Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Viral pneumonia
bz, นางสาวศิรภัทร ตุดเอียด เลขที่ 81, ดาวน์โหลด,…
Viral pneumonia
โรคปอดอักเสบในเด็ก เป็นโรคที่พบได้บ่อยตั้งแต่เด็กวัยทารกจนถึงเด็กวัยก่อนเรียน และยังเป็นปัญหาที่
สําคัญ และพบได้บ่อยในคลินิก ซึ่งทําให้เด็กป่วยเหล่านี้ต้องมาพบแพทย์ พยาบาลจึงมีส่วนสําคัญที่จะช่วยเหลือ เด็กป่วยโรคปอดอักเสบให้ปลอดภัย นับตั้งแต่การประเมินปัญหาสุขภาพในระยะแรกรับ การให้การดูแลอย่าง
ใกล้ชิด ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องแก่บิดามารดา เช่นการใช้เครื่องช่วยหายใจ
สาเหตุ
เชื้อไวรัสที่พบบ่อยคือ Respiratory syneytial virus (RSV) เชื้อไข้หวัดใหญ่ (Inuenza) และ เชื้อ Parainuenza
เชื้อแบคทีเรีย ในเด็กเกิดจาก Staphylococcus pneumoniae มากที่สุด และแบคทีเรียอื่นๆ เช่น Haemophilus influenzae , Streptococcus pneumoniae
เชื้อ Myoplasma pcumonia หรือ Pimary pnumnia มักพบในช่วงฤดูหนาว และฤดูใบไม้ร่วง รวมทั้งในสภาวะที่คนอยู่กันหนาแน่น
-
อาการและอาการแสดง
- มีใช้สูง หายใจเร็ว มีจมูกบาน มีการหครั้งของกล้ามเนื้อทรวงอก ใจลำบาก ไออาจจะมีเสียงเสมหะ หรือไม่มีก็ได้ เจ็บหน้าอก มีเสียงคราง ในช่วงการหายใจออก ผิวหนังซีดหรืออาจจะเขียว
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความ รุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ซึม กระสับกระถ่าย นอนไม่หลับ
- เคาะปอดมีเสียงทึบ ฟังปอดได้ยินเสียงหายใจผิดปกติ เช่น Rhonchi, crepitation
- ผลเลือดพบม็ดเลือดขาวสูง ก๊ซในเลือด (blood gas) มี
ภาวะขาดออกซิเจน จากการเพาะเชื้อ พบเชื้อในร่างกาย
การวินิจฉัยแยกโรค
2 เชื้อไวรัส การดำนินโรคชนิดเดียบพลัน มีใช้สูง ไอ น้ำมูกไหล ฟังปอดมีเสียง Crepitation.
Wheezing เอกรย์ปอดพบ Transicnt Iober inilratcs ผลการตรวจเลือด WBC ปกติหรือสูงเล็กน้อย
- เชื้อไมโครพลาสมา การดำเนินโรคช้า มีใช้สูง ไอมาก เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ เอกชรย์ปอดพบ Varics interstitial infilrates ผลการตรวจเลือดปกติ
- เชื้อเบคที่เรีย การดำเนินโรคชนิดเฉียบพลัน มีใช้สูง มักเริ่มด้วยซึม เป็นหวัด ไอ หายใจหอบ มีเสียงคราง มีการหครั้งของกล้ามเนื้อหน้าอก ฟังปอดมีเสียง Crepiation เอกซIรย์ปอดพบ Lobur cnsolidaticn ผลการตรวจ เลือด WBC มากกว่า 15,000 เซลด์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร
การพยาบาล
- การชักประวัติ ควรซักประวัติ เกี่ยวกับอายุ สาเหตุของการเจ็บป่วย การเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการเจ็บป่วยครั้งนี้
- ส่งเสริมให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ และเพิ่มเนื้อที่ในการแลกเปลี่ยนก๊ที่ดีในปอดโดยการปฏิบัติดังนี้
2.1 เลือกให้ออกซิเจนและความชื้นที่เหมาะสมทั้งขนาดและชนิดของอุปกรณ์ที่ใช้ตามวัย และโรค
เช่น เด็กทารกให้ออกซิเจนชนิดกล่องครอบศีรยะ เด็กโตใช้ชนิดกระโจม
2.2 จัดท่านอนให้ศีรษะสูง หนุนไหล่ด้วยผ้าหรือหมอนอย่างพอเหมาะ ให้ทางเดินหายใจเปิดโล่งและกระบังลมหย่อน
- ส่งเสริมทางเดินหายใจให้โล่ง และมีการระบายเสมหะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศที่ดีของปอด โดยการปฏิบัติดังนี้
3.1 ดูแลทำความสะอาดทางเดิโมายใจให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเช็ตช่องจมูก ช่องปากด้วยน้ำสะอาด
3.3 เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ ทำให้ลดการคั่งของเสมหะ
3.4 ดูดเสมหะในช่องจมูกและปาก ทำทางเดินหายใจให้ไล่งเมื่อเสมหะดั่งค้าง
- ติดตามภาวะเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน โดยตั้งอุปกรณ์วัดคำความอิ่มตัวของออกซิเจนในเนื้อเยื่ออย่างถูกวิธี
- ติดตามประเมินผลการหายใจ ลักษณะความลึก อัตราและการใช้กล้ามเนื้อทรวงอก ความรุนแรง ของการหอบเหนื่อย และสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง
- ดูแลเช็ดตัวลดไข้ อย่างถูกวิธี แนะนำบิดามารคาเช็ดตัวลดไช้อย่างถูกวิธี และให้ยาลดไข้ตามแผนการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดภาวะชัก
- ให้สารน้ำตามแผนการรักษา และกระตุ้นให้ได้สารอาหารอย่างเพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกายเพื่อส่งเสริมให้หายเร็วขึ้น
- ยกไม้กั้นเตียงขึ้นทุกครั้งหลังการให้การพยาบาล เพื่อป้องกันการตกเตียง
- ให้ความรู้แก่บิดามารดา ในภารป้องกันโรค เช่น การฉีดวัคซีน ด้านโภชนาการ การติดต่อของโรคระบบทางเดินหายใจ และการดูแลผู้ป่วยต่อที่บ้าน
-
-
-
-
-