Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะ heart failure, อ้างอิง, 💗❣ นางสาวกรรณิการ์ แก้วนวล 621001007 💗❣ -…
ภาวะ heart failure
📌 การวินิจฉัย
-
- ตรวจรังสีเอกซเรย์ปอดและหัวใจ เพื่อตรวจหาความผิดปกติของปอด หัวใจ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อตรวจหาความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ตรวจการทำงานของหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงหรืออัลตราซาวด์หัวใจ เพื่อการทำงานของหัวใจ และหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เช่น การทำงานของลิ้นหัวใจที่ผิดปกติ
- การตรวจอื่นๆ ที่อาจช่วยในการหาสาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว เช่น การตรวจ coronary calcium score เพื่อประเมินหลอดเลือดหัวใจว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบหรือไม่ และในบางรายหากพบว่ามีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงหลอดเลือดหัวใจตีบ อาจจำเป็นต้องได้รับตรวจหลอดเลือดหัวใจโดยการสวนหัวใจฉีดสี เพื่อแก้ไขเส้นเลือดหัวใจที่มีความผิดปกติ
📌 พยาธิสภาพ
- การเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจใน 1 นาที ประมาณ 4-7 ลิตรการ เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ จะชดเชยปริมาณเลือดที่บีบออกจากหัวใจแต่ละครั้ง แต่เนื่องจากการบีบตัวเร็ว มาก ทําให้ปริมาณเลือดที่ลงมาสู่หัวใจห้องล่างไม่เพียงพอ
- การเพิ่มปริมาณเลือด บีบออกจากหัวใจแต่ละครั้งทำให้ปริมาณเลือดกลับสู่หัวใจมาก กล้ามเนื้อหัวใจยืดขยาย เป็นการเพิ่มแรงดันในหัวใจห้องล่างซ้าย เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจยืดขยายมากก็จะหดตัวมาก ทำให้ แรงบีบตัวของหัวใจมากขึ้น ปริมาณเลือดออกจากหัวใจจึงเพิ่มขึ้น
- การหดรัดตัวของหลอดเลือดแดง เป็นการเพิ่มแรงด้านการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายซึ่งมีส่วน สำคัญต่อความต้องการออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ และเป็นแรงเสียดทานต่อการบีบตัวของหัวใจห้องล่าง ซ้ายจึงทำให้หัวใจห้องล่างซ้ายต้องใช้พลังงานมากขึ้นที่จะบีบตัว และการหดรัดตัวของหลอดเลือดแดงจะทำ ให้ความดันในหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้นด้วย
- การคั่งของน้ำและเกลือ เมื่อปริมาณเลือดไปเลี้ยงไวลดลง จะกระตุ้นระบบเรนิน เอนจิโอเทนซีน แอลโดสเตอโรน ทำให้หลอดเลือดหดรัดตัว การหลั่งฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน (aldosterone) ทำให้มีการดูด น้ำและเกลือมากขึ้น ปริมาณเลือดที่กลับสู่หัวใจห้องซ้ายมากขึ้น เป็นการเพิ่มปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจ
- การเพิ่มแรงในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ เป็นกลไกการชดเชยที่เกิดหลังสุด กล้ามเนื้อหัวใจ หนาตัวขึ้น ทำให้แรงในการบีบตัวมากขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจที่โตขึ้น เกิดได้เร็วกว่าการไหลเวียนเลือดจะมา ชดเชยได้ ทําให้ขาดออกซิเจนได้ง่าย หัวใจอ่อนล้าเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวต่อมา
📌 กิจกรรมการพยาบาล
- ลดอาการบวมของร่างกาย มีการควบคุมอาหาร โดย ลดอาหารเค็ม รสจัด ลดอาหารมัน จำกัดน้ำดื่ม
- กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานมากขึ้น ด้วยการดูแลการให้ยาดิจิตาลิสซึ่งทำให้อัตราการเต้น ของหัวใจลดลง การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้น จำนวนเลือดที่ออกจากหัวใจเพิ่มขึ้น ช่วยให้อาการ ต่างๆ ดีขึ้น ซึ่งการให้ยาชนิดนี้ทุกครั้งจะต้องให้ไม่เกินขนาด ถ้าเกินขนาดจะทำให้ชีพจร ช้าลง ไม่สม่ำเสมอ ก่อนให้ยาจะต้องนับอัตราการเต้นของชีพจรถ้าต่ำกว่า 60 ครั้งต่อนาที ควรงดให้ยาไว้ก่อนและรายงานแพทย์
- ลดการทำงานของหัวใจ โดยพยายามลดจำนวนออกซิเจนที่ใช้ในการเผาผลาญของร่างกายให้ลด น้อยลง ได้แก่ การพักผ่อน การให้ออกซิเจน การช่วยเหลือจำกัดกิจกรรมให้ผู้ป่วย ลดภาวะความวิตกกังวล ของผู้ป่วย
- ป้องกันการเกิดอาการท้องผูก แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย ผักและผลไม้ที่มีกาก เพื่อช่วยในการขับถ่าย ผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกต้องออกแรงในการเบ่งขับถ่าย ทำให้เพิ่มการทำงานของหัวใจ มากขึ้น
📌 การรักษา
- แก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เช่น การผ่าตัด การใส่เครื่องมือเพื่อควบคุมการเดิน
- ควบคุมภาวะหัวใจล้มเหลวไม่ให้ลุกลามรุนแรงได้แก่ การใช้ยา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใน การดำรงชีวิต รักษาโรคที่เป็นอยู่ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น
- กำจัดสาเหตุที่ชักนำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
ชนิด📌
- ภาวะหัวใจล้มเหลว ชนิดที่ หัวใจห้องล่างซ้ายทำงานลดลง (Heart failure with reduced EF, HFrEF) ซึ่งจะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวที่สัมพันธ์กับการทำงานของหัวใจห้องล่างซ้ายที่ลดลง โดยที่ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีแผนการรักษาที่ค่อนข้างชัดเจนโดยมีแบบแผนของการให้ยาที่เป็นลำดับขั้นตอน
- ภาวะหัวใจล้มเหลว ชนิดที่ หัวใจห้องล่างซ้ายทำงานปกติ (Heart failure with preserved EF, HFpEF) ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็จะมีอาการเหนื่อยง่ายและบวมได้เหมือนกับผู้ป่วยอีกกลุ่มนึง แต่มีสิ่งที่ต่างกันคือ การทำงานของหัวใจห้องล่างซ้ายที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ในแง่ของการรักษาจะเป็นการมุ่งเน้นหาสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นหลัก ร่วมกับการให้ยาขับปัสสาวะ เพื่อขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย
📌 ความหมาย
ภาวะที่หัวใจไม่สามารถทำงานสูบฉีดเลือดได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ ซึ่งจะส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย ออกแรงได้ลดลง โดยที่ในช่วงแรกอาจสังเกตุได้ว่าเริ่มใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากขึ้น เช่น เดินขึ้นลงบันได้แล้วเหนื่อยเร็วกว่าปกติ ในบางรายที่เริ่มมีอาการรุนแรง อาจเริ่มมีอาการหายใจลำบาก รู้สึกว่าเหนื่อยง่ายขึ้น ออกแรงได้ลดลงอย่างชัดเจน แม้แต่ในขณะที่ทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาบน้ำ กินข้าว ก็ยังรู้สึกว่าเหนื่อยกว่าปกติ
📌 อาการและอาการแสดง
อาการของภาวะหัวใจล้มเหลว ได้แก่ เหนื่อย แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย ใจสั่น บวมบริเวณหลังเท้า ข้อเท้า นอนราบไม่ได้ ไอเวลานอน หายใจลำบาก (orthopnea)
📌 สาเหตุ
ภาวะหัวใจล้มเหลวอาจมีสาเหตุมาจากโรคหรือภาวะต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย กล้ามเนื้อหัวใจ อักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง ความดันโลหิตสูง เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจมีปัจจัยเกื้อหนุนบางประการที่ ชักนำให้ผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการใดๆ เกิดอาการ หรือเป็นสาเหตุซ้ำเติมให้ผู้ป่วยที่มีอาการอยู่แล้วทรุดหนักลง เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ โรคติดเชื้อ ไข้ การตั้งครรภ์ และภาวะโลหิตจาง
อ้างอิง
-
ประชุมสุขโคตรพันธ์.(2559).การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวโรงพยาบาลยโสธร.วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ ,34(1),133-142.
-
-