Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

(Nasopharyngeal carcinoma Stage IV) with Hypovolemic shock with Chronic…

- - - - WHO type IIA: NK-SCCA, differentiated
      - WHO type IIB: NK-SCCA, undifferentiated
- - - - เพื่อให้ผู้ป่วยสุขสบาย บรรเทาอาการปวดลดลง
    - - V/S ปกติ
      - 2.สีหน้าท่าทางดีขึ้น ไม่มีหน้านิ่ว คิ้วขมวด
      - 3.ไม่บ่นปวด คะแนน Pain Score ลดลงเหลือ3-5 คะแนน
      - 4.สามารถนอนหลับพักได้
    - - SD: ผู้ป่วยบอกว่ามีอาการปวดศีรษะมาก ปวดร้าวมาใบหน้าและกระบอกตาขวา
      - OD: -Pain score 9 คะแนน
        -ได้รับยา Morphine 3 มิลลิกรัม ฉีดทางหลอดเลือดดำ
        -ชีพจร 110 ครั้ง/นาที, อัตราการหายใจ 22 ครั้ง/นาที
    - - 1.ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อดูอาการเปลี่ยนแปลง
      - 2.ขออนุญาตผู้ป่วย/ให้เหตุผลก่อนให้การพยาบาลและให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวล
      - 3.จัดท่านอนศีรษะสูง/ท่านอนให้อยู่ในท่าที่สุขสบาย
      - 4.ประเมินอาการและสอบถามลักษณะอาการปวด เวลาและสิ่งกระตุ้นทำให้ปวดเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย โดยประเมินความรุนแรงจากอาการแสดง ได้แก่ สีหน้า ท่าทางและการสอบถามระดับความปวด โดยใช้ pain scale เพื่อวางแผนในการให้การพยาบาลที่เหมาะสมตามระดับความปวด
      - 5.จัดกิจกรรมการพยาบาลให้อยู่ช่วงเวลาเดียวกัน/ไม่รบกวนผู้ป่วยขณะพักผ่อน / นอนหลับ
  - - - ผู้ป่วยไม่มีการติดเชื้อในร่างกาย
    - - ผล WBC เท่ากับ 4,000-11,000 cu/mm
      - 3.ไม่มีอาการและอาการแสดงของการอักเสบหรือการติดเชื้อ คือ ปวด บวม แดง ร้อนบริเวณใบหน้าหรือโพรงจมูก
      - สัญญาณชีพปกติ
    - - SD: -3วันก่อนมาโรงพยาบาลผู้ป่วยบอกว่ามีอาการปวด บวมแดงที่ใบหน้าด้านขวา มีน้ำปนเลือดซึมออกจากจมูกมีกลิ่น
        -อาการแสดงแรกรับ ผู้ป่วยบอกว่ามีอาการปวดศีรษะมาก ปวดร้าวมาใบหน้าและกระบอกตาขวา
      - OD: - ชีพจรแรกรับ 110 ครั้ง/นาที ,Pain score 9 คะแนน
        -แรกรับที่หอผู้ป่วยในชาย Pain score 5, T= 38.6 C
        -WBC = 12.37 x10^3ul
        -Neutrophil=91.2%
        -Lymphocyte=5.9%
    - - 2.ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะโปรตีนจากไข่ขาว เพื่อส่งเสริมภูมิต้านทานในร่างกายของผู้ป่วย
      - 3.ล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังให้การพยาบาล ก่อนและหลังสัมผัสผู้ป่วย และหลังสัมผัสสิ่งขับหลั่ง รวมทั้งการให้การพยาบาลโดยใช้หลักAseptic technique
      - ส่งเสริมให้ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ลดสิ่งรบกวนการนอนต่างๆ เช่น แสงไฟ เสียง เพื่อให้ร่างกายผู้ป่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีมากขึ้นและสามารถกำจัดเชื้อโรคออกไป
      - 5.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา ceftriaxone ตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อกำจัดเชื้อโรคในร่างกาย
      - วัดสัญญาณชีพทุกๆ 4ชั่วโมง เพื่อติดตามอาการของภาวะติดเชื้อในร่างกาย
  - - - OD: อาการแสดงแรกรับผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย
        -ค่าความอิ่มตัวออกซิเจน 90%
        -ค่าความอิ่มตัวออกซิเจน 90%
        -ชีพจร 110 ครั้ง/นาที
        -Hb 10.9 gm%
        -Hct 32.9%
    - - ไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
    - - ระดับความรู้สึกตัวปกติ ไม่มีอาการกระสับกระส่ายสับสน ชัก และหมดสติ
      - ไม่พบอาการเขียว
      - สัญญาณชีพปกติ
      - 4.ค่า Hb อยู่ในระดับปกติ (ค่าปกติ 12-16 g/dl)
      - ค่า Hct อยู่ในระดับปกติ (ค่าปกติ 37-47%)
      - ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดงมากกว่า 95-100%
    - - 2.ประเมินค่า 02 Saturation เนื่องจากเป็นการวัดระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด
      - 3.ประเมินอาการแสดงของภาวะซีดจาก คือ ดูสีของผิวหนัง ซีดเหลือง ตัวเย็น เยื่อบุตาซีด เพื่อประเมินอาการผิดปกติ
      - ปันทึกและประเมินสัญญาณชีพ โดยเฉพาะอัตราการหายใจอยู่ในช่วง 16-20ครั้ง/นาที ลักษณะการหายใจปกติ ไม่มีอาการหายใจเร็ว แรง หรือปักจมูกบาน เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของอาการผิดปกติ
      - 4.ดูแลให้ผู้ป่วยทำากิจกรรมและฟักผ่อนบนเตียง เพราะจะช่วยลดอาการเหนื่อย และลดการใช้ออกซิเจนในการท่ากิจกรรม
      - 5.จัดท่านอนศีรษะสูง เพื่อทำให้กระบังลมเคลื่อนต่ำลงปอดขยายตัวได้เต็มที่เพิ่มพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนแก๊ส
      - 6.ดูแลให้ยา Ferrous fumarate (ธาตุเหล็ก Iron) 1 tab bid pc. ตามแผนการรักษาของแพทย์
  - - - เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถอยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิตได้สมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
    - - 2.ผู้ป่วยยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยด้วยความเป็นมิตร
      - 1.ผู้ป่วยบอกว่าสุขสบาย ไม่รู้สึกเครียดหรือกังวลใดๆ
    - - OD: ผู้ป่วยโรคมะเร็งโพรงจมูกระยะที่4 ปฎิเสธการฉายแสง และเคมีบำบัด
      - SD: ผู้ป่วยมีความคิดเห็นว่าโรคมะเร็งอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว ไม่อยากเสียค่าใช้จ่าย เป็นภาระครอบครัว
    - - ด้านจิตใจ
        
        2.สนับสนุนและแนะนำให้ญาติทำกิจกรรมร่วมกับผู้ป่วยอยู่เสมอ เพื่อสร้างกำลังใจให้กับผู้ป่วย
        
        3.สร้างสัมพันธภาพที่ดีและความเชื่อมั่นในการรักษาของแพทย์และการพยาบาลต่างๆ เพื่อให้ผู้ป่วยไว้ใจและเชื่อมั่นในศักยภาพทางการพยาบาล เพื่อสร้างกำลังใจและความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ป่วยและญาติ
        
        1.เข้าใจและยอมรับพฤติกรรมของผู้ป่วยและญาติ
        
        4.แนะนำให้ผู้ป่วยและญาติปรับตัวและยอมรับกับความเจ็บป่วยในครั้งนี้ และผลที่จะตามมาในอนาคต
        
        5.ดูแลประดับประคองตามแผนการรักษาของแพทย์
      - ด้านร่างกาย
        
        2.แจ้งการพยาบาลให้ผู้ป่วยทราบทุกครั้งและทำกิจกรรมทางการพยาบาลด้วยความเมตตานุ่มนวล
        
        3.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เพียงพอตามแผนการรักษาของแพทย์
        
        4.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาตามแผนการปรึกษาของแพทย์
        
        1.ดูแล personal hygiene และ unit care ให้สะอาดอยู่เสมอ จัดสภาพแวดล้อมให้สะอาด สงบ เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความสุขสบายมากที่สุด
  - - - เพื่อให้อิเล็กโตรไลต์ในร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ
    - - 2.แนะนำการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยรับประทานทีละน้อยแต่บ่อยครั้งจัดอาหารอ่อนและเครื่องดื่มสุขภาพที่ผู้ป่วยต้องการ หลีกเลี่ยงของหมักดองและอาหารรสจัดทุกชนิด
      - 3.แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 2- 3ลิตร/ วัน
      - 4.ดูแลให้ได้รับยาและสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
      - 1.Record I/O ทุก 8 ชั่วโมง
      - 5.ติดตามผลการตรวจทางห้อง Lab
      - 6.รายงานแพทย์ทราบกรณีเกลือแร่ผิดปกติ เพื่อช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
      - 7.ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ Electrolyte imbalance เช่น
        มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง สับสน เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
    - - OD: -ผลการตรวจ Electrolyte Sodium (Na) =130 mmol/L, Potassium(K) = 2.5 mmol/L
        Chloride (Cl) = 87.3 mmol/L,
        CO2= 33 mmol/L
      - SD:ผู้ป่วยคลื่นไส้ อาเจียนเป็นน้ำ 5 ครั้ง ก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการปวดศีรษะ และอ่อนเพลียมาก
    - - 2.ไม่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
      - 3.ไม่มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
      - 1.อิเล็กโตรไลต์ในร่างกายปกติ
      - 4.รู้สึกตัวดี ไม่มีอาการสับสน