Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทารกน้ำหนักตัวผิดปกติ ความผิดปกติเกี่ยวกับอายุครรภ์ - Coggle Diagram
ทารกน้ำหนักตัวผิดปกติ ความผิดปกติเกี่ยวกับอายุครรภ์
1.ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยกว่าอายุในครรภ์
(Small for gastational age ; SGA)
แบ่งเป็น
ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย
(Low birth weight)
ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 2,500 g.อาจจะเป็น preterm/term/postterm
ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อยมาก
(Very Low birth weight ; VLBW)
ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 1,500 g.
ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักน้อยมากๆ
(Extremely Low birth weight ; ELBW)
ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 1,000 g.
ทารกโตช้าในครรภ์
(Intrauterine growth restriction ;IUGR)
สาเหตุ
1.สาเหตุจากตัวทารกเอง (fetal causes)
-การติดเชื้อในครรภ์
-ความผิดปกติของโครโมโซมโดยเฉพาะ trisomy 18,trisomy 13 -ความพิการโดยกำเนิด เช่นหัวใจพิการแต่กำเนิด,renal agenesis,anencephaly,osteogenesis imperfecta
2.สาเหตุจากมารดา (maternal cause)
-ภาวะขาดสารอาหาร
-น้ำหนักมารดาขึ้นน้อย โดยเฉพาะถ้าน้ำหนักไม่ขึ้นหลังอายุครรภ์ 28 wks.
-ภาวะโลหิตจางรุนแรง เช่น thalassemia เป็นต้น
-ภาวะขาดออกซิเจน
-โรคทางหลอดเลือดในมารดา เช่น Hypertension,PIH
-โรคไตบางชนิดที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง หรือการสูญเสียโปรตีน่
-ยาและสารอันตราย เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ โคเคน narcotics และยากันชักบางตัว เช่น phenytoin ,trimethadione
-ครรภ์แฝด
-antiphospholipid antibody syndrome
3.สาเหตุจากรก(Placenta causes)และสายสะดือ
-รกเสื่อมสภาพ (placental infection)กินบริเวณกว้าง
-รกลอกตัวก่อนกำหนด (placental abruption)เป็นหย่อมๆ
-chorioangioma (เนื้องอกรก)
-รกเกาะต่ำและ circumvallate palcenta ทำให้ทารกโตช้าได้ แต่ไม่รุนแรงมาก
-marginal insertion และ velamentous insertion ของสายสะดือ
ภาวะแทรกซ้อน
1.ผลต่อทารก
-น้ำตาลในเลือดต่ำ(hypoglycemia)
-แคลเซียมในเลือดต่ำ(hypocalcemia)
-ความเข้มข้นในเลือดสูง(polycythemia)
-Hyperbilirubinemia
-Meconium aspiration syndrome
-ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะภูมิต้านทานต่ำ
-ความผิดปกติอื่นๆที่สัมพันธ์กับ FGR ได้บ่อยๆ เช่น โครโมโซมผิดปกติ ความพิการแต่กำเนิด
-การตายปริกำเนิดเพิ่มขึ้น
-เพิ่มความผิดปกติในพัฒนาการระยะยาว โดยเฉพาะการเจริญเติบโต พัฒนาการทางสมอง
2.ต่อมารดา
-เพิ่มอัตรา C/S เนื่องจากพบทารกมีภาวะเครียดได้สูง -เพิ่มภาระในการเลี้ยงดู สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้น
-ส่งผลกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจสูง
สาเหตุ
-มารดาติดสารเสพติด
-สุรา
-สูบบุหรี่
-มีภาวะซีดเรื้อรัง
-โรคหัวใจ
-โรคไต
-ตั้งรรภ์แฝด
-ความผิดปกติทางโครโมโซม
-ติดเชื้อแต่กำเนิด เช่น TORCH ซิฟิลิส
แบ่งออกเป็น 2 คือ
อวัยวะต่างๆจะเจริญเติบโตสัมพันธ์กัน แต่ขนาดตัวเล็ก
(symmetric growth retardation)
ลักษณะร่างกายไม่สมส่วน (asymmetrical growth retardation) ความยาวรอบศีรษะและความยาวของลำตัวผิดปกติ แต่ความยาวของรอบอกและรอบท้องเล็ก
การรักษา
1.ระบุความเสี่ยงต่อภาวะ IUGR ของทารกจากการวัด HF,U/S เป็นระยะเพื่อประเมินความพิการและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
2.ให้คลอดเมื่อครรภ์ใกล้ครบกำหนดหรือทารกอาจไม่ปลอดภัย
3.ดูดน้ำคร่ำและช่วยกู้ชีพเมื่อคลอด
4.ดูแลควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และให้ดูดนมแม่โดยเร็วหลังคลอด
5.ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ CBC,TORCH titer ,urine CMV และ drug screening,chromosome studies,tatal bilirubin
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
1.การรักษาอุณหภูมิร่างกายไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากมีข้อจำกัดของร่างกายในการรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ได้แก่เกิดก่อนกำหนด มีไขมันใต้ผิวหนังน้อย
2.การแลกเปลี่ยนแก๊สบกพร่องเนื่องจากพลังงานสะสมในร่างกายลดลง หายใจไม่มีประสิทธิภาพ สูดสำลักขี้เทา
3.การปฏิบัติหน้าที่บิดามารดาบกพร่อง เนื่องจากทารกถูกแยกไปรักษาที่ทารกป่วย มารดาติดสารเสพติดหรือสุราขณะตั้งครรภ์ มารดาไม่ต้องการบุตร
3.ทารกแรกเกิดน้ำหนักมากกว่าอายุครรภ์
(Large for garstational age ; LGA)
ปัจจัยที่ส่งผล
1.กรรมพันธุ์(มารดาน้ำหนักมาก)
2.เพศ(เพศชายมักมีขนาดใหญ่กว่าเพศหญิง)
3.ปัจจัยทางด้ายพยาธิสรีรวิทยา เช่น hydrops fetalis
4.การมีหลอดเลือดใหญ่ที่อยู่ผิดที่ Beckwith-Wiedemann syndrome
มารดาที่เป็นเบาหวาน หลอดเลือดจะถูกทำลาย ตับอ่อนของทารกจะสร้างinsulin ไปจับกับGlucoseและสังเคราะห์ไกลโคเจน ไขมันและโปรตีน ทำให้ทารกมีขนาดตัวโต (macrosomia)
ภาวะแทรกซ้อนของ IDM
1.CPD ส่งผลให้ทารกได้รบบาดเจ็บจากการคลอด ได้แก่ คลอดยาก ติดไหล่ ก้อนบวมเลือดที่ศีรษะ กระดูกหัด Erb's palsy ใบหน้าอัมพาต 2.ใช้Oxytocin ช่วยคลอดคีม หรือผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
3.มีภาวะหายใจลำบาก ระบบหายใจมีพัฒนาการล่าช้า
4.เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดตำ แคลเซียมต่ำ
5.ภาวะเลือดข้น ตัวเหลือง
6.หัวใจโต หัวใจพิการแต่กำเนิด และ Caudal regression syndrome
การรักษา
1.ป้องกันโดยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดตลอดการตั้งครรภ์
2.คาดคะเนขนาดของทารกกับเชิงกรานของมารดา อาจวางแผน C/S
3.ประเมินน้ำตาลในเลือดบ่อยๆในระยะหลังคลอด
4.ให้สารน้ำที่มีกลูโคส 10-15% IV จนกว่าอาการของทารกจะคงที่
5.ประเมินการบาดเจ็บของทารกเพิ่มเติมจากการเอกซเรย์ หรือ CT scan
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.การแลกเปลี่ยนแก๊สบกพร่อง เนื่องจากระบบทางเดินหายใจยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และสร้างสารลดแรงตึงผิวได้น้อยจากภาวะเบาหวานของมารดา
2.การกำซาบของเนื้อเยื่อไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจาก ทารกมีภาวะเลือดข้น เลือดมีความหนืด
3.การเจริญเติบโคและพัฒนาการล่าช้าเนื่องจากทารกมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเพราะมารดาเป็นเบาหวาน
2.ทารกแรกเกิดน้ำหนักเหมาะสมกับอายุในครรภ์ (Appropriate for destatiional age ;AGA)
-ทารกเเรกเกิดที่มีน้ำหนักอยู่ระหว่างเปอร์เซ็นไทล์ที่ 10 ถึง 90 เมื่อเทียบกับทารกปกติที่มีอายุครรภ์เท่ากัน
-ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักเหมาะสมกับอายุครรภ์
-พบได้ร้อยละ 80 ของทารกทั้งหมด
ทารกครรภ์เกินกำหนด
(Postterm infant)
ภาวะแทรกซ้อน
1.น้ำคร่ำน้อย
2.รกเสื่อม
3.ทารกอาจได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ
4.สายสะดือถูกกด
5.มีการถ่ายขี้เทาลักษณะเหนียวเนื่องจากมีน้ำคร่ำน้อย
อาการและอาการแสดง
-ตื่นตัว
-ตาเปิดกว้าง
-ลำตัวผอมยาว
-ไขมันใต้ผิวหนังน้อย
-ผิวหนังมีขี้เทา
-แห้ง
-ลอก
-ไม่มีไขหรือขนอ่อน
-เล็บยาว
ภาวะแทรกซ้อน
1.ทารกสูดสำลักขี้เทา
2.ขาดออกซิเจนระหว่างการคลอด
3.ภาวะตัวเย็น
4.ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
5.ภาวะเลือดข้น
6.ภาวะตัวเหลือง
ภาวะชัก
การรักษา
1.ตรวจอัลตราซาวน์เพื่อประเมินอายุครรภ์และความผิดปกติของทารก
2.ประเมินทารกด้วย NST,CST และให้คลอดเมื่ออายุครรภ์ 43 wks.
3.ดูดมูกก่อนทารกคลอดทั้งตัว และใส่สาย NG เพื่อดูกขี้เทาที่อยู่ในระดับลึกก่อนที่จะหายใจครั้งแรก
4.ช่วยเหลือการหายใจของทารก ตรวจระดับแก๊สในเลือด ตรวจ X-ray
5.ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ กลูโคส ฮีมาโตคริต บิลลิรูบิน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
1.การควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากระบบการควบคุมอุณหภูมิยังไม่สมบูรณ์ มีไขมันใต้ผิวหนังและไขมันสีน้ำตาลน้อยเนื่องจากคลอดเกินกำหนด
2.ภาวะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บเนื่องจาก ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอต่อเมตบอลิสซึมของร่างกายเนื่องจากคลอดเกินกำหนด
3.ภาวะเสี่ยงต่อสัมพันธภาพระหว่างบิดากับมารดาของทารกบกพร่อง เนื่องจากทารกมีลักษณะที่ต่างจากปกติเนื่องจากคลอดเกินกำหนด ทารกแยกจากครอบครัวเนื่องจากต้องได้รับการดูแลที่ห้องทารกป่วย