Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรภาพของภาวะผิดปกติระบบหัวใจและเลือด, image, image, image, image -…
พยาธิสรีรภาพของภาวะผิดปกติระบบหัวใจและเลือด
คำศัพท์
ที่ควรทราบ
Afterload = แรงต้านการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย 2. Aneurysm = การป่งพองของผนังหลอดเลือด
Atherosclerosis = การแข็งตัวของหลอดเลือดแดง
Congestion = การคั่งของน้ำหรือเลือดในส่วนต่างๆของร่างกาย
Embolus = ลิ่มเลือด ฟองอากาศ ไขมัน ที่ลอยอยู่ในหลอดเลือด
Infarction = การตายของเนื้อเยื่อ จากการขาดออกซิเจน
Ischemia = การได้รับเลือดไป เลี้ยงไม่เพียงพอ
Orthopnea = เหนื่อยนอนราบไม่ได้
Paroxysmal nocturnal dyspnea = หายใจ ล าบากขณะนอนหลับเมื่อนอนราบปกติ
Plaque = แผ่นนูนที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของ อวัยวะต่างๆ
Preload = แรงดันในหัวใจห้องล่างซ้าย เมื่อหัวใจ คลายตัวเต็มที่
Septum = ผนังกั้น
Stenosis = การตีบแคบของส่วนที่เป็นท่อ หรือรู
Varicose = การพองตัวและคดงอ
ระบบไหลเวียนโลหิดประกอบด้วย
1.หัวใจ (heart)
2.หลอดเลือดแดง (artery)
3.หลอดเลือดดำ (vein)
4.หลอดเลือดฝอย (blood capillary)
ความผิดปกติของหลอดเลือด
การหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดง
(Artherosclerosis)
ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งเนื่องจากความดันโลหิตสูง (Hypertensive arteriosclerosis) ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งเนื่องจาก Atherosclerosis และภาวะหลอดเลือดแดงแข็งเนื่องจาก Mönckeberg’s medial calcificsclerosis
อวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ หัวใจ สมอง ไต ลำไส้เล็ก และ lower extremities ซึ่งเกิดพยาธิสภาพ ดังนี้
Abdominal aorta/Terminal aorta : เลือดไปเลี้ยงส่วนของ lower extremities น้อยลง อาจจะพบ gangrene ที่นิ้วหัวแม่เท้า
⬩ Coronary artery : Angina pectoris , Myocardial infarction
Carotid และ Vertebral artery : CVA หรือ Stroke
Renal artery : Hypertension Renal ischemia
Mesenteric artery : Intestinal Ischemia ,Peritonitis
หลักการรักษาพยาบาล
หลักการรักษาภาวะ atherosclerosis คือการทำให้ผนังหลอดเลือดบางลง เพื่อเพิ่ม งวดของหลอดเลือด โดยการทำผ่าตัดเพื่อดูดเอา plaque ออก (endarterectomy) หรือ ทำการตัดต่อเส้นเลือด (Surgical bypass) การทำ Balloon angioplasty และ การทำ endovascular stent
ผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะ มีโอกาสเกิดภาวะ atherosclerosis เนื่องจากมีระดับไขมันในเลือดสูง การแนะนำให้ปรับ พฤติกรรมสุขภาพใหม่เป็นบทบาทของพยาบาล โดยเน้นการออกกำลังกาย การลดปัจจัยเสี่ยง ต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และแนะนำการควบคุมน้ำหนัก เป็นต้น
ภาวะความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตสูง หมายถึง
ความดันโลหิตตัวบน ( Systolic Pressure ) สูงกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท
และ หรือ
ความดันโลหิตตัวล่าง ( diastolic Pressure ) สูงกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท
ระดับความดันโลหิต
ชนิดของความดันโลหิตสูง
Primary hypertension หรือ Essential hypertension เป็นความความดันโลหิตสูงชนิด ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งพบเป็นส่วนใหญ่ของผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง (ประมาณร้อยละ 90) และ พบว่ามีปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ ที่ชักนำให้เกิดความดันโลหิตสูง
2.Secondary hypertension เป็นความดันโลหิตสูงชนิดที่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีสาเหตุจากโรคไต เช่น โรคหลอดเลือดแดงของ ไตตีบ (renal artery stenosis) สาเหตุจากโรคของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น Cushing's syndrome, Pheochromocytoma สาเหตุจากระบบประสาทผิดปกติเช่น เนื้องอกในสมองที่สร้าง catecholamine สาเหตุจากเลือดออกในสมอง และสาเหตุ จากการได้รับยาหรือสารกระตุ้นจากภายนอกท าให้ความดันโลหิตสูง เช่น ยาคุมกำเนิด corticosteroid, caffeine, narcotic cocaine และ amphetamine เมื่อแก้ไขสาเหตุได้ความดันโลหิตจะกลับมาปกติ
พยาธิสรีรภาพ
ความดันโลหิตสูงชนิดนี้ไม่ทราบกลไกการเกิดแน่นอน แต่มีการศึกษาหลายทฤษฎี อธิบายดังนี้
(1) Genetic defect มีความผิดปกติของไตเองตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถ excrete sodium และน้ำได้
(2) Sympathetic nervous system มี overactivity เพิ่มการหลั่งของสาร adrenaline และ Noreadrenaline มากกว่าปกติ
(3) Renin angiotensin system ปัจจัยนี้ได้มีผู้พยายามศึกษาระดับเรนินในพลาสม่า ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงชนิด ไม่ทราบสาเหตุ โดยแบ่งตามระดับเรนินว่าสูง ปกติหรือต่ า พบว่ากลุ่มที่มีระดับเรนินต่ำมีร้อยละ 27 ส่วนกลุ่มเรนินปกติ มีร้อยละ 57 และกลุ่มเรนินสูงมี ร้อยละ 16 ได้มีผู้หาความสัมพันธ์ของระดับเรนินกับความรุนแรงจากความดันโลหิตสูง พบว่า กลุ่มเรนินสูงโอกาสเกิดพยาธิสภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือดจะมีมากกว่าพวกเรนินตำ
หลายระบบของร่างกายทำงานสัมพันธ์กันในการควบคุมความดันโลหิต ดังนั้นตัวกำหนดที่สำคัญคือ ปริมาณเลือดที่ หัวใจสูบฉีดใน 1 นาที (cardiac output) และแรงต้านทานของหลอดเลือด (peripheral resistance)
BP = CO x PR
BP = Blood Pressure
CO = Cardiac Output
PR = Peripheral Resistance
เมื่อมีการเพิ่มของ Cardiac Output และ/หรือการเพิ่มแรงต้านทานของหลอดเลือดจะท าให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
พยาธิสรีรภาพ
การที่ไตถูกทำลาย หรือ หลอดเลือดแดงไปเลี้ยงที่ไตตีบลง จะกระตุ้น renin angiotensin aldosterone System คือ renin enzyme ถูกหลั่งออกมาจาก Juxtaglomerular cell ของ renal afferent arteriole มากขึ้น ทำปฏิกิริยาต่อ Renin substrate จากตับ เป็น Angiotensin I แล้ว Angiotensin converting enzyme จากปอดจะเปลี่ยน Angiotensin I เป็น Angiotensin II ซึ่งเป็นตัวทำให้หลอด เลือดหดตัว และ Angiotensin ยังกระตุ้นให้ Adrenal gland หลั่ง Aldosterone ซึ่งเป็น hormone ที่ เพิ่มความสามารถในการดูดซึมโซเดียมและน้ำที่ distal tubule เพื่อแลกเปลี่ยนโปแตสเซี่ยม ทำให้มีการ เพิ่มปริมาณในระบบ ไหลเวียนโลหิตเพิ่มขึ้นมีผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
ลิ้นหัวใจพิการ
โรคลิ้นหัวใจพิการ อาจเป็นผลให้เกิด
hypertrophy ของ venticle ข้างซ้ายหรือข้างขวา ทำให้การทำงานของหัวใจผิดปกติและมีอาการ หัวใจล้มเหลว
2.dilatation of venticle ของช่องหัวใจ ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
3.การอุดกั้นของเลือดจากหัวใจห้องบนลงห้องล่าง ทำให้เกิดการคั่งของเลือดในอวัยวะต่าง ๆ
การลดลงของปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจ
ระบบไฟฟ้าหัวใจ
การนำไฟฟ้าหัวใจที่ปกติทำให้พลังผลักดัน (impulse) ที่สร้างจากปุ่มไซนัสหัวใจห้องบน (Sinaoatrial node) หรือเอสเอโนด (SA node) ของหัวใจแผ่ไปยัง (และกระตุ้น) กล้ามเนื้อหัวใจ ผลของการกระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหดตัว การกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจอย่างเป็นระเบียบนี้ทำให้หัวใจหดตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้หัวใจสามารถสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย
ภาวะหัวใจล้มเหลว
• คือ กลุ่มอาการ ที่มีเกิดจาก ความผิดปกติในการท างานของหัวใจ
ซึ่งอาจผิดปกติที่โครงสร้าง หรือการท าหน้าที่ของหัวใจ
• ส่งผลให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงงร่างกาย และรับ
เลือดกลับเข้าหัวใจได้ตามปกติ
อาการหลักๆของภาวะหัวใจล้มเหลว ได้แก่ 1. เหนื่อย 2. อ่อนเพลีย3. บวม