Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สมดุลน้ำ อิเล็คโตรไลท์ กรดด่างในร่างกาย, สกรีนช็อต 2021-08-17 202311,…
สมดุลน้ำ อิเล็คโตรไลท์ กรดด่างในร่างกาย
ความไม่สมดุลของน้ำ
น้ำ (WATER) น้ำ ( total body fluid ) เป็นส่วนประกอบ 2 ใน 3 ของร่างกาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ โดยมีเยื่อกั้นบางๆ
(membrane) เป็นตัวแยก : 55-60% ของน้ำหนักตัว
1.น้ำภายในเซลล์ ( intracellular fluid ; ICF ) : 40% ของน้ำหนักตัว
2.น้ำภายนอกเซลล์ ( extracellular fluid ; ECF ) : 20% ของน้ำ หนักตัว
การควบคุมสมดุลน้ำในร่างกาย
การกระหายน้ำควบคุมโดยปริมาตรน้ำและความเข้มข้นของพลาสมาศูนย์กระหำยน้ำในไฮโปธาลามัส (Hypothalamus)
การขับปัสสาวะอาศัยไตควบคุมโดยความเข้มข้นและปริมาตรของพลาสมา
กลไกลการรักษาดุลยภาพของน้ำ
การกระหายน้ำ
สมองส่วนไฮโพทาลามัส (hypothalamus) ควบคุมปริมาณน้ำในเลือดถ้าร่ำงกายขาดน้ำมักจะทำให้เลือดเข้มข้นกว่าปกติเกิดอาการกระหายน้ำ
ADH ไปกระตุ้นท่อหน่วยไตให้ด้ดน้ำกลับเข้าสู่หลอดเลือดทำให้ปริมาณน้ำในหลอดเลือดสูงขึ้นและความรู้สึกกระหายน้ำลดน้อยลง
ถ้าเลือดเจือจางไฮโพรทาลามัสจะยับยั้งการสร้าง ADH ทำให้การดูดน้ำกลับคืนน้อย น้อยปริมาณน้ำในร่างกายจึงอยู่ในสภาวะสมดุล
การขับปัสสาวะ
กลไกควบคุมความเข้มข้นของพลาสมาให้คงที่ โดยอำศัย ADH
กลไกควบคุมปริมาตรน้ำ
การกรองที่ไต
aldosterone
ADH
ภาวะขาดน้ำ (Fluid deficit หรือ Dehydration) คือภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ได้รับอาจขาดเฉพาะน้ำอย่างเดียวหรือขาดน้ำมากกว่าเกลือ(hypertonic dehydration)
สาเหตุ
ได้รับน้ำน้อยลงดื่มน้ำน้อยเกินไป
ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป
ปัสสาวะมากผิดปกติ
เสียทำงผิวหนังและปอดเหงื่อออกมากผิดปกติ
กลไกลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่ระดับเซลล์
เมื่อร่างกายขาดน้ำจะมีผลทำใหค้วามเข้มข้นของพลาสมาเพิ่มขึ้น
จึงดึงน้ำจากภายในเซลล์ออกสู่ภายนอกเซลล์
การตอบสนองของร่างกาย
ปริมาตรน้ำนอกเซลล์ที่ลดลงและความเข้มข้นของพลาสมาเพิ่มขึ้น
อาการขาดน้ำ
อาการขาดน้ำที่รุนแรงน้อยถึงปานกลาง ได้แก่ผิวแห้งริมฝีปาก,ช่องปากแห้ง, อ่อนเพลีย, เหนื่อยง่ำย, ปัสสาวะน้อย, มึนหัวเวียนศีรษะ
ภาวะน้ำเกินและภาวะพิษของน้ำ
การคั้งของทั้งเกลือและน้ำ (isotonic expansion)
การคั้งของน้ำอย่างเดียว (water volume excess)
การคั้งของน้ำมากว่าเกลือ (hypo-tonic expansion)
การควบคุมความสมดุลของกรด - ด่าง
(regulation of acid base balance )
ในภาวะปกติ pH ในเลือดแดง (arterial blood pH) มีค่าประมาณ 7.4 และ pH ใน เลือดดำ (venous blood pH) มีค่าประมาณ 7.35 pH ในเลือดดำต่ำ กวา่ ในเลือดแดงเนื่องจากในเลือดในภาวะปกติ pH ในเลือดแดง (arterial blood pH) มีค่าประมาณ 7.4 และ pH ใน เลือดด า (venous blood pH) มีค่าประมาณ 7.35 pH ในเลือด ดำต่ำกว่าในเลือดแดง
ความหมายของคำ
Acidosis: ภาวะที่ร่างกายมีความเป็นกรดเกิดขึ้น มีระดับของ PH ในเลือดแดง < 7.35
Alkalosis: ภาวะที่ร่างกายมีความเป็นต่างเกิดขึ้น มีระดับของ PH ในเลือดแดง > 7.45
Arterial Blood Gases: วิธีประเมินค่าความเป็นกรด-ด่างของร่างกายโดยการเจาะเลือดจากหลอดเลือดแดง
Buffer: สารซึ่งเมื่อละลายน้ำจะคง PH ของสารนั้นไว้ได้แม้ว่าเติมกรดแก่ หรือด่างแก่ลงไป หรือแม้ PH จะเปลี่ยนแปลงก็เป็นเพียงเล็กน้อย
ในสภาวะปกติของร่างกายmetabolism ของร่างกายจะเกิดกรดตลอดเวลา เนื่องจาก oxidation ของอาหาร
ในเลือดแดง pH ปกติมีค่า 7.35-7.45
ในเลือดดำและในช่องว่างระหว่างเซลล์ pH มีค่าประมาณ 7.35
ภายในเซลล์ PH ปกติอยู่ระหว่าง 6.0-7.4 แตกต่างกันในเซลล์ต่างๆ
pH ในเลือดแดงมีค่า > 7.45 เรียกว่า alkalosis
pH ในเลือดแดงมีค่า < 7.35 เรียกว่า acidosis
สิ่งที่ช่วยควบคุมภาวะกรด-ด่างในร่างกาย
ㆍBuffer:มีอยู่ทั้งในและนอกเซลล์ จะปรับภาวะกรด-ด่างให้เข้าสู่สมดุลภายในไม่กี่วินาที มีปริมาณจำกัด เมื่อใช้หมด ร่างกายจะอาศัยการทำงานของอวัยวะระบบอื่นในการแก้ภาวะเสียสมดุล
ㆍระบบหายใจ ปอด: ควบคุมอัตราการกำจัด C02 ออกจากร่างกายมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง carbonic acid (H2CO3)
ㆍ ไต: ควบคุมปริมาณการขับทิ้ง H' ในปัสสาวะ มีประสิทธิภาพในการควบคุมกรด-ด่างมากที่สุด แต่ต้องใช้เวลาหลายวัน
Buffer
เป็นสารซึ่งเมื่อละลายน้ำจะคง pH ของสารนั้นไว้
ทำปฏิกิริยากับกรดและด่างเกิดเป็น เกลือของกรดหรือด่างนั้น ซึ่งมีสภาพเป็นกลางหรือกรดอ่อน
ระบบ buffer ในร่างกายแบ่งเป็น 4 ระบบ
I. Bicarbonate-carbonic acid buffer system
Phosphate buffer system
Protein buffer system
Haemoglobin buffer system
Phosphate buffer system
เป็น buffer ที่สำคัญในเซลล์มากกว่าในเลือดเนื่องจากมีอยู่ในเซลล์จำนวนมาก โดยเฉพาะใน Redblood cell และ renal tubule cell
พบทั้งในเซลล์และนอกเซลล์ แต่โดยส่วนใหญ่พบในเซลล์ มีประจุลบ จึงเป็น buffer ที่มีความสำคัญในเซลล์
การควบคุมภาวะกรด-ด่างโดยไต
ขับกรดที่เกิดจาก metabolism ของร่างกาย โดยเฉพาะ non-volatile acid
I. non-volatile acid จาก protein: amino acid ที่มี sulfuric และphosphoric acid
non-volatile acid จาก lipid: keto acid
non-volatile acid จาก carbohydrate: lactic acid และ pyruvic acid
กลวิธีในการรักษาสมดุลกรด-ด่างของไต
การดูดซึมกลับของ bicarbonate
การขับ H+ โดยรวมกับ HPO4 เป็น H2PO4 หรือ titratable acid
การขับ H+ โดยการสร้างเกลือแอมโมเนีย
ในภาวะที่ร่างกายเป็นกรด กลวิธีทั้ง 3 ประการจะทำงานมากขึ้นปัสสาวะจะมี PH ต่ำลง อาจต่ำได้ถึง 4.0 มีการขับถ่าย titratable acidและเกลือแอมโมเนียเพิ่มขึ้นในภาวะที่ร่างกายเป็นด่างกลวิธีในการขับ H+ และดูดซึ,bicarbonate กลับจะลดลง ปัสสาวะเป็นด่าง อาจมี pH ได้ถึง 8.0 มีการขับ bicarbonate ในปัสสาวะการสร้าง titratable acid และเกลือแอมโมเนียน้อยลง