Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การสังเคราะห์แสง(photosyntextthesis), โครงสร้างประกอบด้วย ส่วนหัว…
การสังเคราะห์แสง(photosyntextthesis)
แสง (light)
แสง ที่มีประโยชน์มีความยาวช่วงคลื่น 400 - 700 นาโนเมตร ประกอบด้วยอนุภาคพลังงานที่ เรียกว่า โฟตอน (Photon) พลังงานของโฟตอน แปรผกผันกับ ความยาวคลื่น
พลังงานแสงถูกดูดกลืนโดยรงควัตถุ(pigment)
3 กลุ่ม คือ คลอโรฟิลล์ คาโรทีนอยด์ และ ไฟโคบิลิน (ในพืช ไม่มีไฟโคบิลิน)
การดูดกลืนพลังงานแสงของรงควัตถุสอดคล้อง กับ ประสิทธิภาพการสังเคราะห์ด้วยแสง
สารสี หรือรงควัตถุ(pigment)
คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)
ส่วนหาง --> ไฮโดรคาร์บอนช่วยยึดกับระบบแสง
มี 4 ชนิด: chlorophyll a, b, c และ d
chlorophyll a --- มีสีเขียวแกมน้ำเงินพบในพืชสีเขียวและพืชทุกชนิดที่สังเคราะห์แสงได้
chlorophyll b --- มีสีเขียวแกมเหลือง พบในพืชชั้นสูงและสาหร่ายสีเขียว
chlorophyll c --- พบในพืชสาหร่ายสีน้ำตาลและสาหร่ายสีทอง
chlorophyll d --- พบในพืชสาหร่ายสีแดง
เป็นอนุพันธ์ของสารจำพวก porphyrin
แคโรทีนอยด์ (Carotenoid)
เป็นรงควตัถุที่มีสีเหลืองสม้ แดงน้าํตาล
เช่น carotene, xanthophyll
อยู่ร่วมกับคลอโรฟิลล์ในไทลาคอยด์เมมเบรน
ดูดกลืนแสงสีน้ำเงิน (400 – 500 nm) แล้วถ่ายยทอดพลังงานให้คลอโรฟิลล์ปกป้องคลอโรฟิลล์ให้ถูกทำลายโดยอะตอมของออกซิเจนที่เป็นอนุมูลอิสระ
ป้องกันคลอโรฟิลล์ไม่ให้ถูกทำลาย โดยอะตอมของออกซิเจนที่เป็นอนุมูลอิสระ
แคโรทีนนอยด์ ไม่ได้มีบทบาทในการสังเคราะห์แสงโดยตรง แต่เป็นตัวรับพลังงานแสงแล้วส่งต่อให้กับคลอโรฟิลล์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสงอีกต่อหนึ่ง
ไฟโคบิลิน (Phycobilin)
เป็นรงควัตถุที่ไม่พบในพืชชั้สูงโดยมากเป็นรงควัตถุถุเสริมที่พบในสาหร่าย สีน้ำเงินและสาหร่ายสีแดง
แบ่งเป็นไฟโคอิริทรินซึ่งดูดแสงสีเขียวและไฟโคไซยานินดูดแสงสีส้ม แดง
ความสำคัญของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
เป็นแหล่งอาหารและแหล่งพลังงานที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เนื่องจากพืชสีเขียวได้รับน้ำ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และพลังงานแสง จากดวงอาทิตย์ ไปสร้างสารอาหารพวกน้ำตาลและสารอาหารนี้ สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นสารอาหารอื่น ๆ ได้ เช่น แป้ง โปรตีน ไขมัน ซึ่งสิ่งมีชีวิตได้นำไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการต่าง ๆ ของชีวิต จึงถือว่าสารอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
เป็นแหล่งผลิตแก๊สออกซิเจนที่สำคัญของระบบนิเวศ โดยแก๊สออกซิเจน เป็นผลที่เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ซึ่งแก๊สออกซิเจน เป็นแก๊สที่สิ่งมีชีวิตใช้ในการสลายอาหาร เพื่อสร้างพลังงานหรือใช้ในกระบวนการหายใจนั่นเอง
ช่วยลดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ เพราะพืชต้องใช้แก๊สนี้เป็นวัตถุดิบในการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยปกติแก๊สชนิดนี้เป็นแก๊สที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีอยู่ในบรรยากาศประมาณ 0.03% เท่านั้น แต่เนื่องจากในปัจจุบันการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์มีมากขึ้น จึงทำให้มีแก๊สชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นสัดส่วนของอากาศที่หายใจจึงเสียไป ทำให้ได้รับแก๊สออกซิเจนน้อยลง จึงเกิดอาการอ่อนเพลีย ส่งผลทำให้โลกของเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ เรียกว่า " ปรากฏการณ์เรือนกระจก (green house effect) " เนื่องจาก คาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศเป็นเสมือนกระจกที่ปิดกั้นการกระจายความร้อนออกจากผิวโลกดังนั้นจึงควรช่วยกันปลูกพืช และรักษาพื้นที่ป่า เพื่อดูดซับปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศให้น้อยลง
กระบวนการสังเคราะห์แสง
เป็นกระบวนการทีสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานเคมี โดยเก็บสะสมไว้ในสารอินทรีย์ที่สิ่งมีชีวิตสร้างขึ้น และพลังงานเคมีที่สร้างขึ้นจัดว่าเป็นแหล่งพลังงานที่สิ่งมีชีวิตต่างๆในโลกได้ใช้ประโยชน์
โครงสร้างประกอบด้วย
ส่วนหัว (Hydrophilic)
: ทําหน้าที่ดูดพลังงานแสง
: เป็นไพโรลแบบวงแหวน 4 วง มี Mg อยู่ตรงกลาง
เป็นอนุพันธ์ของสารจําพวก porphyrin
** ปกติไม่ละลายน้ำ แต่ละลายได้ดีในตัวทําละลาย เช่น อีเธอร์ อะซิโตน