Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่4 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล - Coggle Diagram
บทที่4 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล
เครื่องมือในการวัดพฤติกรรมทางการศึกษา
มุ่งหวังให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงเกิดพฤติกรรมทั้ง 3 ด้าน
ด้านปัญหาที่ตามมา
พฤติกรรมทางการศึกษาทั้ง 3 ด้านนั้นเป็นพฤติกรรมที่แฝงอยู่ในตัวบุคคล
เครื่องมือที่ใช้
ตรวจสอบรายการ
ส่วนใหญ่จะใช้ในการวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยและพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
การสร้างแบบตรวจสอบรายการ
ตรวจสอบข้อความว่าชัดเจนหรือไม่
นำไปทดลองใช้
เขียนข้อความเพื่อแสดงพฤติกรรม
กำหนดพฤติกรรมที่จะวัด
กำหนด ลักษณะของสิ่งที่ต้องการวัด
ข้อดี
ง่ายต่อการใช้และสามารถนำไปใช้วัดพฤติกรรมทางการศึกษาด้านจิตพิสัยและทักษะพิสัยร่วมกับการสังเกตได้
ข้อเสีย
พฤติกรรมหรือคุณลักษณะของผู้เรียนที่จะวัดนั้นต้องชัดเจนมิเช่นนั้นจะทำให้สื่อความหมายไม่ตรงกัน
มาตราส่วนประมาณค่า
การสร้างเครื่องมือมาตราส่วนประมาณค่า
เลือกรูปแบบของมาตราส่วนประมาณค่า
เขียนข้อความที่แสดงพฤติกรรม
กำหนดพฤติกรรมที่จะวัด
ตรวจสอบข้อความว่าชัดเจนหรือไม่
กำหนดลักษณะของสิ่งที่ต้องการวัด
นำไปเสนอผู้เชี่ยวชาญให้ตรวจสอบความเที่ยงตรง
นำไปทดลองใช้
แบ่งเป็น
มาตราส่วนประมาณค่าแบบบรรยาย
เป็นการใช้ข้อความบรรยายพฤติกรรมเพื่อให้พิจารณาเลือกระดับของพฤติกรรมที่ผู้เรียนหรือผู้วัดมี
มาตราส่วนประมาณค่าแบบตัวเลข
เป็นการใช้ตัวเลขบรรยายพฤติกรรมเพื่อให้ผู้วัดพิจารณาเลือกระดับของพฤติกรรมที่ผู้เรียนมี
มาตราส่วนประมาณค่าแบบใช้สัญลักษณ์หรือภาพประกอบ
เป็นการใช้ภาพประกอบหรือสัญลักษณ์เพื่อบรรยายพฤติกรรมให้พิจารณาเลือกระดับของพฤติกรรมที่ผู้เรียนมี
การจัดอันดับ
การวัดพฤติกรรมประเทศนี้จะให้พูดถูกวัดพยายามจัดเรียงความสำคัญตามสถานการณ์ที่กำหนดให้
ข้อดี
ครูผู้สอนจะได้ระดับของพฤติกรรมของผู้เรียนว่ามีมากน้อยเพียงใด
ข้อเสียและข้อควรระวัง
คำถามต้องชัดเจน
แบบวัดเชิงสถานการณ์
การสร้างเครื่องมือมาตราส่วนประมาณค่า
เลือกข้อความ
พยายามเขียนคำถามเพื่อถามตามใจความเนื้อหา
กำหนดเนื้อหาและพฤติกรรม
นำไปทดลองใช้
ข้อดี
ครูสามารถวัดพฤติกรรมของผู้เรียนในระดับสูงได้ทั้งพฤติกรรมในด้านพุทธิพิสัยและจิตพิสัย
ข้อจำกัด
ครูจะต้องมีความรู้ความสามารถในการสร้างแบบวัดแล้วนำมาผนวกกับเงื่อนไขที่เป็นไปตามเนื้อหาที่ได้สอนผู้เรียน
การสังเกต
สังเกตโดยผู้สังเกตเข้าไปร่วมในเหตุการณ์หรือกิจกรรม
การสังเกตโดยผู้สังเกตไม่ได้ร่วมในเหตุการณ์หรือกิจกรรม
การสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง
การสังเกตที่ผู้สังเกตไม่ได้กำหนดเรื่องเฉพาะที่มุ่งสังเกตเพียงอย่างเดียว
การสังเกตแบบมีโครงสร้าง
การสังเกตที่ผู้สังเกตกำหนดเรื่องเฉพาะที่จะสังเกตเอาไว้แล้ว
อาจจะเลือกสุ่มเวลาในการสังเกตหรือเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่การสรุปผลของพฤติกรรม
หลักทั่วไปในการสังเกต
ที่ทำการสังเกตต้องพยายามไม่ให้พูดถูกสังเกตรู้ตัว
บันทึกผลการแสดงพฤติกรรมของผู้ถูกสังเกตทันที
สังเกตอย่างพินิจพิเคราะห์
บันทึกข้อมูลเฉพาะที่สังเกตได้เท่านั้น
มีจุดมุ่งหมายการสังเกตที่แน่นอน
ควรสังเกตหลายๆครั้งก่อนสรุปผล
การสัมภาษณ์
การสนทนาหรือผู้โต้ตอบกันอย่างมีจุดหมายเพื่อค้นหาความรู้ความจริงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ครื่องมือประเภทนี้ส่วนใหญ่ใช้ในการวัดพฤติกรรมทางการศึกษาทั้ง 3 ด้าน
ด้านทักษะพิสัย
ด้านจิตพิสัย
ด้านพุทธิพิสัย
โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 แบบ
การสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง
ไม่จำเป็นต้องใช้คำถามที่เหมือนกันหมดกับผู้สัมภาษณ์ทุกคน แต่จะต้องใช้เทคนิคและความสามารถเฉพาะตัวเพื่อให้ได้คำตอบจากผู้สัมภาษณ์ตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้
การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง
การสัมภาษณ์ที่ผู้สัมภาษณ์จะใช้แบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้นไว้เป็นแบบในการถาม
หลักในการสัมภาษณ์
ในระหว่างการสัมภาษณ์จะต้องสร้างบรรยากาศที่ดี มีความเป็นมิตร มีไหวพริบสังเกตผู้ถูกสัมภาษณ์
การจดบันทึกคำตอบในระหว่างการสัมภาษณ์ต้องจดทันที
การเตรียมตัวก่อนการสัมภาษณ์
แบบสอบถาม
เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันมาก
ส่วนใหญ่ใช้ในการวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย
ประกอบด้วย3 ส่วนดังนี้
คำชี้แจงของแบบสอบถาม
สถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
พฤติกรรมที่ต้องการวัด
รูปแบบของแบบสอบถาม
แบบสอบถามแบบปลายปิด
แบบสอบถามแบบปลายเปิด
แบบตรวจสอบรายการ
แบบมาตราส่วนประมาณค่า
จัดอันดับ
หลักในการสร้างแบบสอบถาม
กำหนดชนิดแบบสอบถาม
กำหนดคำถาม
กำหนดประเด็น
สร้างข้อคำถาม
กำหนดจุดมุ่งหมาย
ตรวจทานแก้ไข
แบบภาคปฎิบัติ
ประเภทของการวัดผลภาคปฏิบัติ
แบ่งตามด้านที่ต้องการวัด
การวัดผลงาน
การวัดกระบวนการ
แบ่งตามลักษณะของสถานการณ์
ใช้สถานการณ์จำลอง
ใช้สถานการณ์จริง
แบ่งตามสิ่งเร้า
สิ่งเร้าที่จัดขึ้น
สิ่งเร้าตามธรรมชาติ
หลักการและวิธีการในการทดสอบภาคปฏิบัติ
วิเคราะห์และเขียนรายการ
วิเคราะห์ว่างานที่ต้องการทดสอบการปฏิบัติงานของผู้เรียนนั้นใช้ในการวัดพฤติกรรมด้านใดของผู้เรียน
กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานของกิจกรรมที่จะวัด
เขียนข้อรายการระบุรายละเอียดแต่ละขั้นตอน
ศึกษาตัวแปรที่ส่งผลให้การปฏิบัติงานนั้นมีคุณภาพแตกต่างกัน
รูปแบบของเครื่องมือโดย เลือกแบบวัดว่าต้องการแบบวัดใด
กำหนดน้ำหนักคะแนน
กำหนดเกณฑ์ในการตัดสินใจ
จัดรูปแบบของเครื่องมือ
พฤติกรรมและลักษณะการแสดงออก
ครูจะต้องรู้ว่าจะสอนให้เกิดพฤติกรรมอะไร
ต้องรู้ว่าจะสอนให้เกิดพฤติกรรมนั้นอย่างไร โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้เรียนที่ปรากฏในจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม