Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Hemorrhagic Stroke โรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออกในสมอง - Coggle Diagram
Hemorrhagic Stroke
โรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออกในสมอง
อาการและอาการแสดง
ผู้ป่วยมีอาการแขน ขา ข้างซ้ายอ่อนแรงปากเบี้ยว พูดไม่ชัด
ทฤษฎี
อาการชา หรือสูญเสียความรู้สึกของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง
มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว เช่นเดินเซ หรือมีอาการเวียนศีรษะเฉียบพลัน
มีปัญหาเกี่ยวกับการพูด เช่น พูดไม่ได้พูดติด เสียงไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูด
อาการอ่อนแรง หรือมีอาการอัมพฤกษ์ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยมากมักเกิดกับร่างกายข้างใดข้างหนึ่ง
การสูญเสียการมองเห็นบางส่วน หรือเห็นภาพซ้อน
พยาธิสภาพ
โรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากภาวะเลือดออก (hemorrhagic stroke) เกิดจากความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ซึ่งพบร่วมกับผนังของหลอดเลือดสมองขนาดเล็กอ่อนแอทำให้เกิดการฉีกขาดได้ง่ายเมื่อเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดสมองเลือดที่ออกมาจากการแตกของหลอดเลือดจะรวมตัวกันเป็นก้อนเลือด (hematoma) เข้าไปเบียดแทนที่เนื้อสมองบริเวณที่มีการแตกของหลอดเลือดทำให้เนื้อสมองบริเวณนั้นถูกกดเกิดการอักเสบหากถูกกดและอักเสบเป็นระยะเวลา 3-6 ชั่วโมงทำให้เกิดภาวะเซลล์สมองขาดเลือดและเกิดเนื้อสมองตายและปัญหาสำคัญคือก้อนเลือดที่มีขนาดใหญ่ที่กดเบียดเนื้อสมองทำให้มีภาวะสมองบวม (brain edema) ส่งผลให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงถ้าอาการเลือดออกรุนแรงจะทำให้เกิดภาวะสมองยื่น (brain hemia tion) ได้ถ้าการแตกของหลอดเลือดสมองไม่มากนักก้อนเลือดที่กดเนื้อสมองจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่หลอดเลือดสมองจดหมดภายในระยะเวลา 2-6 เดือนตำแหน่งของสมองที่เกิดภาวะเลือดออกได้บ่อยเช่น basal ganglia, thalamus, cerebellum
ปัจจัยเสี่ยง
ความดันโลหิต
อาการและอาการแสดง
ฺBP=211/113 mmHg ;วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด
การวินิจฉัย
มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน และมีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
สาเหตุ
(ทฤษฎี) เกิดจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมความดันเลือดสูงปฐมภูมิ (Primary HT) มักเกิดจากพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสม แต่ความดันเลือดสูงทุติยภูมิ (Secondary HT) มักเกิดจากโรคประจำตัวที่เป็นมาก่อนปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งคือไขมันสูง อ้วน เบาหวาน Metabolic syndrome และอยู่ในท่านั่งนาน ๆ
-มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน และมีกรรมพันธุเป็นเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
-BP=211/113 mmHg
การรักษา
Amlodipine 10 mg 1x1 o pc
simvastatin (20mg) 1×hs
Enalapril 5 mg 2x2 o pc
Enalapril 20 mg 1x1 o pc
พยาธิสภาพ
ผู้ป่วยที่มีความดันเลือดสูงจะไม่มีอาการ แต่อาจพบมีความดันเลือดสูงเป็นครั้งคราวเนื่องจากพยาธิสภาพจะเกิดกับหลอดเลือดในหัวใจ ไต สมองและตาอย่างช้าๆโดยหลอดเลือดขนาดใหญ่เช่นเอออร์ตาหลอดเลือดแดงโคโรนารี มีไขมันมาเกาะทำให้ผนังชั้นในตีบแคบและเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายลดลงหลอดเลือดอาจฉีกขาดหรือทำให้มีเลือดออก
ข้อวินิจฉัย
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากมีความดันโลหิตสูง
การวินิจฉัย
ทฤษฎี
1.การซักประวัติและตรวจร่างกาย แพทย์จะซักอาการ สาเหตุปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ตรวจร่างกายทั่วไป และตรวจร่างกายทางระบบประสาท
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan)
-Glasgow Coma Scale E3VTM6 แขน ขา ซ้าย ระดับ 0 แขนขา ขวา ระดับ 3 ผล CT สมอง : Acute Intraparenchymal hemorrhage
ข้อวินิจฉัย
เสี่ยงต่อภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูงเนื่องจากมีภาวะเลือดออกในสมอง
เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจากพยาธิสภาพของโรค
การรักษา
ทฤษฎี
การรักษาในผู้ป่วยที่มีเลือดออกในสมองคือ การผ่าตัดเอาก้อนเลือดออกโดยระวังไม่ให้สูญเสียเนื้อสมองหรือการผ่าตัดเอาหลอดเลือดที่ผิดปกติ เช่น arteriovenous malformation ที่อาจแตกซ้ำออก
ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัด Craniectomy with clot remova
โรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากภาวะเลือดออก (hemorrhagic stroke) เกิดจากความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ผนังของหลอดเลือดสมองขนาดเล็กอ่อนแอทำให้เกิดการฉีกขาดได้ง่ายเมื่อเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดสมองเลือดที่ออกมาจากการแตกของหลอดเลือดจะรวมตัวกันเป็นก้อนเลือด (hematoma) เข้าไปเบียดแทนที่เนื้อสมองบริเวณที่มีการแตกของหลอดเลือดทำให้เนื้อสมองบริเวณนั้นถูกกดสบเป็นระยะเวลา 3-6 ชั่วโมงทำให้เกิดภาวะเซลล์สมองขาดเลือดและเกิดเนื้อสมองตาย
ก้อนเลือดที่มีขนาดใหญ่ที่กดเบียดเนื้อสมองทำให้มีภาวะสมองบวม (brain edema)
ส่งผลให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูง
เนื่องจากกะโหลกศีรษะเป็นอวัยวะที่มีปริมาตรคงที่จำกัดดังนั้นหากมีพยาธิสภาพที่ทำให้ปริมาตรของส่วนประกอบอันใดอันหนึ่งข้างต้นเพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้นและ/หรือเกิดการย้ายที่หรือกดเบียดของส่วนประกอบอื่นๆในกะโหลกศีรษะได้นอกจากนี้ความดันในกะโหลกศีรษะยังขึ้นกับระบบหลอดเลือดดำภายในสมอง ซึ่งในภาวะปกติน้ำหล่อสมองไขสันหลังมีอัตราการผลิตเฉลี่ย20 มิลลิลิตรต่อชั่วโมงและมีการระบายออกผ่านหลอดเลือดดำภายในสมอง หากมีการอุดกั้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงความดันภายในระบบหลอดเลือดดำนี้อาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองไขสันหลังและมีผลต่อความดันในกะโหลกศีรษะได้ในที่สุด