Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว, 50_1683_51_ToF, image - Coggle Diagram
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว
Tetralogy of Fallot (TOF)
อาการและอาการแสดง
เด็กเดินได้แล้ว มักเหนื่อยง่าย กระสับกระส่าย ร้องกวน หยุดหายใจเป็นพักๆ หายใจแรงลึก ตัวเขียวมากขึ้น อ่อนเพลีย ช้า ตัวแข็ง ตาเหลือกไม่รู้สึกตัว ชักและอาจเสียชีวิตได้
เด็ก 3-6 เดือน พบอาการเขียวเฉพาะเวลาเด็กดูดนม ร้องไห้ การเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ
การประเมินสภาพ
3.Lab : พบ Hct/ Hb สูงขึ้น
4.การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (chest x-ray) : พบหัวใจห้องล่างขวาโต pulmonary artery ที่ไปปอดขนาดเล็กกว่าปกติและหลอดเลือดไปปอดลดลง
2.การตรวจร่างกาย
ปากและเล็บเขียว นิ้วมือและนิ้วเท้าปุ้ม (clubbing finger)
ฟังพบ systolic ejection murmur
น้ำหนักและส่วนสูงน้อยกว่าปกติ : ตัวเล็ก ผอมกว่าปกติ
5.คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) : มี ventricle ขวาโต แกน QRS เบี่ยงเบนไปขวา
1.การซักประวัติ : ตามอาการ/เด็กโตช้า พัฒนาการไม่สมวัย น้ำหนักน้อย
6.คลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (echocardiogram) : พบ atrium ขวาโต ventricle ขวาหนา aorta คร่อม VSD pulmonary valve เล็ก
พยาธิสภาพ
มีการอุดกั้น ventricle ขวาจาก PS และมี VSD ดังนั้นจึงมีเลือดลัดวงจรจากขวาไปซ้าย ในระดับ ventricle ทำให้หัวใจห้องล่างขวามีการทำงานมากขึ้น เด็กมีอาการเขียวจากการผสมกันของเลือดที่มีระดับออกซิเจนน้อย การเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนนี้ ทำให้ร่างกายได้รับเลือดที่มีออกซิเจนต่ำ ร่างกายจึงมีการทดแทนโดยการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น (polycythemia) ทำให้เลือดมีความหนืดมากขึ้น เกิด thrombophlebitis emboli ได้ง่าย
การรักษา
1.การรักษาทั่วไป
ให้ยาป้องกัน infective endocarditis
ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก (cerebrovascular accident : CVA)
ดูแลสุขวิทยาทั่วไป
รักษาภาวะ anoxic spells โดยการให้นอนท่า knee-chest position
2.การรักษาทางศัลยกรรม โดยทาการต่อระบบไหลเวียน เพื่อเพิ่มปริมาณเลือดไปปอดให้มากขึ้น
ความหมาย
เป็นโรคหัวใจที่มีความผิดปกติแต่กำเนิดหลายอย่างที่พบได้ตั้งแต่แรกคลอดทันที
Transposition of the Great Vessels (TGV)
อาการและอาการแสดง
ส่วนใหญ่จะมีอาการเขียวตั่งแต่ 2 –3 วันแรกหลังคลอด หายใจเร็ว ดูดนมได้ช้า มีหัวใจวาย ตับโต เด็กจะเจริญเติบโตช้า้กว่าปกติ
การประเมินสภาพ
2.การตรวจร่างกาย : พบอาการเขียวมี clubbing finger, พบ systolic ejection murmur, หัวใจเต้นเร็ว โตขึ้น, ตับโต
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ : เด็กโต Hb/Hct สูงกว่าปกติ
1.การซักประวัติ : มีอาการเขียว ดูดนมแล้วเหนื่อยง่าย
4.ถ่ายภาพรังสีทรวงอก (chest x–ray) : เงาหลอดเลือดในปอดเพิ่มขึ้น ห้อหัวใจโต
5.คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) : atrium และ ventricle ข้างขวาโต ความดันในเส้นเลือดของปอดสูง
6.คลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (echocardiogram)
พยาธิสภาพ
aorta ออกจาก ventricle ข้างขวา และหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปรับออกซิเจนที่ปอด ออกจาก ventricle ข้างซ้าย ซึ่งรับเลือดแดงจาก atrium ข้างซ้าย ผู้ป่วยจึงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าไม่มีช่องทางติดต่อให้เลือดทั้ง 2 วงจรมีการผสมกัน ซึ่งถ้าผสมกันไม่เพียงพอจะเป็นอาการเขียว ปัญหาในผู้ป่วย TGV คือ เขียวเรื้อรัง
การรักษา
1.การรักษาทั่วไป
ป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่หัวใจและภาวะขาดน้ำ
ให้ออกซิเจน และรักษาภาวะหัวใจวาย
ดูแลสุขภาพฟัน
ให้ Prostaglandin ในระยะหลังคลอดใหม่ๆ
แนะนำอาหารที่ถูกต้อง ป้องกันและรักษาภาวะเลือดจาง
ให้ยา digitalis และ ยาขับปัสสาวะ
2.การรักษาทางศัลยกรรม โดยการทะลุระหว่างผนังกั้น atrium ด้วย balloon เพื่อให้เกิด mixed blood มากขึ้น หรือทำผ่าตัด เพื่อให้เกิดทางติดต่อระหว่าง atrium ทั้งสอง เป็นต้น
ความหมาย
ภาวะที่ aorta และ pulmonary artery อยู่สลับที่กันโดย aorta จะออกจาก ventricle ขวา แต่ pulmonary artery ออกจาก ventricle ซ้ายแทน
การพยาบาล
5.สังเกตและบันทึกอาการนำ ซึ่งพบมากขณะดูดนมหรือร้องไห้
6.ดูแลให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชการ
4.วัดและบันทึกสัญญาณชีพ การเต้นของหัวใจ สีผิว เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลงของเด็ก
7.ดูแลให้ได้รับยา Digitalis (Digoxin) ตามแผนการรักษาและสังเกตอาการข้างเคียงของยา
3.รายที่มีอาการหานใจลำบาก จัดให้นอนศีรษะสูง เพื่อลดความดันในช่องอกและช่วยให้ปอดขยายตัวได้ดีขึ้น
8.ซักถามและเปิดโอกาสให้บิดา มารดา และผู้ป่วยให้พูดถึงปัญหาและความวิตกกังวล ให้กำลังใจ
2.รายที่มีภาวะขาดออกซิเจน จัดให้นอนคว่ำ ยกก้นสูง (knee-chest position) เพื่อลดปริมาณเลือดที่กลับสู่หัวใจ
9.ดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน
1.จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน
10.เด็กเล็กที่ดูดนมขวด ควรใช้หัวนมนิ่มและให้ทีละน้อย เพราะอาจมีการเหนื่อยจากการดูด เด็กโตให้อาหารที่ย่อยง่าย