Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบกล้ามเนื้อ (The Muscular system) muscle, 13.กล้ามเนื้อของหลัง…
ระบบกล้ามเนื้อ
(The Muscular system)
กล้ามเนื้อลาย
(Skeletal muscle)
มีทั้งหมด 792 มัด คือประมาณ 40% ของน้ำหนักตัว
การเรียกชื่อกล้ามเนื้อ
ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) เช่น Temporalis, Intercostal, Tibialis anterior
การจัดเรียงตัวของใยกล้ามเนื้อ (Fascicle Organization) เช่น กล้ามเนื้อที่วางตัวในแนวตรง มักตั้งชื่อว่า rectus กล้ามเนื้อที่วางตัวแนวตามขวาง ว่า transverse กล้ามเนื้อที่วางตัวในแนวเฉียง ว่า oblique
3.ตามรูปร่าง
Deltoid (triangle)
Trapezius (Trapezoid)
Palmaris longus (long)
Palmaris brevis (short)
3.ตามขนาด
Maximus, Minimus
Longus, Brevis
Major, Minor
4.จำนวนจุดเกาะเต้น (Origin or head) เช่น กล้ามเนื้อbiceps มีจำนวน 2 หัว กล้ามเนื้อ triceps มีจำนวน 3 หัวและกล้ามเนื้อ quadriceps มีจำนวน 4 หัว
หน้าที่การทำงาน (Function) เช่น flexor, extensor, abductor, adductor, rotator
ตามตำแหน่งของความสัมพันธ์ (Relative Position) เช่น กล้ามเนื้อที่อยู่ภายนอกหรืออยู๋บริเวณผิว
7.ตามจุดเกาะต้นหรือจุดเกาะปลาย (Origin and insertion) ชื่อหน้ามักจะบอกถึงตำแหน่งจุดเกาะต้น และชื่อหลังมักจะบอกถึงตำแหน่งจุดเกาะปลาย
จุดเกาะต้น (Origin) และจุดเกาะปลาย (Insertion)
กล้ามเนื้อมัดต่างๆของร่างกาย
1.กล้ามเนื้อแสดงสีหน้า (muscles of facial expression)
2.กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ในการบดเคี้ยว (muscles of mastication)
3.กล้ามเนื้อลูกตา(muscles of the eyeball)
4.กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวลิ้น (muscles that move the tongue)
5.กล้ามเนื้อที่พื้นของช่องปาก (muscle of the floor of the oral cavity)
6.กล้ามเนื้อของกล่องเสียง (muscle of the larynx)
7.กล้ามเนื้อบริเวณคอ (muscles of the neck)
8.กล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวศีรษะและคอ (muscle moving the head and neck)
กล้ามเนื้อช่วงไหล่ (muscles of the shoulder girdle)
10.กล้ามเนื้อของต้นแขน (muscles of the arm)
11.กล้ามเนื้อของปลายแขน (muscles of the forarm)
12.กล้ามเนื้อของมือ (muscles of the hand)
13.กล้ามเนื้อของหลัง (muscles oh the back)
14.กล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจ (muscles of respiration)
15.กล้ามเนื้อของผนังหน้าท้อง (muscles of the abdominal wall)
16.กล้ามเนื้อของพื้นช่องเชิงกราน (muscles of the plevis)
17.กล้ามเนื้อของต้นขา (muscle of the thigh)
18.กล้ามเนื้อของปลายขา (muscle of the leg)
19.กล้ามเนื้อของเท้า (muscle of the foot)
-เซลล์ของกล้ามเนื้อลายมีลักษณะเป็นทรงกระบอกยาวเรียว
-ภายในเซลล์พบนิวเคลียสรูปไข่หลายอัน
-อยู่ในอำนาจจิตใจ
โครงสร้างของกล้ามเนื้อลาย
Myofilament
เส้นใยหนา (Thick filament หรือ myosin filament)
•ประกอบด้วยโมเลกุลของไมโอซิน(myosin) ซึ่งเป็นโปรตีนประกอบด้วย
•เส้นใยของโปรตีนชนิดหนัก(Heavy polypeptide chain) 2 สาย
•เส้นใยโปรตีนชนิดเบา (Light polypeptide chain) เป็ นหัวของไมโอซีน
เส้นใยบาง (Thin filament หรือ actin filament)
Actin ประกอบด้วย
G-actin ส่วนที่รวมกันเป็นก้อนทำหน้าที่จับกับ head ของ myosin
F-actin ส่วนที่พับเป็นเกลียว (โมเลกุล Polypeptine)
Tropomyosin
มีลักษณะเป็นเส้นใย 2เส้นสองพันกันเป็นเกลียว
-Troponin มีลักษณะกลม
โครงสร้างอื่นๆที่ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อ
1.Sarcoplasmic reticulum (SR)ทำหน้าที่สะสมแคลเซียม
2.Transverse Tubular System (T-Tubule) นำสัญญาณประสาทเข้าTriad ซึ่งจะเหนี่ยวนำให้มีการหลั่งแคลเซียมไอออนจาก SR เข้าไปในเซลล์
กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth muscle)
พบตามผนังของอวัยวะในระบบไหลเวียนเลือด, ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบทางเดินหายใจ ระบบสืบพันธุ์ กล้ามเนื้อขนตาและม่านตาที่ผิวหนัง และตามท่อของต่อมต่างๆ
โครงสร้างของกล้ามเนื้อเรียบ
เป็นกล้ามเนื้อที่ไม่มีลาย ซึ่งแตกต่างจากกล้ามเนื้อยึดกระดูกและกล้ามเนื้อหัวใจ
กล้ามเนื้อเรียบประกอบด้วยเซลล์ที่มีลักษณะรูปร่างเป็นเซลล์ยาว ส่วนหัวและส่วนท้าย แหลมคล้ายรูปกระสวย
แต่ละเซลล์มีนิวเคลียสอันเดียวอยู่ตรงกลางเซลล์กล้ามเนื้อเรียบพบอยู่ตาม อวัยวะภายในของร่างกาย
การควบคุมทางเส้นประสาทและฮอร์โมน
ไม่มีแผ่นปลายประสาทมอเตอร์เหมือนกับกล้ามเนื้อลาย
มีเส้นใยประสาทของระบบประสาทอัตโนมัติมาเลี้ยง
ควบคุมโดยสารเคมีที่ใช้ระหว่างเซลล์ เช่น อะเซทิลโคลีนและนอร์อิพิเนฟริน
กล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac muscle)
มีแถบและลายคล้ายกล้ามเนื้อลายแต่เซลล์มีขนาดเล็กกว่า การทำงานคล้ายกล้ามเนื้อเรียบ (Pacemaker และ Syncytium) Nucleus อยู่ตรงกลางเซลล์ 1 อัน
ส่วนประกอบของกล้ามเนื้อหัวใจ
ชนิดของกล้ามเนื้อหัวใจ
เซลล์ทำหน้าที่หดตัว (Contractile cell) ได้แก่ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการหดตัว พบได้ที่ผนังหัวใจ
ทั้ง 4 ห้อง
2.กลุ่มเซลล์เพซเมคเกอร์ (Pacemaker cell) ทำหน้าที่ผลิตศักย์ทำงาน (Action potential) ได้เองและส่งสัญญาณไฟฟ้าไปกระตุ้นให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจหดตัว มี 2 ตัว
-ปุ่มเอสเอ (Sinuatrialnode : S-A node)
-ปุ่มเอวี (Atrioventricularnode : A-V node)
3.กลุ่มเซลล์นำไฟฟ้าพิเศษ (Specialized conduction cell) มีหน้าที่นำสัญญาณไฟฟ้าไปสู่ส่วนต่างๆของหัวใจ ได้แก่ bundle of His และ Punkinje fiber
13.กล้ามเนื้อของหลัง (muscles oh the back)
1.Splenius muscle
Eerector spinae
Transversospinalis muscle
Segmental muscle
3.กล้ามเนื้อลูกตา(muscles of the eyeball)
มีทั้งหมด 6 มัด ควบคุมโดยเส้นประสาทที่มาจากสมอง สามารถทำให้ตาเคลื่อนไหวได้เกือบทุกทิศทาง กล้ามเนื้อตาทั้ง 6 มัด
Rectus muscle 4 มัด ได้แก่
medial rectus
lateral rectus
inferior ructus
superior rectus
Oblique muscle 2 มัด ได้แก่
superior oblique
inferior oblique
6.กล้ามเนื้อของกล่องเสียง (muscle of the larynx)
-ดึงกล่องเสียงขึ้นขณะกลืนอาหาร
-ช่วยในการพูด
-ช่วยเปิดปิดกล่องเสียงขณะพูด
11.กล้ามเนื้อของปลายแขน (muscles of the forarm)
ทำหน้าที่เคลื่อนไหวข้อมือ มือ และนิ้วมือ
กลุ่มที่อยู่ด้านหน้าของปลายแขน (anterior group)
กลุ่มที่อยู่ตื้น (Superficial layer)
กลุ่มที่อยู่ลึก (deep layer)
กลุ่มที่อยู่ด้านหลังของปลายแขน (posterior group)
12.กล้ามเนื้อของมือ (muscles of the hand
กล้ามเนื้อบริเวณด้านหัวแม่มือ (thenar muscle)
▪ Abductor pollicisbravis
▪ Flexor pollicisbrevis
▪ Opponens pollicis
กล้ามเนื้อบริเวณด้านนิ้วก้อย (Hypothenar muscle)
▪ Abductor digiti minimi
▪ Flexor digiti minimi
▪ Opponens digiti minimi
▪ Palmaris brevis
กล้ามเนื้อบริเวณระหว่างด้านนิ้วโป้ งและด้านนิ้วก้อย
(intermediate group)
▪ Abductor pollicis
▪ Lumbricals
▪ Palmar interossei
▪Dorsal interossei
14.กล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจ (muscles of respiration)
Diaphragm
Action: ในขณะที่มีการหายใจเข้า จะมีการหดตัวและลดต่ำลง ทำให้ปริมาตรในช่องอกเพิ่งขึ้น
External Intercostal
Action: ยกกระดูกซี่โครง และเพิ่มปริมาณช่องอกขณะหายใจเข้า
Internal Intercostal
Action:พยุงกระดูกซี่โครงแต่ละชิ้นไม่ให้แยกจากกันในขณะผ่อนลมหายใจออก
17.กล้ามเนื้อของต้นขา (muscle of the thigh)
กลุ่มกล้ามเนื้อทางด้านหน้า Sartorius, Quadriceps femoris
กล้ามเนื้อทางด้านใน Gracilis,Pectineus, Adductor brevis, Adductor longus, Adductor magnus
กล้ามเนื้อทางด้านหลัง Biceps Femoris, Semimembranosus, Semitendonosis,
18.กล้ามเนื้อของปลายขา (muscle of the leg)
กลุ่มกล้ามเนื้อทางด้านหน้า Tibialis Anterior, Extensor digitorum longus, Extensor hallucis longus,
Peroneus Tertius
กล้ามเนื้อด้านนอก Peroneus longus, Peroneus brevis,
กล้ามเนื้อด้านหลังGastrocnemius, Soleus, Plantaris,
1.กล้ามเนื้อแสดงสีหน้า
(Muscle of facial expression)
กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ตื้น คือ อยู่ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous tissue) ด้านหนึ่งเกาะกับกระดูกหน้า อีกด้านหนึ่งติดกับผิวหนังของใบหน้า
ทำหน้าที่แสดงความรู้สึกบนใบหน้าในลักษณะต่าง ๆ เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ และแสดงอาการทางสีหน้า
2.กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ในการบดเคี้ยว (muscles of mastication)
เป็นกล้ามเนื้อใบหน้าและขากรรไกร ส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบดเคี้ยวอาหารโดยตรง ทำให้เกิดแรงบดเคี้ยวอาหาร และทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของขากรรไกรล่างด้วย รวมทั้งการอ้าปาก-หุบปาก
ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ 4 มัด
กล้ามเนื้อแมสซีเตอร์ (masseter)
เทมโพราลิส (temporalis)
เทอริกอยด์มัดนอก (lateral pterygoid)
เทอริกอยด์มัดใน (medial pterygoid)
19.กล้ามเนื้อของเท้า (muscle of the foot)
1.กล้ามเนื้อทางด้านหลังเท้า (Muscle on the dorsum of the foot)
Extensor digitorum brevis
2.กล้ามเนื้อฝ่าเท้า (Muscle in the sole of the foot)
2.1กล้ามเนื้อชั้นที่ 1 ของฝ่าเท้า
2.1.1 Abductor hallucis
2.1.2 Flexor digitorum brevis
2.1.3 Abductor digiti minimi (foot)
2.2 กล้ามเนื้อชั้นที่ 2 ของฝ่าเท้า
2.2.1 Quadratus plantae
2.2.2 Lumbricals (foot)
2.3 กล้ามเนื้อชั้นที่ 3 ของฝ่าเท้า
2.3.1 Flexor hallucis brevi
2.3.2 Adductor hallucis
2.3.4 Flexor digiti minimi brevis (foot)
2.4 กล้ามเนื้อชั้นที่ 4 ของฝ่าเท้า
2.4.1 Plantar interossei
2.4.2 Dorsal interossei
5.กล้ามเนื้อที่พื้นของช่องปาก (muscle of the floor of the oral cavity)
ทำหน้าที่ยกกล่องเสียงและกระดูก hyoid ขึ้นขณะกลืนอาหารหรือดึง
ขากรรไกรล่างลงเวลาอ้าปาก
7.กล้ามเนื้อบริเวณคอ (muscles of the neck)
ประกอบไปด้วย คือ
1.Sternocleidomastoideus เป็นกล้ามเนื้อที่ใหญ่ที่สุดของคอ เกาะพาดจากกระดูกหน้าอกกับกระดูกไหปลาร้าไปยังด้านนอกของกระดูกท้ายทอยทำหน้าที่เอียงคอหันและหมุนคอ
Splenius capitis เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านข้างของคอ มีจุดเกาะเริ่มจากกระดูกสันหลังส่วนล้าตัว (thoracic spine) อันที่ 3 และ 4 ไปยังจุดเกาะปลายที่กระดูกท้ายทอยทำหน้าที่ ยืดคอ เอียงคอและเงยหน้า
3.Levator scapulae เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านข้างของคอ มีจุดเกาะเริ่มจากกระดูกสันหลังส่วนคอ ไปยังจุดเกาะปลายที่กระดูกสะบักทำหน้าที่ ยกสะบัก
8.กล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวศีรษะและคอ (muscle moving the head and neck)
กล้ามเนื้อทั้ง 3 มัดข้างต้น เมื่อกล้ามเนื้อทั้งสองข้างท างานีพร้อมกันจะทำให้เกิดการเงยศีรษะและคอ ถ้าหดตัวข้างเดียวจะหมุนไปด้านเดียวกับกล้ามเนื้อหดตัว
กล้ามเนื้อช่วงไหล่ (muscles of the shoulder girdle)
เเบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
1.กลุ่มที่มีจุดเกาะต้นที่กระดูกแกนกลางของร่างกาย มีจุดเกาะที่ปลายกระดูก clavicle และ scapular
2.กลุ่มที่มีจุดเกาะต้นที่กระดูกแกนกลางของร่างกายหรือกระดูก scapula มีจุดเกาะที่ปลายกระดูก humerus
10.กล้ามเนื้อต้นแขน (muscle of the forearm)
มีจุดเกาะต้นที่กระดูก humerus และไปเกาะปลายที่กระดูกปลายแขนได้เเก่กระดูก radius และ ulnar
15.กล้ามเนื้อของผนังหน้าท้อง (muscles of the abdominal wall)
งอลำตัวและกดผนังหน้าท้องเพื่อเพิ่ม
ความดัน ในช่องท้อง
16.กล้ามเนื้อของพื้นช่องเชิงกราน (muscles of the plevis)
คือกล้ามเนื้อที่ควบคุมการกลั้นปัสสาวะ อุจาระ และกล้ามเนื้อเกี่ยวกับการคลอดบุตร การตั้งครรภ์ การคลอดบุตร และน้ำหนักเกิน จะทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง
4.กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวลิ้น (muscles that move the tongue)