเก็บ
เก็บไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 2 – 8 องศาเซลเซียส
วัคซีนที่ผสมแล้วต้องใช้ภายใน 24 ชั่วโมง
ถ้าไม่ผสมวัคซีนจะมีอายุ 2 – 3 ปี
12.วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
วัคซีนที่ผลิตขึ้นมักมีความจำเพาะต่อเชื้อที่ใช้เฉพาะเท่านั้น และภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นจะอยู่ได้ไม่นาน จึงจำเป็นต้องฉีดซ้ำทุกปี
ปฏิกิริยาหลังฉีดวัคซีน
ไข้ ปวดเมื่อย เจ็บปวดเฉพาะที่ ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ไข่แบบเฉียบพลัน
ขนาดและวิธีใช้
เด็กเล็กฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นขา
เด็กโตหรือผู้ใหญ่ฉีดบริเวณต้นแขน
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV
วิธีการใช้
หญิงที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุระหว่าง 9-13 ปีฉีด 0.5 มล จำนวน 2 ครั้ง โดยเข็มที่สองห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
หญิงที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเมื่อมีอายุตั้งแต่14 ปีขึ้นไป 0.5 มล. เข้ากล้ามเนื้อ จำนวน 3 ครั้ง โดยเข็มที่สองห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และเข็มที่สามห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
ขนาดและวิธีให้วัคซีน
ฉีดเด็กผู้หญิงอายุ 11 ปี
ฉีด 3 ครั้ง
วัคซีนป้องกันติดเชื้อไวรัสโรต้า
ขนาดและวิธีให้วัคซีน
วัคซีนให้ทางการรับประทาน 3 ครั้ง ที่อายุ 2 , 4 ,6 เดือน
เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงในทารกและเด็กเล็ก อันตรายถึงขั้นให้เด็กเสียชีวิตได้
คำแนะนำที่สำคัญ
ก่อนหยอดวัคซีนและหลังหยอดวัคซีน งดนม 30 นาที
วัคซีนอื่นๆที่อาจเสริมให้หรือทดแทน
1.วัคซีนป้องกัน โรคไข้สุกใส
ขนาดและวิธีใช้
เริ่มฉีดในเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป
เด็ก 1 – 12 ปี ฉีด0.5 มิลลิลิตร ครั้งเดียว
เด็กเกิน 13 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ฉีด 0.5 มิลลิลิตรจำนวน 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกประมาณ 4 – 8 สัปดาห์
ปฏิกิริยาหลังฉีด
ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด พบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
นางสาวสาลิกา วังคำ รหัส 64180090376