Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบาดเจ็บจากการคลอด (Birth Injury) - Coggle Diagram
การบาดเจ็บจากการคลอด (Birth Injury)
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
2) การบาดเจ็บของกระดูก (Bone injuries)
2.1) กระดูกต้นแขนหัก กระดูกตันแขนที่หักส่วนใหญ่จะหักที่ลำกระดูก
การรักษา
ถ้าอาการไม่รุนแรงเป็นรักษาโดยการตรึงแขนให้แนบกับลำตัวเพื่อไม่ให้แขนเคลื่อนไหว 1-2สัปดาห์ แต่ถ้าหากกระดูกแขนหักสมบูรณ์จะรักษาโดยการจับแขนตรึงกับผนังทรวงอก ศอกงอ 90 องศา แขนส่วนล่างและมือขวางลำตัวใช้ผ้าพันรอบแขนและลำตัว หรือใส่เผือกอ่อนจากหัวไหล่ถึงสันหมัด
2.2) กระดูกต้นขาหัก กระดูกตันขาหักส่วนใหญ่มักจะหักที่ส่วนลำกระดูก
แนวทางการรักษา
ถ้ากระดูกไม่หักแยกจากกันรักษาโดยการใส่เฝือกขายาว ประมาณ 3 -4
ถ้ากระดูกหักแยกจากูกันรักษาโดยการห้อยขาทั้งสองข้างไว้กับราวที่ขวางปลายเตียงขาเหยียดตรงให้กันและสะโพกลอยจากพื้นเตียง ดึงขาไว้นาน 23 สัปดาห์
2
.
3) กระดูกไหปลาร้าหัก กระดูกไหปลาร้าหัก มักพบตรงกลางของลำกระดูก
แนวทางการรักษา
ส่วนใหญ่หายได้เองค่อนข้างเร็ว มักเกิดกระดูกงอกใหม่ภายใน 1 สัปดาห์
รักษาโดยให้แขนและไหล่ด้านที่กระดูกไหลปลาร้าหักอยู่นิ่ง ๆ โดยการกลัดแขนเสื้อติดกับตัวเสื้อประมาณ
10 - 14 วัน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ทารกมีโอกาสเกิดกระดูกไหปลาร้าแขนและขาที่ติดผิดรูป
1) การบาดเจ็บที่ศีรษะทารก (Skull injuries)
1.1) ภาวะก้อนบวมน้ำใต้หนังศีรษะ
การรักษา
ไม่จำเป็นต้องรักษาแบบเฉพาะทางจะหายไปได้เองภายหลังคลอด ประมาณ 2 -3
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มารดาและบิดาวิตกกังวลเกี่ยวกับก้อนบวมน้ำที่ใต้ศีรษะทารก
1.2) ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มกะโหลกศีรษะ
การรักษา
ก้อนเลือดจะค่อยๆหายไปเองได้ภายใน 2 เดือน ถ้ามีภาวะตัวเหลืองร่วมด้วยและมีระดับบิลลิรูบินในเลือดสูงจำเป็นต้องได้รับการส่องไฟ ในรายที่ก้อนเลือดขนาดใหญ่อาจรักษาโดยการดูดเลือดออก
ทารกเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตัวเหลืองเนื่องจากมีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มกะโหลกศีรษะที่เกิด
1.3) ภาวะเลือดออกในกะโหลกศีรษะ
การรักษา
ถ้ามีความดันในกะโหลกศีรษะสูง อาจได้รับการรักษาโดยเจาะน้ำไขสันหลังเพื่อบรรเทาอาการความดันในสมอง
ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายทารกถ้าตัวเย็นดูแลให้ได้รับยาระงับการชัก และให้วิตามินเค
ดูแลให้ออกซิเจนถ้าทารกมีภาวะพร่องออกซิเจน
ดูแลให้ได้รับนมและน้ำอย่างเพียงพอ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ทารกเสี่ยงต่อภาวะชักเนื่องจากภาวะเลือดออกในกะโหลกศีรษะ
3. การบาทเจ็บของเส้นประสาท
3.1) การบาดเจ็บของเส้นประสาทที่มาเลี้ยงใบหน้า (facial nerve injury
)
แนวทางการรักษา
ถ้าประสาทที่เลี้ยงใบหน้าเพียงถูกกดอาจหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน ถึงสัปดาห์แต่ถ้าเส้นประสาทขาดต้องได้
รับการทำศัลยกรรมซ่อมประสาท
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ทารกเสี่ยงต่อการสูดสำลักเนื่องจากกล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาต
3.2) การบาดเจ็บของเส้นประสาท Brachial
แนวทางการรักษา
ทำกายภาพบำบัด
ถ้าไม่หายอาจต้องทำศัลยกรรมซ่อมประสาท
ให้แขนไม่เคลื่อนไหว ในท่ากางหมุนแขนออก ข้อศอกตั้งฉากกับลำตัว
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ทารกมีโอกาสเกิดอัมพาตที่แขนถาวรเนื่องจากเส้นประสาทที่มาเลี้ยงแขนได้รับบาดเจ็บ
คืออะไร
การบาดเจ็บที่เกิดกับทารกระหว่างคลอดจากแรงที่กระทำกับทารกโดยตรง และไม่เกี่ยวกับโรคที่มารดาเป็นระหว่างการตั้งครรภ์