Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักสูตรและการจัดการเรียนรู้, ผู้ที่สามารถให้ข้อมูลบางอย่างที่ผู้เรียนต้อง…
หลักสูตรและการจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้แบบยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
**“CIPPA
” **
C/ Construct
ครูสร้างกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสสร้างความรู้ด้วยตนเอง
เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทางสติปัญญา
1. การจัดกิจกรรมเอื้ออำนวยให้เกิดการสร้างความรู้ (Construct)
1.1 ให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้เดิม
1.2 ให้ผู้เรียนได้รับ /แสวงหา/รวบรวมข้อมูล/ประสบการณ์ต่างๆ
1.3 ให้ผู้เรียนได้ศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจ และสร้างความหมายข้อมูล/ประสบการณ์ต่างๆโดยใช้กระบวนการคิดและกระบวนการอื่นๆที่จำเป็น
1.4 ให้ผู้เรียนได้สรุปจัดระเบียบ/โครงสร้างความรู้
1.5 ให้ผู้เรียนได้แสดงออกในสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยวิธีการต่างๆ
I/Interaction
การจัดกิจกรรมที่เอื้ออำนวยให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ (Interaction)
2.1 ให้ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลต่างๆ การพูดอภิปรายกับเพื่อน/ครู/ผู้เกี่ยวข้องกับการทำงาน
2.2 ให้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ กำหนดให้ผู้เรียนสำรวจอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าผู้ที่สามารถให้ข้อมูลบางอย่างที่ผู้เรียนต้องการได้
2.3มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ/กำหนดให้ผู้เรียนสังเกตในบริเวณโรงเรียน
2.4 ให้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางด้านสื่่อโสตทัศน์ วัสดุ และเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ให้ผู้เรียนไปหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ ใบความรู้ ใบงาน หรือใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ในการเรียน
P/Physical Participation
การจัดกิจกรรมที่เอื้ออำนวยให้ผู้เรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย (Physical Participation)
กิจกรรมพัฒนาร่างกาย
-กล้ามเนื้อมัดย่อย/ร้อยมาลัย พับกระดาษ วาดรูป เย็บผ้า
-กล้ามเนื้อมัดใหญ่/กิจกรรมย้ายกลุ่ม ย้ายเก้าอี้ จัดโต๊ะ ยกของ ขุดดิน
P/Process Learning
การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการต่างๆ
ทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
กระบวนการคิด
กระบวนการแสวงหาความรู้
กระบวนการกลุ่ม
ให้ทุกคนมีหน้าที่/ส่วนร่วม
การจัดกิจกรรมที่เอื้ออำนวยให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการ
A /Application
การจัดกิจกรรมที่เอื้ออำนวยให้เกิดการประยุกต์ใช้ความรู้ (Application)
ได้นำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆที่หลากหลาย
ได้ฝึกฝนพฤติกรรมการเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ
เชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติ
การบูรณาการการเรียนรู้แบบเรียนรวม
การศึกษาแบบเรียนรวม
การจัดการศึกษาแบบไม่แบ่งแยกเด็ก
คำนึงความเหมาะสมเป็นรายบุคคล
บริหารจัดการและวิธีการในการให้เด็กเกิดการเรียนรู้และพัฒนาการตามความต้องการ
ลักษณะของการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม
• เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
• เด็กทุกคนเข้าเรียนในโรงเรียนพร้อมกัน
• โรงเรียนจะต้องปรับสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ทุกด้านเพื่อให้สามารถสอนเด็กได้ทุกคน
• โรงเรียนจะต้องให้บริการ สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือต่าง ๆ ทางการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความต้องการจำเป็นนอกเหนือจากเด็กปกติทุกคน
• โรงเรียนสามารถจัดการศึกษาได้หลายรูปแบบในโรงเรียนปกติทั่วไปโดยจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด
หลักการการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม
องค์ประกอบด้านสรีรวิทยา
องค์ประกอบด้านจิตวิทยา
องค์ประกอบด้านสภาพแวดล้อม
การจัดการศึกษาแบบเรียนร่วม -Presentation Transcript
ชั้นเรียนปกติเต็มวัน รูปแบบการจัดเรียนร่วม
ชั้นเรียนปกติเต็มวันและบริการปรึกษา
ชั้นเรียนปกติเต็มวันและบริการครู
ชั้นเรียนปกติเต็มวันและบริการสอนเสริม
ชั้นพิเศษและชั้นเรียนเรียนปกติเด็กจะเรียนในชั้นเรียนพิเศษ
ชั้นเรียนพิเศษใน โรงเรียนปกติ
การบูรณาการเนื้อหาในกลุ่มสาระการเรียนรู้
ลักษณะสำคัญของการสอนแบบบูรณาการ
เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้ กระบวนการ และการปฏิบัติ
เป็นการบูรณาการระหว่างวิชาได้อย่างกลมกลืน
เป็นการบูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนกับชีวิตจริง
เป็นการบูรณาการเพื่อจัดความซ้ำซ้อนของเนื้อหาต่างๆ
เป็นการบูรณาการให้เกิดความสัมพันธ์กันระหว่างความคิดรวบยอดของวิชาต่างๆ เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีความหมาย
ประโยชน์ของการบูรณาการ
เป็นการนำวิชาหรือศาสตร์ต่างๆเชื่อมโยงกันภายใต้หัวข้อเดียวกัน
ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนที่ลึกซึ้ง และมีลักษณะใกล้เคียงกับชีวิตจริง
ช่วยให้ผู้เรียนได้รับความรู้ความเข้าใจในลักษณะองค์รวม
ช่วยให้ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ความเข้าใจจากสิ่งต่างๆที่มีอยู่รอบตัว
เป็นแนวทางที่ช่วยให้ครูได้ทำงานร่วมกัน หรือประสานงานร่วมกันอย่างมีความสุข
ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูได้คิดวิธีการหรือนำเทคนิคใหม่ๆมาใช้
วิธีการบูรณาการ
1. บูรณาการความต่อเนื่องของเนื้อหาวิชา
จัดเรียงหัวข้อเรื่อง
ลำดับเรื่องจากง่ายไปยาก
ให้เกิดความต่อเนื่อง
2. บูรณาการระหว่างวิชา
การจัดระเบียบการสอนมโนทัศน์
ใช้วิชาที่เกี่ยวข้องกันประสานกัน
3. การบูรณาการโดยสร้างข่ายใยแมงมุม
เป็นภาพทัศน์แสดงให้เห็นกระบวนการบูรณาการการเรียน
ทำให้ครูรู้ทิศทางเนื้อหา
สามารถตรวจสอบขอบเขตเนื้อหา
ช่วยครูในการ วางแผนเนื้อหาและแจกกิจกรรมได้อย่างครอบคลุม
4. การบูรณาการตามแนวหลักสูตรที่กำหนด
หลักสูตรนั้นๆมีแนวของหลักสูตร
เน้นการสอนภาษาแบบ เน้นธรรมชาติ
เน้นการสอนแบบโครงการ
การบูรณาการตามแนวหลักสูตรนี้จะเป็นไปตามมโนทัศน์ของแนวคิดหรือทฤษฎีที่เป็น แนวของหลักสูตรนั้
น
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน
หลักสำคัญ
1. ความต้องการหรือความสนใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากที่สุด
3. เน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง และสืบค้นหาความรู้ด้วยตนเอง
4. เป็นการพึ่งพาตนเอง เพื่อให้เกิดทักษะที่จะนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และสามารถเข้าใจวิธีการเรียนรู้ของตนได้ คือรู้วิธีคิดของตนเองและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิธีคิดอย่างเหมาะสม ไม่เน้นที่การจดจำเพียงเนื้อหา
5. เน้นการประเมินตนเอง เดิมผู้สอนเป็นผู้ประเมิน การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเองอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจตนเองได้ชัดเจนขึ้น รุ้จุดเด่นจุดด้อยและพร้อมที่จะปรับปรุงหรือพัฒนาตนเองให้เหมาะสมยิ่งขึ้น การประเมินในส่วนนี้เป็นการประเมินตามสภาพจริงและใช้แฟ้มสะสมผลงานช่วย
6. เน้นความร่วมมือ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน
7. เน้นรูปแบบการเรียนรู้ ซึ่งอาจจัดได้ทั้งในรูปเป็นกลุ่มหรือเป็นราย
วิเคราะห์บทความเกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนการสอน
1. การจัดการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญหรือผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเป็นหัวใจสำคัญสู่การปฏิรูปการศึกษา ในฐานะที่เป็นครูจึงควรศึกษาการจัดการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญให้ละเอียดลึกซึ้ง เพื่อนำไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ดี พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนเก่งและคนดี เป็นครูที่มีหน้าที่ มีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษา
2. การจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญหรือผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สามารถทำได้โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ การเรียนแบบประสบการณ์ การเรียนแบบอภิปัญญา การเรียนแบบส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนแบบทำโครงการ ซึ่งจากการศึกษาและประสบการณ์ในการสอนพบว่านักเรียนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการเรียนรู้และสามารถจดจำที่เรียนรู้ได้นานกว่าการท่องจำ
4. การปรับประยุกต์ใช้หลัก 5 ค ได้แก่ ค้น คว้า คิด คาย คณะ สำหรับใช้ในเนื้อหาสาระที่เหมาะสมกับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เช่น เรื่อง ส่วนประกอบของพืช กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โดยการให้นักเรียนลงพื้นที่สำรวจส่วนประกอบของพืช หากนักเรียนไม่เข้าใจสามารถสอบถามเพื่อน พี่ ภารโรง และครูได้ จากนั้นให้นักเรียนวาดภาพหรือเขียนส่วนประกอบของพืชมาร่วมกันอภิปราย ลักษณะและหน้าที่ของส่วนประกอบของพืช และทำใบงาน
3. ได้เห็นยกตัวอย่างการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่เป็นรูปธรรมทุกวิชา ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งต้องสอนทุกกลุ่มสาระวิชา แต่ไม่ได้ถนัดทุกกลุ่มสาระ จึงได้แนวคิดในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และศึกษาเพิ่มเติมเพื่อปรับกลยุทธ์ในการสอนให้ดียิ่งขึ้
น
ผู้ที่สามารถให้ข้อมูลบางอย่างที่ผู้เรียนต้องการได้
ในบริเวณโรงเรียน
2.3 ให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น กำหนดให้ผู้เรียนสังเกต
การกินอาหารของสัตว์หรือรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของต้นไม้ชนิดต่างๆ