Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพและการผดด…
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพและการผดดุงครรภ์พ.ศ. ๒๕๖๔
หมวกที่ ๒
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล (ข้อ ๕-๘)
ข้อที่ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
๖.๑ ห้ามให้ยา หรือสารละลายช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง
หรือช่องไขสันหลัง หรือ สายสวนทางหลอดเลือดดำ
๖.๒ ห้ามใช้ยา หรือสารละลาย หรือสารที่เกี่ยวข้องรังสีวินิจฉัยและยาอื่น สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อที่ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
กรณีที่เป็นปัญหา ยุ่งยาก ซับซ้อน การเจ็บป่วยฉุกเฉิน วิกฤต การประกอบวิชาชีพการพยาบาลได้จะต้องกระทำร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล ชั้นหนึ่ง
ข้อที่ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ชั้นหนึ่งกระทำการพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาล
๕.๒ การสอน การแนะนำ การวางแผนการดูแลต่อเนื่องการเสริมสร้างพลัง
๕.๓ การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ
การป้องกัน การควบคุม แก้ปัญหาความเจ็บป่วยหรือวิกฤต
๕.๑ การกระทำต่อร่างกายและจิตของบุคคล ประเมินภาวะสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพ การฟื้นฟูสุขภาพ
๕.๔ การปฏิบัติการพยาบาลตามแผนการพยาบาล
การใช้เครื่องพิเศษ การติดตามผล
๕.๕ การให้การพยาบาลที่บ้าน ส่งเสริมความสามารถของบุคคล
เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุขหือสามารถจัดการวิถีชีวิต
ข้อที่ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
จะให้ยาผู้รับบริการได้เฉพาะการให้ยาทางปากและยาภายนอกตามที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษา เมื่อเป็นการปฐมพยาบาลและห้ามให้ยาในชนิด และช่องทางตามที่สภาพยาบาลประกาศตามข้อ ๖.๑ และ ๖.๒
ส่วนที่ ๒ การทำหัตถการ (ข้อ ๙)
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชชีพพยาบาล ชั้นหนึ่ง
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
กระทำการพยาบาลโดยการหัตถการตามขอบเขตที่กำหนด
๙.๑๑ การสอดใส่สายยางลงไปในกระเพาะอาหาร เพื่อให้อาหาร ยาหรือล้างกระเพาะอาหารในรายที่กินสารพิษ หรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๑๒ การสวนปัสสาวะ การเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะในผู้ป่วยที่ไม่มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาววะ
๙.๙ การช่วยฟื้นคืนชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของผู้ป่วย
๙.๑๕ การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
๙.๑๖ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดดำ ส่วยปลายนิ้ว หรือสารคัดหลั่ง เพื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการตามข้อบังคับ หรือประกาศที่สภาหารพยาบาลกำหนด
๙.๑๓ การสวนทางทวารหนัก ในผู้ป่วยที่ไม่มีข้อบ่งชี้ อันตราย
๙.๑๔ การดมหรือการใส่เฝือก ชั่วคราว
๙.๑๗ หัตถการอื่นๆ ตามที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๙.๔ การใช้ออกซิเจน
๙.๗ การให้เลือด ตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๓ การถอดเล็บ การจี้หูดหรือจี้ตาปลา โดยใช้ยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง หรือฉีดยาชาเฉพาะที่
๙.๘ การเปิดทางเดินหายใจให้โล่งด้วยการดูดเสมหะ การเคาะปอด
๙.๑ การทำแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผลลึกไม่เกินชั้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนัง โดยใช้ยาระงับความรู้จักเฉพาะที่หรือการตัดไหมในตำแหน่งท่ไม่เป็นอันตราย ไม่เกินระดับระดับ ๒ ของแผลไหม้
๙.๕ การใช้สารน้ำทาางหลอดเลือดดำ ในผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤต ภาวะสูญเสียสมดุลของสารน้ำในร่างกาย ความเสี่ยงต่อภาวะช็อค การปฐมพยาบาล แผนการรักษา ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๒ การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอม การผ่าฝี การผ่าตัดตาปลา การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง ในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยใช้ยาระงับความรู้สึก ทางผิวหนัง หรือฉีดยาชาเฉพาะที่
๙.๖ การให้ยา ทางปาก ผิวหนัง หลอดเลือดดำ หรือช่องทางอื่นๆตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือตามท่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๙.๑๐ การเช็ดตา ล้างตา หยอดตา ป้ายตา ปิดตา หรือการล้างจมูก
หมวดที่ ๓
การรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มฯ (ข้อ ๑๐-๑๕)
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๑๑.๑ สาขาที่ศึกษาเฉพาะทาง
๑๑.๑.๑ สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป(การรักษาโรคเบื้องต้น)
๑๑.๑.๒ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา
๑๑.๑.๓ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน
๑๑.๑.๔ สาขาเวชปฏิบัติการบำบัดทดแทนไต (การล้างไตช่องท้อง)
๑๑.๑.๕ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติการบำบัดทดแทนไต (การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม)
๑๑.๑.๖ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติผู้สูงอายุ
๑๑.๑.๗ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤติ (ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ)
๑๑.๑.๘ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมการติดเชื้อ
๑๑.๑.๙ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง
๑๑.๑.๑๐ สาขาการพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด
๑๑.๑.๑๑ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยแบบประคับประคอง
๑๑.๑.๑๒ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว
๑๑.๑.๑๓ สาขาการจัดการโรคเรื้อรัง
๑๑.๑.๑๔ สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
๑๑.๑.๑๕ การพยาบาลสาขาอื่นที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๑๑.๒ ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรและได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตร ที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนดในสาขาต่อไปนี้
๑๑.๒.๑ การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
๑๑.๒.๒ การพยาบาลเด็ก
๑๑.๒.๓ การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต
๑๑.๒.๔ การพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมการติดเชื้อ
๑๑.๒.๕ การพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน
๑๑.๒.๖ การผดุงครรภ์
๑๑.๒.๗ การพยาบาลมารดาและทารก
๑๑.๒.๘ การพยาบาลสาขาอื่นที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๑๑.๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งตามข้อ ๑๑.๑ และข้อ ๑๑.๒ นอกจากปฏิบัติตามข้อ ๙ และข้อ ๑๐ ได้แล้วสามารถทำการพยาบาลรักษาโรคเบื้องต้นในสาขาที่ผ่านการศึกษาฝึกอบรมตามข้อบังคับหรือประกาศที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งให้กระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
๑๒.๑ ตรวจวินิจฉัยและบำบัดโรคตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพการพยาบาลที่สภาการพยาบาลกำหนด
๑๒.๒ ส่งผู้ป่วยไปรับการบำบัดจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่นเมื่ออาการไม่บรรเทา รุนแรงเพิ่มมากขึ้นมีภาวะโรคแทรกซ้อน
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งถ้าจำเป็นต้องใช้ยาให้ใช้ยาตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาลชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งการให้ภูมิคุ้มกันโรคต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ข้อ ๑๕ มีบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ อาการ
การเจ็บป่วย โรค การพยาบาล วันและเวลาการให้การพยาบาลตามแบบฟอร์มของสภาการพยาบาลไว้เป็นหลักฐานเป็นเวลา 5 ปี
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งให้กระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตาม ข้อกำหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคดังต่อไปนี้
๑๐.๑ ไข้ตัวร้อน
๑๐.๒ ไข้และมีผื่นหรือจุด
๑๐.๓ ไข้จับสั่น
๑๐.๔ ไอ
๑๐.๕ ปวดศีรษะ
๑๐.๖ ปวดเมื่อย
๑๐.๗ ปวดหลัง
๑๐.๘ ปวดเอว
๑๐.๙ ปวดท้อง
๑๐.๑๐ ท้องผูก
๑๐.๑๑ ท้องเดินคืน
๑๐.๑๒ คลื่นไส้อาเจียน
๑๐.๑๓ การอักเสบต่างๆ
๑๐.๑๔ โลหิตจาง
๑๐.๑๕ ดีซ่าน
๑๐.๑๖ โรคขาดสารอาหาร
๑๐.๑๗ อาหารเป็นพิษ
๑๐.๑๘ โรคพยาธิลำไส้
๑๐.๑๙ โรคบิด
๑๐.๒๐ โรคไข้หวัด
๑๐.๒๑ โรคหัด
๑๐.๒๒ โรคสุกใส
๑๐.๒๓ โรคคางทูม
๑๐.๒๔ โรคไอกรน
๑๐.๒๕ โรคผิวหนังเหน็บชา
๑๐.๒๖ ปวดฟัน
๑๐.๒๗ เหงือกอักเสบ
๑๐.๒๘ เจ็บตา
๑๐.๒๙ เจ็บหู
๑๐.๓๐ โรคติดต่อตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๑๐.๓๑ ภาวะแท้งคุกคามหรือหลังแท้งแล้ว
๑๐.๓๒ การให้ภูมิคุ้มกันโรคแก่บุคคลทั่วไป หญิงมีครรภ์หญิงหลังคลอด ทารกและเด็ก
๑๐.๓๓ ความเจ็บป่วยอื่นๆตามที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
หมวดที่ ๑
บททั่วไป (ข้อ ๔ คำจำกัดความ)
การรักษาโรคเบื้องต้น
การวินิจฉัยแยกโรค การรักษาโรคและการบาดเจ็บ การปฐมพยาบาล
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน
การเจ็บป่วยกระทันหัน การบำบัดรักษาอย่างทันท่วงที การปฐมพยาบาลตั้งแต่จุดเกิดเหตุ หรือจุดแรกพบผู้ป่วย
การเจ็บป่วยวิกฤต
การเจ็บป่วยขั้นรุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต พิการ
การให้ภูมิคุ้มกัน
มีภูมิต้านทานต่อโรคที่ต้องการโดยการให้วัคซีน
การปฐมพยาบาล
ให้ความช่วยเหลือ ดูแลเพื่อบรรเทาอาการ
หมวดที่ ๔
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๓ การพยาบาลมารดาและทารก ระยะหลังคลอด(ข้อ ๒๖-๓๗)
ข้อ ๒๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ [ชั้นหนึ่งจะต้องใช้ยาทำลายและป้องกันการติดเชื้อสำหรับหยอดตาหรือป้ายตาทารก
ข้อที่ ๒๘ การพยาบาลทารกแลกเกิดโดยการประเมินสัญญาณชีพ ความผิดปกติความพิการที่สามารถมองเห็นได้และให้มารดาได้สัมผัสโอบกอดทารกและเริ่มให้ดูดนมจากมารดาภายในชั่วโมงแรกหลังคลอด
ข้อ ๒๖ ผู้ประกอบวิชาชีพผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งให้การพยาบาลกับมารดาหลังคลิดดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะภาวะตกเลือดหลังคลอดและอาการอื่นอาจตามมา
ข้อ ๓๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้กระทำการพยาบาลระยะตั้งครรรภ์ ระยะคลอดและการพยาบาลหลังคลอดในรายตั้งครรภ์และการคลอดปกติในสถานพยาบาลและการเยี่ยมบ้านที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาลมารดาและทารกแรกเกิดเมื่อเป็นการทำร่วมกับผู้ประกอยวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งห้ามไม่ให้กระทำในกรณีที่เป็นปัญหายุ่งยากซับซ้อนหรือตรวจพบความผิดปกติ
ข้อ ๒๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งต้องบันทึกการรายงานเกี่ยวกับประวัติของหญิงตั้งครรภ์การพยาบาลระยะครรภ์ การคลอด การพยาบาลหลังคลอด และการให้บริการตามความเป็นจริงตามแบบของสภาการพยาบาลและต้องเก็บบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เป็นระยะเวลา ๕ ปี
ส่วนที่ ๔ การวางแผนครอบครัวการคัดกรองมารดาและทารก (ข้อ ๓๑-๓๕)
ข้อ ๓๑ ผู้ประกอบวิชาชีพผดุงครรรภ์ชั้นหนึ่ง สามารถทำการพยาบาลและการวางแผนครอบครัว
การให้คำปรึกษากับคู่สมรสในการวางแผนครอบครัวแบบวิธีธรรมชาติและการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติโดยไม่ใช้ยาหรืออุปกรณ์
การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรืออุปกรณ์
ยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาฉีดคุมกำเนิด
ถุงยางอนามัย
วงแหวนคุมกำเนิด
แผ่นแปะคุมกำเนิด
อื่นๆตามประกาศกระทรวงสาธารณะสุข
ข้อ ๓๒ ผู้ประกอวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งสามารถทำการคัดกรองมารดาทารก
การทำ Pap smear
ประเมินสภาวะสุขภาพความผิดปกติและการพิการของทารก
ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะให้ภูมิคุ้มกันโรคต้องปฎิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณะสุขกำหนด
ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้คำแนะนำเรื่องการเข้ารับภูมิคุ้มกันโรคและติดตามให้มารับภูมิคุ้มกันโรค
ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสองการให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรืออุปกรณ์
ยาเม็ดคุมกำเนิด
วงแหวนคุมกำเนิด
ถุงยางอนามัย
ส่วนที่ ๒ ระยะคลอด ข้อ(๑๙-๒๕)
ข้อ ๑๙ ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลการผดุงครรภ์ ขั้นหนึ่ง จะกระทำการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่ตั้งครรภ์ปกติและคลิดปกติตลอดจนการดูแลมารดาและทารกแรกเกิด
ข้อ ๒๕ ในรายที่มีการตกเลือดหลังคลอดถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอัตรายต่อมารดาให้รักษาการกเลือดเบื้องต้นตามความจำเป็นและส่งต่อทีนที
ข้อที่ ๒๔ ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลการผดุงครรภ์ ขั้นหนึ่ง จะกระทำ่วยคลอดฉุกเฉินในรายที่มีการคลอดผิดปกติที่ไม่สามารถตรวจพบก่อนการทำคลอดและไม่สามารถหาผู้ปรพะกอบวิชาชีพเวชกรรมการทำคลอดภายในเวลาอันสมควรและเห็นปรระจักษ์ว่าถถ้าละเลยจะเป็นอัตนรายต่อมารดาหรือทารกให้หทำคลอดในรายเช่นนั้นได้ แตต่่ห้หามใช้คีมสูงในนการทำคลอด หรือใช้เครื่องดูดสุญญากาศในการทำคลอดหรือการผ่าตัดในการทำคลอดหรือให้ยารัดมดลูกก่อนการทำคลอด
ข้อ ๒๓ ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลการผดุงครรภ์ ขั้นหนึ่ง กระทำที่เกี่ยวกับการคลอดดังนี้
การเย็บซ่อมฝีที่มีการฉีกขาดระดับ ๓
การใช้มือกดท้องขณะช่วยทำคลอด
การทำแท้ง
การเจาะน้ำคร่ำ เพื่อตรวจภาวะการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
การกลับท่าของทารกในครรภ์ทั้งภายในและภายนอกครรภ์
การทำคลอดที่มีความผิผดปกติ เช่น คลอดท่าก้น คลอดแฝด สายสะดือย้อย คลอดท่าขวาง หรือภาวะที่มีส่วนนำใหญ่กว่าช่องเชิงกราน เป็นต้น
การล้วงรก
ข้อ ๒๒ การช่วยเหลือผู้ประกอบบวิชาชีพเวชกรรมทำคลอดในรายที่มีการคลอดผิดปกติ เช่น การคลอกติดไหล่หน้า การใช้เครื่องมือช่วยคลอดด้วยเครื่องมือสุญญากาศด้วยคีม การช่วยผ่าตัดคลอด การช่วยทำหัตถการทางสูติกรรมทที่มีความปลอดภัยต่อหญิงมีครรภ์
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลการผดุงครรภ์ ขั้นหนึ่ง ให้การผดุงครรภ์ระยะก่อนคลอด
การประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
การตรวจประเมินทารกในครรภ์
การตรวจการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
ประมาณน้ำหนักทารก
ส่วนนำและท่าทารกในครรภ์
การประเมินหญิงมีครรภ์
การตรวจน่าท้องเพื่อประเมินความพร้อมในการคลอด
ประเมินประวัติการตั้งครรภ์และประวัติการจ็บป่วยอื่นๆปที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และการคลอด
ข้อ ๒๑ การพยาบาลระบยะคลอด
การประเมินสัญญาณชีพหลังคลอดทันทีและก่อนการย้ายออกจากห้องคลอด
การประเมินเลือดเสีย
การซ่อมแซมฝีเย็บในรายที่มีการฉีกาดทีไม่เกินระดับ ๒
ทำคลอดทารกและเยื่อหุ้มทารกการตรวจรกและเยื่อหุ้มในรายที่รกค้างถถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาให้ทำคลอดรกด้วยวิธีพยุงดึงรั้งสายสะดือถ้ารกไม่คลอดให้ส่งต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อมทันที
การทำคลอดในรายปกติเตรียมทำคลอดเมื่อปากมดลูกเปิดสมบูรณ์ ส่วนนำอยู่ในอุ้งเชิงกรานพร้อมคลอด ตัดฝีเย็บตามข้อบ่งชี้การททำคลอด การดูแลทารกแรกเกิดทันที
การพยาบาลหญิงมีครรภ์ที่ได้รับการักนำการทำคลอด
ส่วนที่ ๑ ระยะ่อนตั้งครรภ์และระยะตั้งครรภ์ (ข้อ ๑๖-๑๘)
ข้อ ๑๘ ส่งต่อหญิงมีครรภ์กลุ่มเสี่ยงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข การตรวจพบภาวะครรภ์เป็นพิษหรือส่วนนำหรือท่าทารกในครรภ์ผิดปกติหรือมีภาวะความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และการคลอดอื่นๆให้ได้รับ
การรักษาพยาบาลจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือส่งตอบไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อมเพื่อความปลอดภัยของหญิงมีครรภ์และทารก
ข้อ ๑๗ แนะนำและส่งต่อหญิงมีครรภ์ให้ได้รับการตรวจและการรักษากับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามเกณฑ์การฝากครรภ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ 16 ผู้ประกอบวิชาชีพ การผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งให้การผดุงครรภ์แก่หญิงและครอบครัว เมื่อต้องการมีบุตร ก่อนการตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์ด้วยกระบวนการ
16.1 การตรวจประเมินภาวะสุขภาพของหญิงและคู่สมรสเพื่อวางแผนการมีบุตร
16.2 การตรวจประเมินภาวะการตั้งครรภ์ด้วยเวชภัณฑ์ทดสอบการตั้งครรภ์
16.3 การรับฝากครรภ์
๑๖.๓.๖ ให้ยาเสริมธาตุเหล็กและโฟเลตแก่หญิงมีครรภ์
๑๖. ๓.๗ การให้วัคซีนป้องกันบาดทะยักและวัคซีนอื่นๆ ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
๑๖.๓.๕ การตรวจครรภ์และทารกในครรภ์ เพื่อประเมินถาวะการตั้งครรภ์และตรวจเต้านมและหัวนม เพื่อเตรียมพร้อมให้นมของมารดา
๑๖. ๓.๒ การประเมินเจ็บป่วยในอดีตและปัจจุบันที่อาจมีผลกระทบกับการตั้งครรภ์ การคลอด การผ่าตัดอื่น ที่นอกเหนือไปจากการผ่าตัดคลอด การใช้ยา การแพ้ยาและอาหาร
๑๖. ๓.๑ การประเมินภาวะสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ การสอน การปฏิบัติตนของบิดาและมารดาในระหว่างตั้งครรภ์ การคลอดและหลังคลอดเพื่อการเตรียมการคลอด
๑๖.๓.๓ การประเมินประวัติทางสูติกรรมจำนวนครั้งที่เคยตั้งครรภ์ ผลการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง รายละเอียดการคลอด ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งก่อน
๑๖.๓.๔ การตรวจครรภ์และทารกในครรภ์
เพื่อประเมินภาวะโภชนาการของหญิงมีครรภ์