Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
basic medical care in emergency situations and accidents, : - Coggle…
basic medical care in emergency situations and accidents
การรักษาพยาบาลขั้นต้นด้านปัจจุบันและภาวะฉุกเฉิน
การประเมินสภาพ
การซักประวัติ
การประเมินระดับความรู้สึกตัว
การประเมินสัญญาณชีพ
การประเมินอาการและอาการแสดง
การตรวจร่างกาย
การตรวจพิเศษ
ใช้หลัก SAMPLE
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
กลุ่มอาการฉุกเฉินที่ต้องช่วยเหลือเบื้้องต้นและส่งต่อทันที (38)
การหยุดหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน
การหมดสติ
ภาวะช็อค
care
ไม่ควรให้สารน้ำที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าเลือด เช่น 5%D/W
อาการ
BP < 90/60 mmHg
Pulse pressure 20 mmHg
MAP < 60 mmHg
กระสับกระส่าย pเบาเร็ว ซีด เหงื่อออก ตัวเย็น กระหายน้ำ อาเจียน ปัสสาวะออกน้อย หายใจเร็วถี่ขึ้น หมดสติ
ถ้าช็อครุนแรง ม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสง
ชัก
อาการ
เกร็ง กระตุก
เหม่อลอย ตาค้าง
น้ำลายไหล N/V
จำเหตุการณ์ที่เกิดขค้นไม่ได้ ต่อมาหมดสติ
การแพ้อย่างรุนแรง
เป็นลม
จมน้ำ
care
ให้สารน้ำ IV ถ้า BP drop/shock
จมน้ำเค็ม ให้ hypotonic solution
จมน้ำจืด ให้ isotonic solution
ดูแลบาดแผล+ประเมินการบาดเจ็บร่วม ถ้ามีการบาดเจ็บที่ศีรษะ ให้ดูแลเหมือนกระดูกสันหลังหักหรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ
โรคหลอดเลือดสมอง
care
ให้ isotonic solution ไม่ควรให้สารน้ำที่ีมีความเข้มข้นน้อยกว่าเลือด เช่น 5%D/W เพราะจะทำให้เกิดสมองบวม >> IICP
อาการ
หมดสติ อ่อนแรงทั้งตัว/บางส่วน คอแข็ง ชา ตามัว พูดไม่ชัด ปวดหัว เวียนหัว เดินลำบาก เป็นลม
ตกเลือดรุนแรง
ไฟฟ้าช็อต
care
ให้สารน้ำ IV ถ้า BP drop/shock
ดูแลบาดแผล+ประเมินการบาดเจ็บร่วม ถ้ามีการบาดเจ็บที่ศีรษะ ให้ดูแลเหมือนกระดูกสันหลังหักหรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ
ฟ้าผ่า
ตกจากที่สูว
กระดูกหัก
care
ดูแลบาดแผล
ล้างแผลให้สะอาดด้วย NSS จำนวนมาก ปิดแผลไว้
ประคบเย็น ลดปวด+บวม
ดามบริเวณที่หักล้างแผลให้สะอาดด้วย NSS จำนวนมาก ปิดแผลไว้
ห้ามเลือดถ้ามีเลือดออก
กรณีที่มีแผลเปิด ฉีดยากันป้องบาดทะยัก , NPO
การแบ่ง
การแยกจากกัน
incomplete fracture
complete fracture
ลักษณะของแผล
closed fracture
open fracture
ภาวะฉุกเฉินทางจมูก
เลือดกำเดาออกจากบริเวณ anterior septum มักเกิดจากการแคะจมูก/อากาศแห้ง
ปฏิบัติตามข้อก่อนหน้า ถ้ายังไม่หยุดไหล ใช้สำลีชุบ adrenaline 1:1000 อุดนาน 10 น. (ต้องแน่ใจผู้ป่วยไม่มีประวัติความดันโลหิตสูง)
สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก (เด็ก)
คีบออก
ถ้ามองไม่เห็น+เด็กดิ้นมาก >> ส่งต่อ
เลือดกำเดาไหล+มี U/D
ส่งต่อ
ประคบด้วยน้ำเย็น
บีบจมูกแน่น ๆ 5-8 น. หายใตทางปากแทน
นั่งก้มศีรษะมาด้านหน้าเล็กน้อย
ภาวะฉุกเฉินทางตา
เลือดออกใต้ตาขาว
ถ้ามองเห็นชัดดี จะหายเองใน 2 wk
ถ้ามีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตามัว ให้ส่งต่อ
ตาแดงรอบ ๆ กระจกตา
ปิดตา+ส่งต่อ
สารเคมีเข้าตา
ล้างตาด้วย NSS นาน 1/2 ชม. 2 ลิตร ถ้าปวดมากหยอดยาชาก่อนล้างให้ลืมตาได้
เยื่อบุตาฉีกขาด
ป้าย/หยอดยาปฏิชีวนะ+ส่งต่อ
สิ่งแปลกปลอมเข้าตา
care
โลหหะติดแน่น ปวดตา
ให้ยาแก้ปวด
ส่งต่อทันที
หยอดยาชา
เห็นสิ่งแปลกปลอม+ระคายตา
ป้ายยา
นัดติดตามอาการใน 24 ชม.
ล้างตา/เขี่ยออก
หากพบบาดแผลบนแก้วตาให้ส่งต่อ
แก้วตาอักเสบจากแสงยูวี
หยอดยาชา
ป้ายด้วย eye ointment
ปิดตา+ส่งต่อ
การได้รับบาดเจ็บ (blunt trauma)
care
เปลือกตาฉีก
ทำแผล+ส่งต่อเพื่อเย็บ
ตาบวม เขียวช้ำ เลือดออก มี fracture
ประคบเย็น+ส่งต่อ
ตามัว แดง เห็นเลือดในตาดำเมื่อส่องไฟ
ให้ยาแก้ปวด
ส่งต่อ
ปิดตาทั้ง 2 ข้าง
absolute bed rest (30-40 องศา)
แก้วตาทะลุ
ห้ามหยอดตา ป้ายตา ปิดตา
NPO
ใช้ที่ครอบตา/แว่นตา
ให้ยาป้องกันบาดทะยัก
ส่งต่อ
ภาวะฉุกเฉินทางหู
สิ่งแปลกปลอมเข้าหู
วัตถุ >> ปวดหูมาก
ถ้าตื้น >> คีบออกด้วย ear forceps
คีบไม่ออก >> ส่งต่อ
น้ำ >> หูอื้อ
หยอดน้ำให้ไปรวมกับน้ำที่ค้างอยู่+ตะแคงหน้าเทออก+เช็ดช่องหู
แมลงเข้าหู
ส่องไฟฉาย >> แมลงคลานออก
แมลงตายตื้น >> คีบออก
มีชีวิต+ไม่เห็นตัว+เยื่อแก้วหูไม่ทะลุ >> หยอดน้ำมัน/แอลกอฮอล์ 70%/glycerin borax
ตายแต่ไม่ออก >> ส่งต่อเพื่อล้างหู
มีเลือด/CSF ออกจากหู
absolute bed rest
ส่งต่อ
หูอื้อ ปวดหู จากแรงดันบรรยากาศ
ให้กลืน/ทำ valsalva
ให้ยาแก้ปวด+ยา decongestant
ถ้าไม่ดีขึ้น >> ส่งต่อ
บาดแผลฉีกขาดที่ใบหู
ให้ยาแก้ปวด
ส่งต่อเพื่อเย็บแผล
ทำแผล
เยื่อแก้วหูฉีกขาดจากการแคะหู
ห้ามหยอดยา แคะ/ล้างหู
ให้ยาแก้ปวด
ติดตามต่อเนื่อง ปกติเยื่อแก้วหูจะสามารถติดเองได้ใน 3-7 วัน
ถ้า d/c ไหล >> ส่งต่อ
ภาวะฉุกเฉินทางคอ
สิ่งแปลกปลอมขนาดเล็ก
ถ้ามองเห็นคีบด้วย laryngeal mirror
ถ้าลึกส่งต่อ
สิ่งแปลกปลมที่กลืนลงท้องไปแล้ว
ส่งต่อ
สิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่
ถ้าไม่ออกให้จัดท่านอนราบ ดูแลภาวะฉุกเฉิน
ทำ heimlich maneuver
การติดเชื้อที่กล่องเสียง (croup ในเด็ก)
ให้ออกซิเจน
ส่งต่อ
ซิปติดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
ทำแผล+พิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ ถ้าไม่สำเร็จให้ส่งต่อ
ให้ยาชาเฉพาะที่
ทำให้ซิปแตก
การบาดเจ็บที่ศีรษะ
ส่งผล
primary brain injury
secondary brain injury
care
ถ้ามีการบาดเจ็บที่กระดูกคอ หรือไม่แน่ใจ ควรใส่ cervical collar
กะโหลกแตก+รู้สึกตัวดี GCS=15
ถ้ามีวัตถุเสียบอยู่ ห้ามดึงออก NPO+ส่งต่อ
การบาดเจ็บทรวงอก
ถ้ามี open pneumothorax ปิดบาดแผลที่ผนังช่องอกด้วย sterile occlusive dressing
ถ้ามี flail chest ใช้มือกดปิดบริเวณที่ flail/ใช้ pressure dressing/ให้นอนทับอกข้างนั้น
ถ้ามีวัตถุเสียบอยู่ห้ามดึงออก
ให้นอนหัวต่ำ/เอียงหัวข้างใดข้างหนึ่งกันสำลัก
NPO
การบาดเจ็บช่องท้อง
ชนิด
blunt
penetrating
ห้ามดันอวัยวะ เช่น ลำไส้ กลับเข้าไปในช่องท้อง และแผลที่มีของมีคมเสียบอยู่ไม่ควรดึงออก
การบาดเจ็บที่สันหลัง
ห้ามหามหัวหามท้าย
แผลไหม้
ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบเพื่อลดการทำลายเนื้อเยื่อ ในรายที่แผลไหม้ระดับ 2 ที่ > 10% ไม่แนะนำเพราะอาจทำให้เกิดภาวะ hypothermia shock
อุบัติภัยหมู่
สาเหตุ
ุภัยธรรมชาติ
การกระทำของมนุษย์
ได้รับสารพิษ/ยาเกินขนาด
ให้ ออกซิเจนถ้าหายใจไม่ดี ยกเว้นคนไข้กินยาพาราควอต
ลดความรุนแรงของสารพิษ/ยา
ล้างท้อง ยกเว้นรับประทานกรด/ด่างเข้มข้น
ใส่สารช่วยดูดซึมสารพิษ ห้ามใส่ผงถ่าน/ผงดิน กรณีรับประทานยาพาราเซตามอล เพราะจะต้านการดูดซึมของยสต้านพิษของพาราเซตามอล
ทำให้อาเจียน ยกเว้นกรณีได้รับกรด/ด่าง และสารไฮโดรคาร์บอน
คนกัด
บาดแผลเหวอะหวะ
ให้ยาป้องกันบาดทะยัก
ดูแลบาดแผล
บาดแผลเล็กน้อย+ไม่เสียโฉม
ดูแลบาดแผล ล้างด้วย NSS จำนวนมาก+เอาสิ่งสกปรกออก
ไม่ควรเย็บทันที ยกเว้นบาดแผลที่ไม่เหวอะหวะ
งูกัด
ลักษณะพิษ
พิษต่อระบบเลือด
พิษต่อระบบกล้ามเนื้อ
พิษต่อระบบประสาท
care
งูเห่าพ่นพิษถูกใบหน้า/นัยน์ตา ล้างน้ำด้วยน้ำเปล่าจำนวนมาก ๆ
NPO แต่ถ้าเป็นงูทะเล ต้องดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อขับพิษ
ดูบาดแผล+รอยเขี้ยว
เคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดโดยเฉพาะบริเวณที่ถูกกัด
คลายกังวล/ตกใจ ช่วยให้พิษเข้ากระแสเลือดช้าลง
ห้ามกรีดแผล ไม่ควรใช้ปากดูดที่แผล ไม่ควรพอกแผลด้วยยาสมุนไพรใด ๆ
งูไม่มีพิษ
ทำความสะอาดแผล
รักษาตามอาการ เช่น ประคบเย็น ยาแก้ปวด ยาปฏิขีวนะ
ยาบาดทะยัก
สัตว์กัด
ผึ้ง ต่อ แตนต่อย
แมงป่องต่อย ตะขาบ แมงมุมกัด
เม่นทะเลดำ
ได้รับพิษจากแมงกะพรุน
อุ่นน้ำทะเล 39 องศา เทราดบริเวณแผล ห้ามให้น้ำจืดหรือแอลกอฮอล์
ใช้แผ้งโรยบริเวณแผลเพื่อเอาหนวดออก
ใช้พืชบุ้งทะเลโขลกทาบนแผล
พยายามฆ่าตัวตาย
การถูกข่มขืน
ดูแลบาดแผลเบื้องต้น แต่ต้องระวัง ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการตรวจหาหลักฐาน และวัตถุพยายจามร่างกายผู้ป่วย
คลุ้มคลั่ง อาละวาด
เจ็บอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาขดเลือด และภาวะเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
อาการหืดจับรุนแรงและต่อเนื่อง
ภาวะป่วยจากความร้อน
ภาวะฉุกเฉินทางสูตินรีเวช
ภาวะทารกขาดออกซิเจนขณะอยู่ในครรภ์
กรณีถุงน้ำแตกและมีน้ำเดินด้วย ให้ส่อง speculum ตรวจ ห้ามใช้มือ PV
ภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
กลุ่มอาการที่ต้องได้รับการวินิจฉัยเพิ่ม
กลุ่มอาการที่ต้องวินิจฉัยแยกโรคและให้การรักษาโรคเบื้องต้น
การจำแนกความรุนแรงของผู้บาดเจ็บตามหลัก Triage
บาดเจ็บปานกลาง (สีเหลือง)
บาดเจ็บรุนแรงและวิกฤต (สีแดง)
บาดเจ็บเล็กน้อย (สีเขียว)
เสียชีวิต (สีดำ)
องค์ประกอบพิจารณา
ประเมินผู้บาดเจ็บที่เดินไม่ได้
ผู้ที่ไม่หายใจ
ผู้ที่หายใจได้
การตตรวจ capillary refill
แยกผู้บาดเจ็บที่เดินได้
ตรวจชีพจร
บทบาทหน้าที่ของพยาบาลในการจัดการสาธารณภัย
ระยะเกิดภัย
เน้นช่วยผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ระยะหลังเกิดภัย
ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้ผู้ประสบภัยและญาติคืนสู่สภาพปกติ
ระยะก่อนเกิดภัย
เตรียมความพร้อมของบุคคล อุปกรณ์ และชุมชนเพื่อป้งกันการเกิดและลดความรุนแรง
สาธารณภัย (ภัยที่เกิดในวงกว้าง)
ประเภท
คลาสสิก
สาธารณภัยจากการกระทำของมนุษย์
สาธารณภัยจากธรรมชาติ
แนวคิคดใหม่
สาธารณภัยเทคโนโลยี
สาธารณภัยซ้ำซ้อน
สาธารณภัยธรรมชาติ
ความรุนแรง
จำแนกตามความสามารถในการจัดการของบุคคลและชุมชน
จำแนกตามจำนวนผู้บาดเจ็บ
ภาวะฉุกเฉิน (เกิดขึ้นกะทันหัน)
ประเภท (ESI V.4 5 level)
กลุ่มฉุกเฉินปานกลาง (สีเหลือง)
กลุ่มฉุกเฉินทั่วไป (สีเขียว)
กลุ่มฉุกเฉินเร่งด่วน (สีชมพู)
กลุ่มที่รับบริการสาธารณสุข (สีขาว) ยกเว้นตาย (สีดำ)
กลุ่มฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง)
: