Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กจนถึงวัยรุ่นทที่มีปัญหาระบบหัวใจ, พัฒพงษ์ ธรรมสุวรรณ์…
การพยาบาลเด็กจนถึงวัยรุ่นทที่มีปัญหาระบบหัวใจ
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว
( Acyanotic Type )
ชนิด
ความผิดปกติของผนังกั้นหัวใจห้องบน (ASD)
สาเหตุ
การสร้างผนังกั้นเอเตรียมที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดรูรั่วเป็นทางติดต่อระหว่างเอเตรียมซ้ายและขวา
พยาธิสภาพ
เลือดแดงไหลจากห้องบนซ้านผ่านไปยังรูรั่วและลงสู่ห้องล่างขวา เกิด left to right shun ทำให้หัวใจห้องบนขวาและห้องล่างขวาโตและขยายตัวขึ้น เนื่องจากทำงานเพิ่มขึ้น
หลอดเลือดในปอดชั้น media หนาตัวขึ้น จากการรับเลือดปริมาณมาก แต่ห้องล่างขวาต้องออกแรงบีบตัวเพิ่มขึ้นจึงเกิดเกิดภาวะ tricuspid valve รั่ว
การรักษา
การรักษาทางยาเมื่อเกิดภาวะหัวใจวายหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
การผ่าตัดสามารถทำได้เมื่อวัยก่อนเข้าเรียนหรือทำ ก่อนถ้าเด็กมีอาการโดยการเย็บปิดผนังกั้นของ ASD หรือเย็บซ่อมลิ้นหัวใจ mitral
อาการ
อาการอ่อนเพลียเวลาออกกา ลงักาย เหนื่อยง่าย เหงื่อออกมาก เป็นหวัดหรือปอดบวมบ่อยๆ มีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ
การวินิจฉัย
echocardiogram : ขนาดของ atrium ขวาและ ventricle ขวา รวมทั้งหลอดเลือดแดง pulmonary มีขนาดใหญ่ขึ้น เห็นรูรั่วบริเวณผนังกั้นหัวใจห้องบนชัดเจน
EKG : อาจมี atrium ขวาโต พบวา่ มีP wave สูงแหลม
chest x–ray : พบหัวใจโตเล็กน้อย มี ventricle ขวาโต และอาจจะมีatrium ขวาโต มีหลอดเลือดที่ปอดเพิ่ม
การตรวจร่างกาย : ตรวจพบ ventricle ขวาโต เสียงที่หนึ่ง (S1) ต่ำ กว่าปกติที่บริเวณลิ้นไตรคัสปิด
การซักประวัติ : หายใจเร็ว เหนื่อยง่ายอกบุ๋ม ไม่มีอาการเขียว ตัวเล็ก
ความผิดปกติของผนังกั้นหัวใจห้องล่าง (VSD)
สาเหตุ
พิการของหัวใจที่มีทางเชื่อติดต่อระหว่าง ventricle ซ้ายและขวา
พยาธิสภาพ
ไหลลัดจาก ventricle ซ้ายไปขวา ไหลไปสู่ปอดเพื่อแลกเปลี่ยนออกซิเจน แล้วไหลสู่หัวใจห้องบนซ้ายลงสู่หัวใจห้องล่างซ้ายทำงานบีบตัวมากขึ้น เลือดส่วนหนึ่งผ่านรูรั่วกลับเขา้สู่หัวใจห้องล่างขวาใหม่กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายจึงโตกว่าปกติ
เมื่อเลือดลัดวงจรจากซ้ายไปขวานานๆ pulmonary สูงกว่าแรงต้านของหลอดเลือดทั่วร่างกายทำให้เลือดไหลกลับดจากหวัใจห้องล่างขวาไปซ้าย (right to left shunt) เลือดดำไปเลี่ยงทั่วร่างกายเกิดอาการเขียว เรียกว่า
Eisenmenger’ s syndrome
อาการ
VSD ขนาดเล็กผปู้่วยมักไม่มีอาการการเจริญเติบโตปกติ
VSD ขนาดปานกลางผูป้่วยอาจมีอาการเหนื่อยง่าย ตัวเล็กและมีการติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย พัฒนาการทางร่างกายช้า ดูดนมลำบากต้องพักเหนื่อย ตรวจพบหัวใจโตเล็กน้อย
VSD ขนาดใหญ่ มักจะเริ่มมีอาการเหนื่อยง่ายเมื่อทารกอายุประมาณ 1 – 2 เดือน เลี้ยงไม่โต ติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย ตัวเล็ก หายใจเหนื่อยหอบ มักจะไม่มีอาการเขียวขณะอยู่นิ่ง แต่อาจจะเขียวเล็กน้อยเวลาร้อง หรือออกแรงมากๆ ตรวจพบหัวใจโตและมีอาการแสดงของภาวะหัวใจวาย
การรักษา
การดูแลสุขภาพทั่วไป
VSD ขนาดเล็กและขนาดกลาง : ดูแลสุขภาพอนามัย ระมัดระวัการติดเชื้อ ดูแลสุขภาพช่อปาก
VSD ขนาดใหญ่ : ทำการผ่าตัด
การผ่าตัด
การผ่าตัดบรรเทาการโดยรัด pulmonary artery ใหเล็กลง
การผ่าตัดเย็บปิดรูพิการ เพื่อควบคุมภาวะหัวใจวาย
การผา่ตัดเปิดหัวใจเพื่อแก้ไขความผิดปกติของหัวใจ
กรณีมีภาวะหัวใจวาย ให้ยา digitalis ยาขับปัสสาวะ ยาขยายหลอดเลือด
การวินิจฉัย
การซักประวัติ : หายใจเร็วผิดปกติ เด็กตัวเล็ก โตช้า
การตรวจร่างกาย : พบเสียง murmur
EKG : พบ left atrium และ ventricle โต
chest x-ray
VSD ขนาดเล็ก : ขนาดหัวใจมักปกติหรือโตเล็กน้อย
VSD ขนาดปานกลาง : มีหัวใจโต หลอดเลือดที่ปอดเพิ่มขึ้น
VSD ขนาดใหญ่ : หัวใจโตมาก หลอดเลือดที่ปอดเพิ่มขึ้นมาก พบ ventricle
echocardiogram : มองเห็นขนาดรูรั่วและห้องหวัใจที่โตขึ้น
Patent Ductus Ateriosus: PDA
สาเหตุ
หลอดเลือด ductus arteriosus ไม่ปิดภายหลังทารกคลอด ทำให้เลือดแดงไหลจาก aorta เข้าสู่ pulmonary artery
พยาธิสภาพ
ความดันของเลือดในหลอดเลือด aorta สูงกว่า pulmonary เลือดจึงไหลเวียนกลับ หัวด้านซ้ายทำงานมากกว่าปกติจึงเกิดหัวใจโต
เมื่อเลือแดงไหลกลับสู่ปอดมากขึ้น ความดันในปอดสูงเกิด right to left shunt เลือดดำผสมแดงและไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายทำให้เกิดอาการเขียวที่ขาและเท้า แต่แขนและใบหน้าไมมีอาการเขียว เรียกว่าภาวะ differential cyanosi
อาการและอาการแสดง
PDA ขนาดเล็ก : ไม่มีอาการ หัวใจอาจโตเล็กน้อย ได้ยิน murmur
PDA ขนาดปานกลาง : เหนื่อยง่านเล็กน้อย ติดเชื้อทาเดินหายใจบ่อย หัวใจซีกซ้ายโต พัฒนาการไม่สมวัย
PDA ขนาดใหญ่ : มีอาการมากตั้งแต่ทารก ทารกคลอดก่อนกำหนดหัวใจวาย เหนื่อยหอบ น้ำหนักตัวไม่เพิ่ม ติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย เขียวปลายนิ้วเท้า หัวใจโต
การวินิจฉัย
ซักประวัติ : ตัวเล็ก น้ำหนักน้อย หายใจเร็ว
ตรวจร่างกาย
ได้ยิน murmur ที่ pulmonic
bounding pulse
pulse pressure กว้างกว่า systolic 1/2
chest x-ray : venticle ซ้ายโต pulmonary artery มีขนาดใหญ่ หลอดเลือดที่ปอดเพิ่มขึ้น
EKG : หัวใจล่างซ้ายโต
echocardiogram : หัวใจล่างซ้ายโต วัก ductus arteriosus ได้
การรักษา
รายทีไม่มีอากาทำการผ่าตัดโดยผูกหรือตัด ductus arteriosus
การให้ยา Indomethacin ในทารกแรกคลอดหรือคลอดก่อนกำหนดที่มีหัวใจวาย
หลอดเลือดเอออร์ตาตีบ (COA)
สาเหตุ
การตีบแคบหรืออุดตันของส่วนใดส่วนหนึ่งของหลอดเลือด aorta ซึ่งส่วนใหญ่มักพบที่ aortic arch
พยาธิสภาพ
aorta ส่วน coarctation แคบลง ventricle ซ้ายทำงานหนัก aortic blood flow ลดลงเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลงและทำให้การทำงานของ ventricle ซ้ายเสียไป เป็นผลให้ความดันเลือดใน atrium ซ้ายสูงขึ้น มีleft to right shun กิดอาการหัวใจวาย
อาการและอาการแสดง
ทากแรกเกิดมาด้วยอาการหัวใจวาย : หายใจเหนื่อยหอบ เลี้ยงไม่โต
ตรวจร่างกายจะพบว่ามีหายใจเร็ว ชีพจรที่แขนจะแรงกว่าที่ขา
เด็กโตส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ถ้ามีก็ เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจวายและติดเชื้อที่เยื่อหุ้มหัวใจ
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
รูปร่างหนา้ตาปกติ มี hypertrophy และ pop-eye appearance
Turner’ s syndrome
ชีพจรส่วนล่างของร่างกายเบา
ขาอาจจะเย็นกว่าแขน
การไหลเวียนสู่ส่วนล่างไม่ดีทำให้มีอาการปวดศีรษะ วิงเวียน เป็นลม
BP สูง
เมื่อออกกำลังกายมีอาการปวดขาหรืออ่อนแรง เกิดตะคริวเนื่องจากเนื้อเยื่อขาก O2
chest x-ray : หัวใจห้องล่างซ้ายโต aorta ส่วนหน้าของบริเวณตีบแคบจะขยายใหญ่ขึ้น
EKG : หัวใจห้องล่างซ้ายโตในเด็กโต ส่วนเด็กเล็กจะพบ ventricle ขวาโต
echocardiogram : พบ hypoplasia ของ aortic isthmus อาจมี post stenosis dilation
การรักษา
รักษาทางยา digitalis รายมีภาวะหัวใจวาย
Transluminal angioplasty with Balloon dilation หลัง dilate อาจเกิด aneurysm ได้
ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง แนะนำให้ทำผ่าตัด end to end anastomosis
Pulmonary Stenosis (PS)
สาเหตุ
การตีบของลิ้น pulmonary ทำให้เลือดจากหัวใจห้องล่างขวาไปยัง pulmonary artery ได้ยากขึ้น
พยาธิสภาพ
ทางออก ventricle ขวาอุดกั้นให้ ventricle ขวาต้องบีบตวัแรงขึ้นกล้ามเนื้อ ventricle หนาตัวขึ้น เลือดจาก atrium ขวาไหลลง ventricle ขวาได้ไม่สะดวก เกิดการไหลลัดวงจากจากatrium ขวาไปซ้าย (right to left shunt )
ทำใหเ้กิดอาการเขียวได้
อาการ
ชนิดที่มีการตีบแคบน้อย : ไม่มีอาการอาจพบ systolic murmur
ชนิดที่มีการตีบแคบปานกลาง : อาจไม่มีอาการหรือมีอาการเหนื่อยง่ายเพียงเล็กน้อยเวลาออกแรง พบ systolic murmur
ชนิดที่มีการตีบแคบมาก : มีอาการของภาวะหัวใจซีกขวาวายหรือมีอาการเขียวเล็กน้อยในเด็กเล็กเด็กโตมักมีอาการเหนื่อยง่ายอาจมีอาการเขียว พบ systolic murmur บางรายเป็นลมหมดสติ เสียชีวิตขณะออกกำลังกาย
การวินิจฉัย
การซักประวัต
การตรวจร่างกาย : ฟังได้ systolic murmur บริเวณอกด้านซ้ายด้านบน คลำได้ ventricle ขวาโต
EKG : ventricle ขวาโต atrium ขวาโต
chest x-ray : pulmonary artery หัวใจห้องบน และล่างขวาโต โป่งพอง หลอดเลือดที่ปอดมักจะน้อยลง
echocardiogram : พบ atrium ขวาโต ventricle ขวาหนาขึ้น ดูโป่งพอง และมีการตีบแคบของหลอดเลือด pulmonary
การรักษา
mild pulmonary stenosis ไม่ต้องผ่าตัด
มีอาการมากทำการผา่ตัด pulmonary valvotomy และ balloon valvuloplasty เพื่อขยายลิ้น pulmonary
ให้คำแนะนำในการป้องกนัการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจและผนังหัวใจ
สาเหตุ
เกิดจากการที่เลือดไหลลัดวงจรจากซ้ายไปขวา (left to right shunt) โดยมีทางเชื่อมระหว่างระบบเลือดแดงและเลือดดา ซึ่งมีความดันทางเลือดแดงสูงกว่าเลือดดำ
เกิดจากการอุดก้นัการไหลเวียน (obstructive lesion)
การพยาบาล
ตรวจวัดสัญญาณชีพ สังเกตอาการผิดปกติ
ดูแลให้ได้รับ O2 แผนการรักษา หากมีปัญหาพร่อง O2
รักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่
ดูแลให้พักผ่อน เพื่อลดการทำงานของหัวใจ
จำกัดเกลือในอาหารเพื่อป้องกันการงสะสมของโซเดียม จำกัดน้ำ ปกติจะให้น้ำประมาณ 50-80 % ของปริมาตรน้ำที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน
ให้ดูคนมครั้งละน้อยา แต่บ่อยครั้ง ให้พักระหว่างการดูคแต่ละมื้อ กรณีให้นมผสม เลือกหัวนมที่นุ่ม มีขนาครูพอเหมาะ เพื่อไม่ใช้แรงในการดูดนมมากเกิน ไป
ถ้ามีอาการเหนื่อยหอบอาจต้องให้นมโดยการใส่สายยางเข้าสู่กระเพาะอาหาร (nasogastric drip)
ให้ยาตามแผนการรักษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ เช่น digitali
สังเกตอาการไม่พึงประสงค์
ติดตามผลการตราจทางห้องปฏิบัติการ
บันทึกสารน้ำเข้าออกร่างกาย
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดที่มีอาการเขียว
(Cyanotic Type)
ชนิด
Tetralogy of Fallot (TOF)
สาเหตุ
เป็นโรคหัวใจที่มีความผิดปกติแต่กำเนิดหลายอย่างที่พบไดตั้งแต่แรกคลอดทันที ความพิการ
4 ประการของฟาโลท์ คือ
Ventricular Septal Defect : VSD
Pulmonary Stenosis (PS)
Overriding aorta
Right Ventricular Hypertrophy (RVH) มีการหนาตัวของ ventricle
พยาธิสรีรวิทยา
มีเลือดลัดวงจรจากขวาไปซ้ายในระดับ ventricle จากการที่จากมีการอุดกั้น ventricle ขวาจาก PS และมี VSD หัวใจล่าขวาทำงานหนัก O2 ในร่างการต่ำจึงชดเชยด้วยการ polycythemia เลือดจึหนืดและ thrombophlebitis emboli ได้ง่าย
อาการ
อายุ 3-6 เดือน
เขียวเฉพาะตอนออกกำลังกาย
ดูดนม
ร้องไห้
เจริญเติบโตช้ากว่าปกติ
เด็กที่เดินได้แล้ว
เหนื่อยง่าย
เวลาเหนื่อยจะนั่งยองๆ (squatting)
บางรายเกิดภาวะ anoxic spells
กระสับกระส่าย
ร้องกวน
หยุดหายใจเป็นพัก ๆ
หายใจแรงลึก
ตวัเขียวมากขึ้น
อ่อนเพลีย
เชื่องช้า
เล็บมือเล็บเท้าเขียว
ตัวและปากเขียว
ตัวแข็ง
ตาเหลือก
ไม่รู้สึกตัว
ชัก
อาจเสียชีวิต
การวินิจฉัย
การซักประวัติ : ตามอาการ/เด็กโตช้า พัฒนาการไม่สมวัย น้ำหนักน้อย
การตรวจร่างกาย
น้ำหนักและส่วนสูงน้อยกว่าปกติ: ตัวเล็ก ผอมกว่า ปกติ
ปากและเล็บเขียว นิ้วมือและนิ้วเท้าปุ้ม (clubbing finger)
ฟังพบ systolic ejection murmur
Lab : พบ Hct/ Hb สูงขึ้น
chest x-ray : พบหัวใจห้องล่างขวาโต pulmonary artery ที่ไปปอดขนาดเล็กกว่า ปกติและหลอดเลือดไปปอดลดลง
EKG : มี ventricle ขวาโต แกน QRS เบี่ยงเบนไปขวา
echocardiogram : พบ atrium ขวาโต ventricle ขวาหนา aorta คร่อม VSD pulmonary valve เล็ก
การรักษา
การรักษาทั่วไป
ดูแลสุขวิทยาทั่วไป
ให้ยาป้องกัน infective endocarditis หากเกิดภาวะติดเชื้อเข้าไปในระบบไหลเวียนโลหิต
ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก (cerebrovascular accident : CVA)
รักษาภาวะ anoxic spells โดยการให้นอนท่าknee-chest position
การรักษาทางศัลยกรรม โดยทำการต่อระบบไหลเวียน เพื่อเพิ่มปริมาณเลือดไปปอด ให้มากขึ้น
Transpositionof the Great Vessels (TGV)
สาเหตุ
aorta และ pulmonary artery อยู่สลับที่กัน โดย aorta จะออกจากventricle ขวา แต่pulmonary artery ออกจาก ventricle ซ้ายแทน
พยาธิสรีรวิทยา
หลอดเลือด aorta ออกจาก ventricle ข้างขวาและหลอดเลือด pulmonary artery ออกจาก ventricle ข้างซ้าย ซึ่งรับเลือดแดงจาก atrium ข้างซ้าย
อาการ
มีอาการเขียว 2 –3 วันแรกหลังคลอด
หายใจเร็ว
ดูดนมได้ช้า
หัวใจวาย
ตับโต
เจริญเติบโตช้ากว่าปกติ
การวินิจฉัย
การซักประวัติ: มีอาการเขียว ดูดนมแลว้เหนื่อยง่าย
การตรวจร่างกาย
พบอาการเขียว มี clubbing finger
พบ systolic ejection murmur
หัวใจเต้นเร็ว โตขึ้น
ตับโต
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ : Hb/Hct สูงกว่าปกติ
chest x–ray : เงาหลอดเลือดในปอดเพิ่มขึ้น ห้องหัวใจโต
EKG : atrium และ ventricle ข้างขวาโต ความดันในเส้นเลือดของปอดสูง
echocardiogram
การรักษา
การรักษาทั่วไป
แนะนา อาหารที่ถูกต้อง ป้องกันและรักษาภาวะเลือดจาง
ดูแลสุขภาพฟัน
ป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่หัวใจและภาวะขาดน้า
ให้ o2 และรักษาภาวะหัวใจวาย
ให้ Prostaglandin ในระยะหลงัคลอดใหม่ๆ
ให้ยา digitalis และ ยาขับปัสสาวะ
การรักษาทางศัลยกรรม โดยการทะลุระหว่างผนังกั้น atrium ด้วย balloon หรือทำการผ่าตัดเพื่อให้เกิดทางติดต่อระหว่าง atrium ทั้งสอง
การพยาบาล
ป้องกันภาวะและสังเกตอาการแรกเริ่มของภาวะ shock
จำกัดกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ผู้ป่วนต้องออกแรงมาก
ดูแลให้พักผ่อนหรือลดการทำงานของหัวใจ
ถ้าพบภาวะหมดสติ ต้องรีบจัดท่า knee chest
ดูแลให้ได้รับ O2 ตามแผนการรักษา
ดูแลเตรียมผู้ป่วยให้พร้อมทั้งกายและใจในการผ่าตัด
ป้องกันเฝ้าและสังเกตภาวะขาดน้ำ
ประเมินอาการทางระบบประสาท
ประเมินอาการ IICP
ติดตามน้ำหนักตัวเด็ก
ติดตามผล Hct ถ้า>65% หรือ ร่วมกับมีอาการของเลือดไหลเวียนไปเลี้ยสมองไม่ดีให้รีบรายงานแพทย์
ติดตามดูและป้องกันการติดเชื้อ
ติดตามผล Lab
โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
(Acquired Heart Disease)
ความผิดปกติของหัวใจซึ่งไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิด อาจเกิดขึ้นในระยะใดๆของการเจ็บป่วยด้วยโรคในระบบต่างๆ ในร่างกาย
โรคไข้รูมาติค (Rheumatic fever)
สาเหตุ
การอักเสบที่เกิดขึ้นตามหลังจากการติดเชื้อที่คอ หรือต่อมทอนซิลจากเชื้อโรค Beta hemolytic streptococcus group A
พยาธิสรีรวิทยา
ความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน (Immunopathology) ทำให้มีการทำลายของกล้ามเนื้อหัวใจโดยเฉพาะที่ผนงัของ left ventricle, mitral valve, aortic valve และเยื่อหุ้มหัวใจ การอักเสบจะเป็นแบบ exudative inflammation เกิด granulomatus tissue และ fibrosis การอกัเสบซ้า ๆ จะทา ใหลิ้นหัวใจตีบหรือรั่วได้
อาการ
Carditis : เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด พบร้อยละ 80
พบเสียง murmur ที่ apex
หัวใจโต
หัวใจวาย
Polyarthritis : การอักเสบของข้อ โดยมักจะมีอาการมากกว่า 1 ข้อ มักเป็นข้อใหญ่ๆ
อาการแสดงทางผิวหนัง
Erythema marginatum
Subcutaneous nodule
Chorea : ความผดิปกติในการเคลื่อนไหวร่วมกับมีอารมณ์แปรปรวน
อาการทาง minor criteria
Fever : ไข้ต่ำ
Arthalgia : มีการปวดตามขอ
Previous Rheumatic fever or RHD (Rheumatic heart disease)
increase ESR, C-Reactive protein และ leukocytosis
Prolonged P-R interval
การวินิจฉัย
ต้องพบว่า มี2 major criteria ขึ้นไปหรือ พบ 1 major ร่วมกบั 2 minor criteria
การซักประวัติ
ตรวจร่างกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพาะเชื้อจากคอ ตรวจหา Beta hemolytic streptococcus group A
ASOในเลือดมากกว่า 320 Todd unit
ESR เพิ่มขึ้น
C-reactive protein ให้ผลบวก
chest x-ray : พบเงาหัวใจโตกว่า ปกติปอดบวมน้ำ มีน้า ในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ เยื่อหุ้มปอด
EKG : P-R interval ยาวกวา่ ปกติT-wave ผิดปกติ
(echocardiogram) : ช่วยวินิจฉัยการมีน้ำในเยื่อหุ้ม หัวใจการรั่ว/ตีบของลิ้นหัวใจ
การรักษา
ให้ย้ากำจัดเชื้อโรค Betahemolytic streptococcus
ให้ยาสำหรับลดการอกัเสบ ได้แก่ Salicylate และ Steroid
กรณีมี Carditis โดยที่หัวใจไม่โตให้ Aspirin ขนาดเดิม นาน 4-6 สัปดาห์
ข้ออักเสบอย่างเดียวให้ Aspirin นาน 1-3 สัปดาห์
ให้นอนพัก 2-6 สัปดาห์/เคลื่อนไหวไปมาในห้อง เดินบริเวณใกล้ ช่วยเหลือในการทำกิจกรรมทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับอาการผู้ป่วย
ถ้ามี Chorea ให้ Phenobarbital, Diazepam
ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวาย ให้ digitalis ร่วมกับยาขับ ปัสสาวะเพื่อช่วยในการขยายหลอดเลือด
การพยาบาล
ให้การพยาบาลเช่นเดียวกับเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ
การให้ยาปฏิชีวนะอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเป็นซ้ำ
ภาวะ heart failure
สาเหตุ
ภาวะที่หัวใจไม่สามารถบีบตัวให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อยางเพียงพอต่อความต้องการ
พยาธิสภาพและอาการแสดง
หัวใจขยายโต
หัวใจเต้นเร็ว
ระบบหายใจทำงานหนักปอดบวมน้ำมีหายใจเร็วหรือขัด ฟังปอดได้ยินเสียง crepitation หอบ ไอเรื้อรัง ปอดบวมบ่อยๆ ถ้ามีอาการมากขึ้น จะเกิดหายใจขัด ปีกจมูกบานและเขียวได้ หัวใจเต้นแรง เหนื่อยง่าย เด็กเล็กจะหายใจแรง ขณะดูดนมและใช้เวลาดูดนมนานกว่าจะหมดขวด อาจสำลักหรืออาเจียนได้
เหงื่อออก เพราะอัตราเผาผลาญ เพิ่มขึ้น หัวใจทำงานเพิ่มขึ้น
ปัสสาวะน้อย บวม
ตับโต เลือดคั่ง ในตับ หัวใจซีกขวามีแรงดันเลือดสูง จะเห็นเส้นเลือดดำที่คอโป่งตึง
การเจริญเติบโตชะลอลง หรือล้มเหลว
ความทนทานในการทำ กิจกรรมลดลง เด็กจะหลับเป็นส่วนใหญ่
อาการทั่ว ๆไป จะร้องกวน หงุดหงิด ชอบใหอุ้ม เหงื่อมาก ตัวเล็กไม่สมวัย
การรักษา
ให้พักผ่อนโดยเฉพาะจัดให้นอน Fowler’s position โดยให้ศีรษะสูง 30 องศา หรือในเด็กเล็กให้
นอนใน cardiac chair เพื่อลดการทำงานของหัวใจและเนื้อเยื่อ ต่างๆ ลดความต้องการออกซิเจน
ให้ยาขับปัสสาวะ
จำกัดเกลือในอาหาร
จำกัดน้ำดื่มและน้ำเข้าสู่ร่างกายทุกทางเพื่อลดเลือดที่จะไหลเวียนเข้าสู่หัวใจและเป็นการลดความต้องการออกซิเจนของหัวใจ
check serum electrolyte ป้องกันภาวะ Digitalis intoxication
ให้ยา Digitalis เพื่อเป็นการเพิ่มแรงบีบของกล้ามเนื้อหัวใจ
ให้ยาขยายหลอดเลือด
เมื่อเกิด Cardiogenic shock ต้องให้ sympathominetic amines
ดูแลตามอาการเช่น ให้ออกซิเจนและยาปฏิชีวนะ
การพยาบาล
จำกัดกิจกรรม ดูแลใ้พักผ่อนเต็มที่ ให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวลรวดเร็ว เพื่อลดการใช้ O2
จัดให้ผู้ป่วยนอนศรีษะสูง 30-45 องศา เพื่อให้ปอดขยาตัวได้เต็มที่
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับ O2 ตามแผนการรักษา
ดูแลให้อาหารรสจืดลดการสะสมของน้ำและ Na ในร่างกาย
record I/O
ดูแลให้ไ้ด้รับสารอาหารที่มีแคลลอรีสูงเพื่อทดแทนอัตราการเผาผลาญพลังงานที่สูงกว่าปกติ
ดูแลการให้นมเด็กอย่างถูกต้องเหมาะสม
ดูแลป้องกันการติดเชื้อ
สังเกตุอาการและอาการแสดง
พัฒพงษ์ ธรรมสุวรรณ์ 621001062